รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
ใหม่ล่าสุด…รีวิวสิงคโปร์ 2012 –> รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ด้วย Air Asia 3 วัน 2 คืน ไม่ง้อทัวร์
สงกรานต์ในปีนี้ ไม่ได้เปียกน้ำซักหยด เพราะไป เที่ยวสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 13 – 16 เมษายน 54 กว่าจะกลับกรุงเทพฯ เค้าก็เลิกเล่นสงกรานต์กันแล้ว เดือนนี้ขอเขียนแนวท่องเที่ยวต่างแดน ที่สิงคโปร์นะครับ เป็นประเทศที่ไปเที่ยวง่าย ไม่ต้องใช้ Visa ปลอดภัย นั่งเครื่องเพียง 2 ชั่วโมง ไปเองได้ ไม่ต้องง้อทัวร์
ทริปนี้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าตั้งแต่ สัปดาห์แรก ของมกราคม ดูหลายสายการบิน ตั้งแต่ Low cost Air asia, Jet star, Tiger airway, Singapore airway และ Cathay Pacific ราคาของสายการบิน Low cost ไม่ได้ถูกไปกว่า Full service อย่าง Cathay Pacific เท่าไหร่นัก เลยสรุปว่าเลือกที่จะบินกับ Cathay Pacific ดีกว่า เที่ยวไป CX713 เที่ยวกลับ CX712
ผลของการจองล่วงหน้าถึง 4 เดือนทำให้ได้ราคาถูก ค่าตั๋ว ไป-กลับ ต่อคน เพียง 5,300 บาท รวมภาษีแล้ว อยู่ที่คนละประมาณ 7,500 บาท ราคานี้โหลดกระเป๋าได้คนละ 20 กิโลกรัม และมีอาหารให้ทานบนเครื่อง บินในช่วงวันหยุดสงกรานต์ด้วย คุ้มมากๆ ครับ
สายการบิน Cathay Pacific เค้าจะมีให้ทำ Web Check-in ได้ล่วงหน้า 2 วัน เราจะต้องรีบทำ Web Check-in เพื่อที่จะเลือกที่นั่งดีๆ หลักการก็คล้ายๆ Web Check-in ของ Air asia แหล่ะครับ คลิ๊กๆ 2-3 ทีก็เสร็จ
เพื่อเป็นการไม่ประมาท เราไปถึงสนามบินล่วงหน้า 3 ชั่วโมง กลัวแถว Check in ยาว กลัวรอ ตม. ตรวจนาน เที่ยวบินของเราเป็นรอบ 11.45 น.
มองหาเกท เช็คอินของคาเธ่ย์ แปซิฟิก
เค้าท์เตอร์ เปิดอยู่หลายช่องเลยครับ แต่มีช่องพิเศษสำหรับ Web check-in / Drop Baggage ซึ่งไม่มีคนรอเลย เราก็เลยไปเข้าช่องนั้น เพราะเราทำ Web check in มาแล้ว พนักงานเค้าจะขอดูบัตรเครดิตที่เราใช้จองด้วย ใครจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตอย่าลืมเอาบัตรใบนั้นไปด้วยนะครับ สะดวก รวดเร็วมาก ไม่ต้องรอคิว
ก่อนเดินทางผมได้ไปแลกเงินบาทเป็นเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ (SGD) ที่ Super rich แต่ไม่สามารถแลกได้ เพราะเค้าไม่มีแบงค์ย่อย มีแต่แบงค์ 1000 SGD ซึ่งแบงค์ใบนี้ใบเดียว ต้องใช้เงินไทยแลกถึง ประมาณ 24,xxx บาท โอ้…ใครจะกล้าแลกครับเนี่ย ทริปนี้ผมว่าจะแลกไป 12,000 บาท ก็คิดว่าเหลือๆ แล้ว
เลยตัดสินใจว่าจะแลกเอาที่สนามบิน แม้เรทแพงหน่อยแต่ก็สะดวกดี ในกระเป๋าผมมีทั้งเงินบาทและเงินหยวนของจีน (CNY) ที่เหลือจากทริปที่แล้ว เงินหยวนตีเป็นบาทได้ประมาณหมื่นกว่าบาท ที่ Exchange บอกว่าถ้าจะเอาเงินหยวนไปแลกเป็นดอลล่าร์สิงคโปร์ จะต้องแปลง 2 รอบ CNY –> THB และ THB –> SGD ดูแล้วขาดทุนย่อยยับต้องเสียค่าแลกเปลี่ยนถึง 2 ครั้ง
เลยเอาเงินบาทไปแลกสิงคโปร์มา 100 SGD (2,437 บาท) ใช้แก้ขัดไปก่อน แล้วค่อยเอาเงินหยวนไปแลกดอลล่าร์สิงคโปร์ ที่สิงคโปร์เอา
วันนี้รอคิว ตม. ไม่นาน คงเป็นเพราะช่วงใกล้เที่ยง เที่ยวบินไม่เยอะ และ ตม. ก็เปิดอยู่หลายช่องเหมือนกัน
มีเวลาเหลือพอที่จะเดินดูของ Duty free ได้จนเบื่อ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินที่มีร้านค้าเยอะมาก เป็นของ King power ทั้งนั้นเลย
และแล้วเครื่องบินเที่ยว CX713 ก็มาเทียบงวงช้างแล้วครับ เอาคนมาลงที่เกทนี้ แล้วก็รับคนขึ้นที่เกทนี้เช่นกัน
เที่ยวบิน CX713 เป็นเครื่องบินลำใหญ่ จัดที่นั่งแบบ ซ้าย 3, กลาง 3 และ ขวา 3 พร้อมจอทีวีส่วนตัว (PTV) ทุกที่นั่ง + หูฟัง เบาะกว้าง นั่งสบาย ตามมาตราฐาน สังเกตุว่าผู้โดยสารในลำนี้เป็นคนจีนเยอะเหมือนกัน คงเป็นเพราะสายการบินคาเธ่ย์ เป็นสายการบินของฮ่องกง
พอเครื่องขึ้นไปได้ซักพัก แอร์โฮสเตสก็จะแจกแบบฟอร์มเข้าเมืองสิงคโปร์ (Embarkation form) ให้เรากรอก อย่าลืมใส่ที่อยู่โรงแรมในสิงคโปร์ไปด้วยนะครับ กรอกให้ครบจะได้ไม่เสียเวลาที่ด่าน ตม.
ใบ ตม. สิงคโปร์ ด้านหน้า (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ใบ ตม. สิงคโปร์ ด้านหลัง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ผมทำคำแปลใบ ตม. สิงคโปร์ เป็นตัวอย่างมาให้แล้ว กรอกตามได้เลยครับ 🙂
หลังจากนั้นแอร์โฮสเตส ก็แจกอาหารให้กับ First class, Business class แล้วค่อยมายัง Economy อาหารก็จะมี หมู, เนื้อ, ปลา ให้เลือก ผมเลือกเป็นปลาครับ ในเซ็ทนี้ก็จะมี ข้าวกล่อง 1 กล่อง, ขนมปัง 1 ก้อน + เนย, วุ้น, ผลไม้ และเครื่องดื่ม ถ้ากินหมดนี่ก็อิ่มเลยครับ ลงจากเครื่องแล้วไม่ต้องไปหากินอีก
เครื่องบินจอดเทียบงวงช้างที่ Terminal 1 ซึ่งเป็น Terminal ของสายการบินทั่วไป จากนั้นก็ต้องลงไปที่ ตม. สิงคโปร์ (Arrival Immigration) ผมหาแผนที่แจกฟรีที่สนามบิน เหมือนว่าจะไม่เห็น จำได้ว่าคราวที่แล้ว มีแจกเยอะเลย หรือแผนที่วางอยู่ที่ไหนครับ ใครทราบช่วยบอกที
ที่ด่าน ตม. คนค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ น่าจะเป็นคนไทยเยอะที่สุด เพราะเป็นวันหยุดสงกรานต์ของบ้านเรา
ใครที่ยังไม่ได้กรอกใบ Immigration form เค้าก็มีให้กรอก และยังมีคำแปลเป็นภาษาต่างๆ ให้ด้วย เช่น ภาษาญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ฝรั่งเศส, เกาหลี แต่ผมไม่ได้ดูว่ามีภาษาไทยหรือเปล่า
ใครที่กังวลว่า ตม. สิงคโปร์เค้าจะถามเยอะ กลัวว่าจะสื่อสารไม่ได้ ผมบอกได้เลยครับ ว่าตั้งแต่ต่ออยู่ปลายแถว ไม่เห็นเค้าจะถามใครเป็นเรื่องเป็นราวเลย หรือว่าวันนี้เครื่องลงเยอะก็ไม่รู้ อย่างมากก็อ่านชื่อ – นามสกุลเรา เราก็พยักหน้ารับ เท่านั้นพอ แล้วก็ปั๊มตรา ผ่านไปได้
การเดินทางจากสนามบิน Changi เข้าไปยังตัวเมือง วิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุดก็คงเป็นรถไฟฟ้า เราสามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ที่ Terminal 2 และ 3 เท่านั้น ดังนั้นเราจะต้องไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ Terminal 2
รถไฟฟ้าที่วิ่งระหว่าง Terminal 1-2, 2-3 จะเป็นรถไฟฟ้าขบวนสั้นๆ ไม่มีคนขับ มาทุกๆ 3-5 นาที ให้บริการฟรี
และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟฟ้า Changi Airport อย่างแรกเลยก็ต้องซื้อบัตรโดยสาร EZ link ใหม่ เดินไปที่ Counter แล้วบอกเค้าว่า “New EZ link 2 cards” จะต้องจ่ายค่าบัตรโดยสารใบละ 12 SGD จะแบ่งเป็นค่าบัตร 5 SGD และมูลค่า ในบัตร 7 SGD
ใครที่คิดว่าจะขอยืม EZ link คนอื่นไปใช้ ผมว่าซื้อเองเลยก็สะดวกดีครับ เสียค่าบัตรไปเปล่าๆ 5 SGD (ประมาณ 120 บาท) เอง ค่าส่งบัตรไปๆ มาๆ ขับรถไปเอา เผลอๆ จะแพงกว่าด้วยครับ
ตอนที่ซื้อตั๋วอย่าลืมขอแผนที่รถไฟฟ้าเค้ามาด้วยนะครับ เค้ามีแจกฟรี
ซื้อบัตรโดยสารแบบไหนดี?
ผมเคยคิดหลายครั้งแล้วว่าจะซื้อ EZ link, Tourist pass หรือ Standard Ticket ดี สรุปว่าได้ข้อดี ข้อเสียตามนี้ครับ
EZ link : เสียค่าบัตรไปเปล่าๆ 5 SGD (ประมาณ 120 บาท) บัตรมีอายุ 5 ปี ข้อดีคือสะดวก บัตรเดียวใช้ได้ทั้ง MRT, Bus, ใช้ซื้อของใน 7-eleven ได้ และจ่ายค่า Sentosa Express ได้ด้วย ถ้าคิดว่าจะกลับมาเที่ยวสิงคโปร์อีกก็ซื้อ EZ link เลยครับ
Tourist pass : หาซื้อบัตรยาก หาที่คืนบัตรยาก นับวันตามวันที่ ไม่ได้นับเป็น 24 ชั่วโมงจากที่ออกบัตร คิดเหมาที่วันละ 8 SGD + มัดจำบัตร 10 SGD ซึ่งถ้าใช้ EZ link เดินทางทั้งวัน ปกติแล้วจะใช้ไม่เกินวันละ 8 SGD ถ้าซื้อครอบคลุมวันไป – วันกลับ จะขาดทุน 2 วัน คือวันไป – วันกลับ เพราะเดินทางน้อย ข้อดีคือ คืนบัตรได้มัดจำคืน 10 SGD
ถ้าจะซื้อบัตร Tourist pass แนะนำให้ซื้อแบบวันเดียวครับ ราคา 8 + 10 SGD แล้วใช้ในวันที่เดินทางเยอะๆ วันรุ่งขึ้นบัตร Tourist pass ที่หมดอายุแล้วสามารถเติมเงินใช้เป็นบัตร EZ link ได้ และสามารถ refund บัตรคืนมัดจำ (10 SGD) และเงินในบัตรได้หมดเลย
Standard Ticket : ซื้อบัตรเป็นเที่ยวๆ บัตรมีมัดจำ 1 SGD เมื่อถึงสถานีปลายทาง ก็คืนบัตรกับตู้ ได้มัดจำคืนหมด แต่จะไม่สะดวกในกรณีที่เดินทางไปหลายๆ ที่
ป.ล. บัตรโดยสารที่กล่าวมาทุกชนิดต้องใช้ 1 คน ต่อ 1 ใบนะครับ บัตรที่แตะผ่านทางเข้าไปแล้วจะแตะทางเข้าซ้ำไม่ได้
บัตร EZ link ที่ซื้อมาใหม่จะมีเงินในนั้น 7 SGD เราสามารถเติมเงินได้ที่ตู้เติมเงิน โดยวางบัตรในที่วางบัตร เลือก Top up แล้วใส่เงินเข้าไป ขั้นต่ำ 10 SGD กดยืนยัน ก็เป็นอันเสร็จ
การเดินทางจากสนามบิน (Changi Airport) เข้าเมือง
ให้นั่งสายสีเขียว East West Line จากสถานี Changi Airport ไปลงที่สถานี Tanah Merah รถไฟฟ้าจากสนามบินจะวิ่งสิ้นสุดที่สถานี Tanah Merah เท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องลงไปต่อรถไฟฟ้าที่นี่
จากสถานี Tanah Merah ให้นั่งสายสีเขียว East West Line ฝั่งที่มีปลายทางอยู่ที่ Joo Koon แล้วก็ดูแผนที่เอาว่าจะไปต่อรถไฟฟ้าที่ Inter change ไหน
[วันที่ 1]
ที่พักของผมในทริปนี้ พักที่ Hotel 81 Bencoolen ทั้ง 3 คืนเลย ราคาที่พักทั้ง 3 คืนอยู่ที่ 9,322 บาท ตกคืนละ 3107.33 บาท ไม่มีอาหารเช้า จากการเช็คราคาแล้ว agoda ถูกสุดครับ จากที่ไปพักมา 3 คืน โรงแรมนี้ถือว่าเป็นโรงแรมที่คุ้มราคาเลยครับ ห้องพักราคาไม่แพง ใกล้รถไฟฟ้ามาก ฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็มี 7-eleven และ Food court KOPITIAM ที่เปิดตลอด 24 ชม. ลองเช็คราคาเล่นๆ ได้ที่ link ด้านล่างครับ จองล่วงหน้านานหน่อยก็จะถูกกว่าจองใกล้ๆ วันไป
Link. เช็คราคาโรงแรม Hotel 81 Bencoolen, จองโรงแรม Hotel 81 Bencoolen, โรงแรมสิงคโปร์
สำหรับคนที่พักที่ Hotel 81 Bencoolen ผมจะบอกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแบบที่ง่ายๆ เดินน้อยๆ ให้ครับ
1. จากสถานี Changi Airport ไปลงที่สถานี Tanah Merah
2. นั่งสายสีเขียว (East west line) ที่มีปลายทางอยู่ที่ Joo Koon ไปลงที่สถานี Paya Lebar
3. ที่สถานี Paya Lebar เปลี่ยนไปขึ้นสายสีเหลือง (Circle line) ที่มีปลายทางอยู่ที่ Dhoby Ghaut ไปลงที่สถานี Bras Basah
4. ออกจากสถานี Bras Basah ด้วยทางออก E แล้วเดินมาทางซ้ายจะเจอกับสี่แยกที่มี Food court KOPITIAM ข้ามถนนที่ไฟแดง แล้วเดินไปทางขวา อีกประมาณ 50 เมตร โรงแรมจะอยู่ทางซ้าย
เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าก็เจอฝนก่อนเลย ร่มก็ไม่มี มีแต่เสื้อกันฝน เราวิ่งฝ่าฝนตัวเปียกไปเช็คอินที่โรงแรม ยื่น Voucher การจองของ agoda ให้กับพนักงาน พนักงานที่นี่เอาทิชชู่มาให้เช็ดหน้าที่เปียก แปปเดียว เราก็ได้กุญแจห้องมา ไม่มีค่ามัดจำ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มทั้งนั้น
ซ้าย : Lobby โรงแรม ขวา : ภายในโรงแรม
เราพักที่ชั้น 8 ครับ ห้อง Standard นอนได้ 2 คน มีน้ำดื่มให้ 1 ขวด, กาต้มน้ำ กาแฟงซอง, ไดเป่าผม, ผ้าเช็ดตัว, แปรงสีฟัน, หวี, หมวกอาบน้ำ, ทีวี + เคเบิ้ล ดูได้หลายช่องเหมือนกัน มีหน้าต่างที่หลังห้อง แต่เปิดไม่ได้นะครับ ปิดตายไว้
ภายในห้องก็ถือว่าเล็ก แต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร ถือว่าสมราคา ส่วนความสะอาดก็ถือว่าใช้ได้เลยครับ
เปิดลิ้นชักด้านขวามาจะเจอกับสาย LAN เอาไว้เล่นเนตได้ครับ แต่ต้องไปขอ Username & Password ที่ front นะครับ ใช้ได้ฟรีครับ
ภายในห้องน้ำ ก็ไม่ถือว่าเล็กมาก มีอ่างอาบน้ำ น้ำร้อน, น้ำเย็นให้ มีสบู่เหลว & แชมพู ที่อยู่ข้างฝักบัวให้ใช้ อ้อ…เสียอยู่อย่างเดียวครับไม่มีฝักบัวชำระข้างชักโครกให้
นั่งเล่นดูทีวีได้ซักพัก ฝนก็หยุด เราก็เลยว่าจะไปเดินเล่น Orchard กัน เดินไปจากที่พักได้เลยครับ
ที่ทางออกของโรงแรมเห็นแผนที่แจกฟรีเพียบ เลยเลือกอันที่มีประโยชน์มา สบายแล้วไม่ต้องกลัวหลง
ทางไป Orchard ออกจากโรงแรม Hotel 81 Bencoolen แล้วเดินไปทางขวา จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาอีกครับ จะเจอถนน Orchard ทางนี้ก็เป็นทางที่ไปสถานีรถไฟฟ้า Dhoby Ghaut ด้วย
ระหว่างทางไป Orchard ซ้าย : SOTA school of arts Singapore ขวา : สถานีรถไฟฟ้า Dhoby Ghaut
ห้างแรกของถนน Orchard Plaza Singapura & Carrefour
เจอรถ CityTours Hopper โผล่มาพอดี เป็นรถเปิดประทุน 2 ชั้น พาเที่ยวชมรอบเมืองแบบไม่จำกัดเที่ยว ราคาคนละ 19.90 SGD กดเครื่องคิดเลขดู เกือบ 500 บาทแนะ เดินเข้า Orchard ต่อดีกว่า
ผมมาสิงคโปร์ครั้งที่แล้ว ประมาณ 4 ปีก่อน รู้สึกว่า Orchard มีห้างเยอะมากขึ้น อยู่ติดๆ กันหมดเลย
อุ้ย…มีร้าน Adult shop ขายพวก Sex toy ด้วย เห็นอยู่ 2-3 ร้าน ร้านนี้อยู่ใกล้กับโรงแรม Hotel Grand central และห้าง Orchard Plaza ผมชี้พิกัดให้เลย
Hotel Grand central เป็นโรงแรมที่ผมมาพักเมื่อทริปที่แล้ว เป็นโรงแรมที่ทำเลดี อยู่ในย่าน Orchard เลย ใกล้ห้างมากๆ ราคาไม่แพงด้วย แต่ห้องอาจจะเก่านิดนึง
OG Orchard Point
อันนี้น่าจะเป็นห้างเปิดใหม่ Orchard Central เพราะมาคราวที่แล้วไม่เห็นมี
ห้างเยอะจริงๆ ผมเข้าไปสำรวจราคาสินค้า Brand name ที่เค้า recommend กันว่าถูก และน่าซื้อ เช่นเสื้อผ้ายี่ห้อ Bossini ก็ไม่เห็นว่าจะถูกกว่าบ้านเราเลย มีแต่ราคาเท่ากัน หรือแพงกว่าด้วยซ้ำ หรือว่าไม่ใช่ช่วง Grand sale ของเค้าก็ไม่รู้
2 มือล้วงกระเป๋า พบว่าเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ (SGD) เริ่มเหลือไม่เยอะแล้ว เลยเอาเงินหยวนมาแลกเป็นเงินสิงคโปร์ซะเลย เป็นร้านแลกเงินอยู่ริมถนน Orchard คนแลกเงินเป็นคนแขก ร้านแลกเงินที่นี่เค้าจะเรียกว่า Money changer (บ้านเราเรียก Money Exchange)
2,250 CNY แลกได้ 429.75 SGD ผมว่าก็เป็นเรทที่ใช้ได้ไม่น่าเกลียด
เงินๆๆ เต็มไปหมด เอามากระจายกันไว้ แล้วถ่ายรูป ดูแล้วเหมือนเยอะ กองนี้หมื่นกว่าบาทนิดๆ ครับ
ผ่าน Singapore Visitors Center เห็นไฟสวยดี เลยขอซักรูป
เดินไปเดินมาชักเหนื่อย เดินกลับไม่ไหวเลยนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Somerset กลับ ไม่เดินกลับเหมือนตอนมา
พอกลับถึงห้องเปิดน้ำอุ่นนอนแช่ในอ่าง ก็สบายตัวขึ้นเหมือนกัน คืนแรกก็หลับไปอย่างเหนื่อยๆ ครับ
[วันที่ 2]
วันนี้ผมไปเที่ยว Universal Studios Singapore, เกาะ Sentosa ทั้งวัน ขอยกไปอีกรีวิวเลยนะครับ เพราะรายละเอียดเยอะมาก รีวิวนี้จะเน้นเที่ยวในเมืองเป็นหลัก
อ่าน –> เที่ยวสวนสนุก Universal Studios Singapore และเกาะ Sentosa
[วันที่ 3]
ตื่นเช้ามาฝากท่องไว้กับ Food court KOPITIAM ที่อยู่เยื้องกับโรงแรม KOPITIAM เปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ ไม่ต้องกลัวว่าดึกๆ จะหากินลำบาก
Food court KOPITIAM เปิด 24 ชั่วโมง
7-Eleven ข้าง KOPITIAM (อยู่ตรงข้ามกับ Hotel 81 Bencoolen)
ที่ KOPITIAM มีร้านอาหารหลายร้าน ข้าวราดแกง, ราเมง, ข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยว, ของหวาน, ผลไม้มีหมดครับ อาหารจานเดียวราคาอยู่ที่ 3.5 – 6.5 SGD การซื้ออาหารจะใช้เงินสดหรือ KOPITAM Card ก็ได้ครับ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา เงินสดสะดวกสุด ในตอนเช้าเค้าจะมีอาหารเช้าเป็นชุดด้วย อย่างชุดด้านล่าง มีกาแฟ ไข่ดาว 2 ฟอง แฮมแบบถูกๆ ไม่ใช่เนื้อๆ แบบบ้านเรา กับขนมปังปิ้งไส้สังขยาหรือที่เรียกว่าคายาโทสต์ (Kaya Toast) ชุดนี้ 2.5 SGD หรือประมาณ 60 บาท
เมื่อซื้ออาหารแล้วจะนั่งทานด้านใน หรือด้านนอกก็ได้
น้ำเปล่าในศูนย์อาหารนี้ขายขวดละ 1.5 SGD (ขวดเล็ก) อาหาร 1 มื้อที่สิงคโปร์ก็ตกมื้อละ 100-150 บาท ผมคาดคะเนว่าเค้าต้องมีรายได้มากกว่าเราอย่างน้อย 4-5 เท่าถึงจะอยู่ได้กับค่าครองชีพแบบนี้
บรรยากาศใน Kopitiam
พูดถึงเรื่องน้ำเปล่าที่สิงคโปร์ โดยทั่วไปจะมี 2 แบบ 1. น้ำแร่ Mineral water และ 2. น้ำกลั่น Distilled water จะราคาถูกกว่าน้ำแร่ ร้านที่ขายน้ำถูกที่สุดจะเป็นร้าน Guardian ขวดเล็กจะขาย 0.7-0.8 SGD แต่ที่ 7-eleven ขายขวดเล็ก 1.6-1.8 SGD
ชุดด้านบนมีชื่อว่า Buk kut Teh (บัก กุด เต๋) เป็นต้มกระดูกหมู บัก กุด เต๋ เสริฟพร้อมข้าว เป็นอาหารที่หาทานได้ตั้งแต่ภาคใต้บ้านเรา มาเลเซีย สิงคโปร์ ชุดนี้ 5 SGD ครับ
ห้างมุสตาฟา (Mustafa)
ห้างชอปปิ้ง แหล่งซื้อของฝากที่ขึ้นชื่อของสิงคโปร์ พวกน้ำหอม ชอกโกแลต ของจิปาถะทั่วไป แนะนำให้มาที่ห้างมุสตาฟา (Mustafa) ห้างนี้อยู่ที่ย่านอินเดียครับ ถ้ามารถไฟฟ้าก็ลงที่สถานี Ferrer Park แล้วเดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ย่านนี้จะมีคนแขกเยอะมาก ดูแล้วเหมือนจะน่ากลัว แต่ก็นิสัยดีนะครับ อย่างตอนผมออกมาจากรถไฟฟ้า ไม่รู้ว่ามุสตาฟาไปทางไหน ก็เลยไปถามแขกคนนึงว่าไปทางไหน เค้าบอกให้เดินตามเค้ามาเลย เค้าพามาส่งเกือบถึงที่
ของที่ขายในห้างมุสตาฟา มีตั้งแต่สากกระเบือ ยันเรือรบเลยจริงๆ เริ่มด้วยของใช้ในซุปเปอร์มาเกต ขนม ของกิน ชอกโกแลต เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ เครื่องใช้สำนักงาน ของฝาก พวกกุญแจ แม้แต่ทองคำ เครื่องประดับยังมีเลยครับ
ขนมที่ขายในสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก เป็นขนมที่มาจากประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย ก่อนซื้อดูให้แน่ชัดก่อนนะครับถ้ามาจากไทย ก็ไปซื้อที่ไทยดีกว่า ราคาถูกกว่าด้วย
การเข้าไปซื้อของในห้าง
ใครมีกระเป๋า เค้าจะให้ฝากของไว้ที่ด้านหน้าก่อนเข้าไป แต่ถ้าเรามีของมีค่าอยู่ด้วย เช่นกล้องถ่ายรูป โน๊ตบุ๊ค เราจะต้องเอากระเป๋าเราไปให้เค้าใช้สาย Cable Tie รัดซิปเราซะก่อนไม่ให้แกะออกได้ และของที่ซื้อในห้าง จ่ายตังค์แล้วเค้าก็จะเอา Cable Tie รัดถุงเช่นกัน
นอกจากร้านขายของแล้ว มุสตาฟา ยังมีที่แลกเงิน (Money Changer) เรทค่อนข้างดีด้วยครับ มีคนมาแลกเยอะ แต่เห็นคนบอกมาว่าการบริการไม่ค่อยดี พนักงานแลกเงินพูดอังกฤษสำเนียงอินเดีย บางทีเราฟังไม่ชัดก็มาหงุดหงิดใส่เรา เราซื้อช๊อกโกแลตจากร้านมุสตาฟามา 4-5 ถุงราคาไม่ถึงกับถูกเว่อร์ เอาไว้เป็นของฝาก
GST refund
ถ้าเกิดว่าชอปปิ้งที่มุสตาฟา เกิน 100 SGD ใน 1 ใบเสร็จ หรือ รวมรวมใบเสร็จที่ซื้อของในวันเดียวกันให้ได้เกิน 100 SGD สามารถไปขอคืนภาษี (GST refund) ได้ด้วยนะครับ สำหรับภาษีที่ได้คืนก็ 7% ของยอดที่ซื้อ
สถานที่ขอคืนภาษีของมุสตาฟา อยู่ที่ชั้นล่างสุด เคาน์เตอร์อยู่ระหว่างแผนกกีฬาและเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเราจะต้องมี passport และต้องกรอกเอกสารการคืนภาษี เงินที่ได้คืนมาจะมีให้เลือกโอนเข้าบัตรเครดิต Visa / Master card หรือรับเป็นเชค แนะนำให้เลือกเป็นโอนเข้าบัตรเครดิตจะดีที่สุด ถ้ารับเป็นเชคจะต้องเสียค่าธรรมเนียมขึ้นเชคด้วย เกือบพันบาทแนะ
ขากลับจะไปขึ้นรถไฟฟ้า ผ่านห้าง City Square Mall เลยแวะเข้าไปดูหน่อย บังเอิญเจอกับร้านอาหารไทย ชื่อร้าน Sky Thai แนวข้าวราดแกง เลยลองกินดู
ผมเห็นคนตักอาหารคล้ายคนไทย เลยถามเป็นภาษาไทยว่าคนไทยเปล่าครับ เค้าไม่เข้าใจ เลยถามใหม่เป็นภาษาอังกฤษ เลยรู้ว่าไม่ใช่คนไทย แต่พอเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทย มีการชี้ไปที่กับข้าวแล้วบอกว่า “อร่อยจริงๆ” สงสัยเป็นประโยคหากิน
จานนี้ 2.4 SGD ถูกและอร่อยด้วย ข้าวหอมมะลิ นุ่ม หอม เมนูอาหารจะเป็นแนวจืดๆ ไม่มีอะไรที่เผ็ดๆ รสจัดเลย
ร้านของทอดชื่อดัง OldChangKee ในห้าง City Square Mall
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติ เช่นจีน, มาเลเซีย, อินเดีย แต่ที่มีเยอะหน่อยจะเป็นชาวจีน ย่านที่คนจีนอยู่เยอะจะเป็นย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) อาจจะเหมือนกับเยาวราชบ้านเรา การเดินทางมา Chinatown สะดวกสุดก็มาทางรถไฟฟ้า ลงที่สถานี Chinatown ออกมาก็เจอเลย
ร้านหมูแผ่นชื่อดัง BEE CHENG? HIANG เหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝาก ราคาค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกันครับ ซองเล็กๆ 200-300 บาท อยู่ที่ทางลงไปยังสถานีรถไฟฟ้าสถานี Chinatown
ตึก และอาคารบ้านเรือนบ่งบอกความเป็น Chinatown ที่เค้าอนุรักษ์ให้คงเดิมไว้อยู่ ได้บรรยากาศแบบจีน
แม้จะเป็นตึกที่สร้างมานานแล้ว แต่ก็มีการทาสีให้ดูใหม่อยู่เสมอ
Chinatown Heritage Centre ด้านหน้ามีแผนที่ และข้อมูลท่องเที่ยวแจกฟรี ข้างในเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวจีน เสียค่าเข้าชมคนละ 10 SGD เป็นสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ แบบนี้ แต่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมากเลยครับ
ตึกแถวหลากสีย่าน Chinatown
โรงแรม SANTA GRAND Hotel Chinatown อยู่ใจกลาง Chinatown เลย ราคาไม่แพงมาก 3 พันนิดๆ มีอาหารเช้าให้ด้วยนะ –> เช็คราคาโรงแรม
ในย่าน Chinatown จะมีวัดชื่อดังคนไทยเรียก วัดพระเขี้ยวแก้ว ชื่อภาษาอังกฤษว่า Buddha Tooth Relic Temple & Museum เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง เราสามารถเข้าไปชมด้านในได้ ไม่เสียค่าเข้านะครับ
ภายใน Buddha Tooth Relic Temple & Museum ใส่รองเท้าเข้าไปด้านในได้ แต่ห้ามเหยียบที่พรมแดง เราสามารถเดินขึ้นไปดูที่ด้านบนของวัดพระเขี้ยวแก้วได้ด้วยนะครับ มีห้องสมุดของพุทธศาสนา เรื่องราวความเป็นมาของศาสนาพุทธ ประวัติพระพุทธเจ้า ด้านบนมีสวนที่ดาดฟ้าด้วย
ที่ Chinatown มีร้านค้าให้เลือกซื้อของหลายอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง พวงกุญแจ โปสการ์ด อย่างพวงกุญแจที่ผมไปดูมาเห็นขาย 6 อัน 10 SGD แบบและลายเหมือนที่เคยเห็นที่มาเลเซียเลย คิดว่าคงรับมาอีกที
ถนนคนเดินใน Chinatown ตอนสายๆ เดินสบาย คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ช่วงบ่าย – หัวค่ำคนจะเยอะ
ก่อนที่จะถึง วัดศรีมาริอัมมัน จะมีไอติมขายอยู่เจ้านึงครับ อยู่ตรงสี่แยก คนไทยชอบเรียกไอติม 1 เหรียญ มีหลายรสให้เราเลือก เลือกได้ว่าจะคู่กับขนมปัง หรือเวเฟอร์ คนขายเป็นอาแป๊ะ ผมกับแฟนสั่งมากินกันคนละอัน จะขอแกถ่ายรูป แกส่ายหน้าอย่างเดียว สงสัยอารมณ์ไม่ดี เลยได้ถ่ายแต่ไอติมในมือผม
จากตรงนี้เดินไปอีกนิดก็ถึงวัดศรีมาริอัมมันแล้ว
ย่านคนจีน ใช่ว่าจะมีแต่อะไรที่เกี่ยวกับจีน ยังมีวัดแขกชื่อ วัดศรีมาริอัมมัน (Sri Mariamman Temple) เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ก่อสร้างเมื่อปี 1827 ถ้าต้องการเข้าไปถ่ายรูปด้านในต้องเสีย 3 SGD และ 6 SGD สำหรับกล้องวีดีโอ
ในเดือนตุลาคม หรือ พฤศจิกายน วัดจะมีพิธีเดินลุยไฟ (Tbeemitbi) โดยผู้เข้าร่วมจะต้องเดินบนถ่านที่ติดไฟเป็นการทดสอบความเชื่อและศรัทธา
สำหรับคนที่เดินทนหน่อยแนะนำให้เดินมาที่ถนน Maxwel หรือถ้าจะนั่งรถไฟฟ้ามาก็มาลงที่สถานี Tanjong Pagar ที่นี่มีตึกที่ทาสีแดงทั้งตึก มีชื่อว่า Red dot design Museum แต่ก่อนเป็นที่ควมคุมสัญญาณไฟจราจร แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานออกแบบ
สำหรับที่กินขึ้นชื่อย่าน Chinatown ก็คงเป็น Maxwell food court เป็นศูนย์อาหารขนาดใหญ่ อยู่ที่ถนน Maxwell มีร้านอาหารมากกว่า 100 ร้าน ลองมาแวะกินข้าวมันไก่สิงคโปร์ดูได้ครับ (แนะนำร้านเทียน เทียน) ถ้ามาตอนเที่ยงคนจะเยอะมาก
เดินไปเดินมาหมดไปแล้วครึ่งวัน เริ่มเหนื่อยและเมื่อย เลยนั่งรถไฟฟ้ากลับโรงแรมไปนอนเอาแรงซักตื่นแล้วมาเดินต่อแถว Marina Bay ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดของประเทศสิงคโปร์
หลังจากตื่นมาในตอนบ่ายแก่ๆ เราก็ออกเดินทางกันต่อ นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี City Hall แล้วเดินไล่มาเรื่อยๆ
เริ่มจาก Clarke Quay มีร้านอาหารตั้งอยู่ริมน้ำ ร้านแถวนี้บรรยากาศดี แต่ราคาก็แพงกว่าปกติ ร้านชื่อดังในย่านนี้ได้แก่ร้าน Jumbo seafood เมนูแนะนำปูผัดพริกไทยดำ และ ปูผัดพริก ในย่าน Clarke Quay มีทั้งร้านอาหาร และผับ ใครที่อยากหาที่นั่งดื่มตอนกลางคืนบรรยากาศดีๆ ต้องย่านนี้เลยครับ
รูปด้านบนเป็นโรงแรม The Fullerton Hotel เป็นโรงแรมเก่าแก่ ที่หรูหรามา คนดังๆ หลายคนมาพักที่นี่ ลองมองที่ด้านขวาล่าง ของรูปบนจะเห็นรูปปั้นเด็ก กำลังกระโดดน้ำ
รูปปั้นเด็กกระโดดน้ำข้างโรงแรม The Fullerton Hotel
สะพานคาเวนาห์ (Cavenagh Bridge) เป็นสะพานให้คนเดินข้ามได้อย่างเดียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1868 ตัวสะพานทำในประเทศสก๊อตแลนด์ แล้วแยกชิ้นส่วนมาประกอบที่สิงคโปร์
ข้ามสะพานไปก็จะเจอกับ Asian civilisations museum หรือพิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย
บริเวณนี้มีตึกสูงๆ เต็มไปหมด ดูแล้วฮวงจุ้ยน่าจะดี ใกล้น้ำ ส่วนมากจะเป็นตึกของธนาคารต่างๆ
รูปบนเป็นรูปปั้นทองเหลือง บอกเล่าเรื่องราวในอดีต สมัยที่สิงคโปร์เป็นเมืองขึ้นอังกฤษ บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่ามาก่อน
รูปปั้นท่านเซอร์แสตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ (Sir Stamford Raffles Statue) บุคคลที่สร้างความเจริญให้กับสิงคโปร์อย่างมากมาย
มองไปที่แม่น้ำเจอกับเรือ Hippo River cruise วิ่งตั้งแต่ Clarke Quay – Boat Quay – Esplanade – Singapore Flyer สิ้นสุดที่ Merlion Park ราคาคนละ 18 SGD
หนึ่งในไฮไลต์ของคนที่มาเที่ยวสิงคโปร์ คือการได้มาถ่ายรูปกับ Merlion วันที่ไป Merlion ตัวแม่อยู่ในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อว่า The Merlion Hotel โรงแรมนี้เป็นโรงแรมชั่วคราว เิปิดให้คนเข้าพักได้จริงๆ แต่ก่อนที่จะเปิดให้เข้าพัก ก็เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปชม ถ่ายรูปได้ฟรี
เท่าที่จำได้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Merlion ถูกครอบ ทำเป็นโรงแรม
The Merlion Hotel จะเปิดตั้งแต่ 4 เมษายน 54 ถึง 15 พฤษภาคม 54 เท่านั้น เข้าชมได้ฟรีตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น.
เกี่ยวกับ Merlion Hotel
Tatzu Nishi เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่น วัย 50 ปี เค้าต้องการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้คนประหลาดใจ ด้วยการผสมผสานระหว่างวัตถุที่เป็นศิลปะกับมุมมองที่แตกต่าง จนกลายมาเป็น Merlion Hotel โปรเจคของ Nishi เป็นโรงแรมชั่วคราวสุดหรู อยู่ในทำเลที่ถือว่าเป็น Landmark ของสิงคโปร์ มีรูปปั้นสิงโต Merlion อยู่ในโรงแรม
ในตอนกลางวันจะเปิดให้คนเข้าชม พอตกเย็นก็จะมีคนมาเข้าพัก ราคาโรงแรมก็ไม่แพงอย่างที่คิดนะครับ เพียง $ 150 ต่อ 2 คน มีอาหารเช้าให้ด้วยนะ
Merlion ตัวลูกเลยกลายเป็นจุดถ่ายรูปแทน
ผมเองก็ได้ต่อคิวเข้าไปชมด้านใน The Merlion Hotel รอคิวอยู่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น โรงแรมนี้แม้จะสร้างอย่างชั่วคราวแต่ภายในก็ตกแต่งสวย
เจ้าหน้าที่จะให้เข้าชมครั้งละ 10 กว่าคน ครั้งละประมาณ 10 นาที มีเวลาแปปเดียวเลยรีบถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ
หลังเตียงนอนเป็น Merlion ไม่รู้ว่าคนที่มาพักจะรู้สึกแปลกๆ ไหม มี Landmark ของสิงคโปร์ อยู่ในห้องนอน
โต๊ะทำงานมีหน้าต่าง มองเห็น Marina Bay
ห้องน้ำก็มีหน้าต่างชมวิวเหมือนกัน
ดูแล้วก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย แต่ก็ดูดีสำหรับโรงแรมชั่วคราว
ถ่ายรูปได้แปปเดียวก็หมดเวลาแล้วครับ
ออกไปถ่ายรูป The Merlion Hotel ด้านนอกต่อ สร้างกันแบบชั่วคราว เป็นโครงเหล็กรื้อออกง่าย ไม่รู้รัฐบาลสิงคโปร์คิดอะไรอยู่ถึงได้ยอมให้สร้าง Merlion Hotel ล้อมตัว Merlion ถ้าเป็นประเทศไทยคงไม่ยอมให้มีใครสร้างอะไรครอบสถานที่สำคัญแบบนี้
มองเห็นโรงแรม Marina Bay Sand โรงแรมสุดหรู 5 ดาว ที่ด้านบนของโรงแรมที่คล้ายๆ เรือเป็นสระว่ายน้ำ และที่ชมวิว Sand sky park
ภาพด้านบนที่เห็นเป็นสีๆ เป็นที่นั่งชมการแข่งขัน Singapore 2010 Youth Olympic Games ส่วนสนามแข่งขันจะเป็นสนามลอยน้ำ
ด้านขวาของภาพเป็น Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่
จาก Merlion เดินข้ามสะพานมา ก็เจอกับ Esplanade Theatre ตึกรูปทรงหนามทุเรียน คนไทยเรียก “เอสพนานาด” ตามชื่อห้างย่านรัชดา คนสิงคโปร์เรียก “เอสพลาเนด”
Esplanade เป็นโรงละคร สำหรับจัดแสดงละครและคอนเสิร์ต จำนวน 2 ฮอลล์ จุคนได้ถึง 3,600 ที่นั่ง นอกจากโรงละครแล้วยังมีห้องสมุดงานศิลปะ และลานแสดงกลางแจ้ง
จาก Esplanade เดินไปอีกประมาณ 20 นาที ด้วยทางเดินใต้ดิน City Link ที่เป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า จนถึง Suntec City ที่ตั้งของน้ำพุ Fountain of Wealth เป็นน้ำพุที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับของโลก น้ำพุแห่งนี้สร้างตามหลักฮวงจุ้ย โดนตัวน้ำพุจะอยู่ตรงกลาง ล้อมด้วยตึก Sentec 1-5 เปรียบเสมือนนิ้วมือทั้งห้า
เชื่อกันว่าถ่าได้เดินรอบน้ำพุ แล้วสัมผัสน้ำพุ จะโชคดีมีลาภ เพิ่มสิริมงคล
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปใจกลางน้ำพุ สัมผัสน้ำ ได้ในเวลาดังต่อไปนี้ 9.00-12.00 น. 14.30-18.00 น. 19.00-19.45 น. 21.30-22.00 น.
ในตอนกลางคืนจะมีแสงเซอร์ยิงมาที่น้ำพุ เป็นข้อความ รูปภาพต่างๆ
ข้อความที่เห็นที่น้ำพุ มาจากการโปรแกรมของเจ้าหน้าที่คนนี้ครับ
เย็นนี้เดี๋ยวผมพาไปทานอาหารที่ Food court ในตึก Suntec city เป็นศูนย์อาหารขนาดใหญ่ชื่อ Fountain food terrace มีอาหารขายหลายร้านมากครับ ที่สำคัญมีร้านอาหารไทยด้วย
Lotus Thai ร้านอาหารไทย ใน Fountain food terrace จากทางเข้าให้เดินตรงมาจนสุด ร้านอยู่ฝั่งขวามือครับ ร้านนี้ไทยแท้แน่นอน คนขายเป็นคนไทยพูดไทยได้
ราคาอาหารประมาณจานละ 4-5 SGD มีผัดไทยกุ้งสดขาย ราคาจานละ 4.5 SGD, ต้มยำชามละ 5 SGD ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับอาหารอื่นที่ขายในสิงคโปร์
บรรยากาศใน Fountain food terrace
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่สิงคโปร์ จะว่าไปแล้วก็ยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ คิดว่าถ้าได้มาอีกสักครั้งคงจะได้ไปหมดทุกที่ที่อยากไป
วันนี้เดินค่อนข้างเยอะ จนเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ก่อนเข้าโรงแรม แวะ 7-eleven ได้เบียร์ Carlsberg มากระป๋องนึง กินก่อนนอนจะได้หลับสบาย กระป๋องนี้ประมาณ 150 บาทครับ แพงมาก พวกเบียร์ขวดใหญ่ ขายขวดละ 180 บาท บ้านเรา 50-60 บาท ถูกกว่าเยอะเลย
[วันที่ 4]
วันนี้เครื่องออกเวลา 13.30 น. มีเวลาก่อนขึ้นเครื่องนิดเดียวเอง เลยไม่ไปไหนดีกว่า นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วก็ไปสนามบินเลย ไปเดินเล่นที่สนามบิน Changi เอา ขากลับเราก็นั่งรถไฟฟ้าที่สถานีใกล้โรงแรม Bras Basah มาลงที่ Changi Airport เลย ผมชอบการเดินทางในประเทศสิงคโปร์มาก สะดวก และราคาไม่แพงด้วย
ผมเช็คบัตร EZ-link ตอนแรกมีเงินในบัตร 7 SGD เติมเงินไปอีก 20 SGD รวมมีทั้งหมด 27 SGD พอเช็คยอดแล้วเหลือ 11.xx SGD แสดงว่าเราใช้เงินในการเดินทางไปประมาณ 15-16 SGD เท่านั้นเอง แอบเสียดายเงินในบัตร EZ-link เล็กน้อย บัตร 2 ใบ เหลือเงินกว่า 20 SGD เป็นเงินไทยก็ 500 บาทได้ แต่ก็เก็บบัตรไว้ไม่ได้ refund เผื่อมาเที่ยวใหม่
มีเวลาเหลือเยอะแยะที่สนามบินผมก็ขอพาเที่ยวต่อในสนามบินละกันนะครับ
สนามบิน Changi ของสิงคโปร์ เป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดี ติดอันดับ 1-3 ของโลกเลยนะครับ จากการสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว ข้อดีเท่าที่นึกออกก็มี
1. เรื่องของการเดินทาง สะดวกมีสถานีรถไฟฟ้ามาถึงสนามบินเลย
2. ความสะอาด และการตกแต่ง ทำได้ดีครับ
3. มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ในสนามบินทุก Terminal เช่นสวนกล้วยไม้, สวนกระบองเพชร, สวนเฟิร์น และสวนผีเสื้อ
4. ความรวดเร็วในการบริการ ตั้งแต่การ Check-in, Immigration หรือ รอกระเป๋า ใช้เวลาไม่นาน
เริ่มกันที่ Terminal 3 ครับ Terminal นี้มีการตกแต่งใหม่ ร้านค้าและสิ่งที่น่าสนใจจะอยู่หลัง ตม. สิงคโปร์ไปแล้ว ด้านนอกจะมีแต่ที่ Check-in ของสายการบินต่างๆ
เนื่องจากเที่ยวบินของเราอยู่ที่ Terminal 1 เราต้องนั่งรถไฟ้าที่วิ่งระหว่าง Terminal ไปที่ Terminal 1
จอ TV แสดง Flight ที่ออกจาก Terminal 1
ด่าน ตม. ขาออกประเทศสิงคโปร์ เปิดอยู่หลายช่อง ยืนรอคิว 1 คนเอง เร็วมาก
ที่สนามบิน Changi จะแตกต่างกับสนามบินอื่น ตรงที่หลังจากผ่านด่าน ตม. แล้ว เค้าจะยังไม่ X-ray กระเป๋า และสแกนเรา ให้เราได้เดินชอปปิ้งอย่างสบายใจแล้วค่อยสแกนที่ Gate ที่เราจะขึ้นเครื่องเลย
ใครที่ตั้งใจมาชอปปิ้งที่สิงคโปร์ มูลค่าตั้งแต่ 100 SGD ขึ้นไปในร้านเดียวกัน วันเดียวกัน อย่าลืมขอเอกสารคืนภาษีจากทางร้านมาด้วย แล้วมายื่นขอคืนภาษีได้ที่เค้าน์เตอร์ที่สนามบิน ในรูปจะอยู่ที่ Terminal 1 ครับ
ร้านค้าในสนามบิน มีร้านเสื้อผ้า, นาฬิกา, ขนม ของฝาก, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูป
สำหรับคนที่ชอบดูเครื่องบินขึ้น เค้ามีที่ให้ดูเครื่องบินขึ้นได้อย่างชัดเจน มีเพียงกระจกบานใหญ่กั้น อยากให้สนามบินสุวรรณภูมิมีที่ดูเครื่องบินแบบนี้บ้างจัง
ใครที่ต้องการใช้อินเตอร์เนต ก็มีมุมอินเตอร์เนตให้ใช้กันฟรีๆ
นอกจากนี้ยังมีตู้ที่ให้ชาร์จมือถือฟรีด้วย ในแต่ละช่องจะเขียนยี่ห้อไว้ เท่าที่เห็นก็มีของ I phone, Blackberry, HTC, Nokia, Samsung, Sony Ericson การใช้งานก็เอามือถือใส่ในช่อง เสียบชาร์ต แล้วบิดกุญแจล๊อค เท่าที่เคยไปเที่ยวต่างแดนมา ไม่เคยเห็นสนามบินไหน มีบริการให้ขนาดนี้
หรืออยากจะงีบ หรือดูหนัง (มีแต่ภาพไม่มีเสียง) ก็มีเก้าอี้ให้นั่งสบายๆ
ร้านหมูแผ่นชื่อดัง BEE CHENG HIANG ที่ขายอยู่ตรง Chinatown มีสาขาที่สนามบินด้วย คนซื้อเยอะมาก ไม่ได้ขายถูกนะครับ ถุงนึง (ขนาดเล็ก) ก็ 200-300 บาท ผมเห็นคนนึงซื้อไปที 6-7 พันเลย ตอนแรกก็ว่าจะซื้อไปลองชิมดูเหมือนกัน แต่รอคิวตรงที่จ่ายตังค์ไม่ไหว คนเยอะมาก แล้วก็มุงๆ กัน มั่วไปหมด
เที่ยวบินขากลับเราเวลา 13.30 น. ถ้ารอกินข้าวกลางวันบนเครื่อง ก็คงได้กินตอนบ่าย 2 กว่าๆ เลยคิดว่าจะหากินที่สนามบินไปเลยดีกว่า
มื้อนี้เป็นไก่ทอดคล้ายๆ KFC ชื่อร้าน Texas Chicken ซื้อมา 2 ชุด ราคา 14.8 SGD ราคาเหมือนกินข้างนอกสนามบินเลย ไม่แพงครับ
ดูเวลาอีกครั้งใกล้ได้เวลา Boarding แล้วกลับไปที่ Gate ดีกว่า เครื่องมาจอดที่งวงช้างแล้ว ตอนที่จะเข้า Gate เราจะต้องผ่านด่าน X-ray และตรวจสิ่งของต้องห้าม
ภายใน Gate จะมีที่นั่ง และตู้น้ำดื่ม แต่ไม่มีห้องน้ำ Gate ใคร Gate มันมีกระจกกั้นไว้ ไม่สามารถเดินถึงกันได้ พอเครื่องใกล้ออกดันรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ต้องขอพนักงานออกไปข้างนอกใหม่ ไปเข้าห้องน้ำ กลับมาแล้วก็ต้อง X-ray และสแกนกันใหม่อีกครั้ง ตรงนี้แหล่ะครับที่ผมว่าเป็นข้อเสียของสนามบิน Changi ไม่มีห้องน้ำที่ Gate
ภายในเครื่อง Cathay Pacific CX712
ขากลับเราได้ที่นั่งล๊อคกลาง เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นที่นั่ง 4 ที่ เราถูกปิดทั้งซ้ายและขวาเลย สาเหตุที่ได้ที่นั่งตรงนี้ เพราะเราเข้าไปทำ Web check in ช้าไป ที่นั่งดีๆ คนอื่นจองไปหมดแล้ว
เขียนไปเขียนมา จบทริปซะแล้ว ใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะไปไหน ลองมาเที่ยวสิงคโปร์ดูนะครับ ประเทศเล็กๆ มาเที่ยวง่าย เดินทางสะดวก ความปลอดภัยสูง
สำหรับใครที่อยากถามเกี่ยวกับการเดินทาง การท่องเที่ยวในสิงคโปร์ ก็ Comment ด้านล่างมาถามได้เลยนะครับ ทริปนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ บายย ครับ 🙂
สรุปค่าใช้จ่ายของ 2 คน 3 คืน 4 วัน
– ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ Cathay Pacific 15,510 บาท
– ค่าโรงแรม Hotel 81 Bencoolen 3 คืน 9,600 บาท
– ค่าบัตรเข้าชม Universal Studios Singapore 2,600 บาท
– ค่ากิน 4 วัน 5,000 บาท
– ซื้อของฝาก 2,000 บาท
– EZ link และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 1,000 บาท
รวมทั้งหมด 35,710 บาท ตกคนละ 17,855 บาท
เที่ยวต่างประเทศ ไม่ง้อทัวร์
เซินเจิ้น | ฮ่องกง 1 | ฮ่องกง 2 | มาเก๊า |
มาเลเซีย | มะละกา | ชอปปิ้งในมาเลเซีย | Genting (เกนติ้ง) |
สิงคโปร์ 1 | USS & Sentosa | สิงคโปร์ 2 | บาหลี |
Post Views 33323
ไปสิงค์โปร์มาแล้ว และไม่คิดจะไปอีก ที่สำคัญประเทศนี้ดูถูกคนไทยมากกกกกกกกกกกกก
บ้านเมืองมันใช่จะวิเศษวิโสอะไรมาก มองๆแล้วชีวิตเหมือนพวกปลวกมากกว่า สู้คนอิเดีย คนบังคลาเทศ
คนจีน ที่ไปตั้งรกรากที่นั้นยังมีจิตใจสูงส่งกว่าคนสิงค์โปร์อีก วันนี้มีคนเกลียดคนสิงค์โปร์เพิ่มอีก หนึ่งคน
จะขึ้น Taxi จากสนามบินไปรร.เลยขึ้นตรงไหนครับ เพราะอ่านจากรีวิวของคุณ Admin แล้วจะต่อรถมากเกินไปหน่อย หลังจากกลับ พ.ค.55 แล้ว ช่วยกรุณาอัพเดทข้อมูลเร็วหน่อยนะครับ เพราะผมจองเครื่องไว้ต้น ต.ค.55 ไปเที่ยวครั้งแรก ไปกับแฟนเพียงสองคน ไม่อยากง้อทัวร์ครับผม
ตอบคุณ danthai
ที่ขึ้น Taxi ก็อยู่ในสนามบินนะครับ เดินตามป้าย Taxi ไปได้เลย ไว้เดี๋ยวผมไปเดือน พ.ค. 55 จะถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ ขอสอบถามหน่อยนะคะ
ไป 3วัน2คืน ไปถึงบ่าย กลับดึก (วัยรุ่นทั้งน้านนน) พัก v hotel lavender
วันแรก merlion – น้ำพุ – Singapore Flyer – Mustafa
วันที่สอง USS – SOS
วันที่สาม china town – วัด – orchard Rd – เก็บตกอื่นๆ
ไม่ทราบว่าไอ้วันที่3เนี่ยจะแน่นไปมั้ยคะ
ขึ้นเครื่องประมาณ 20:30 ต้อง แวะไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ตอน chk out ที่โรงแรมด้วย
งี้ต้องถึงสนามบินกี่โมงถึงจะทันอ่ะคะ 6 โมงครึ่งนี่เร็วไปมั้ยคะ กลัวเสียเวลาเที่ยว^^
หรือมีที่ไหน โปรแกรมอะไรเพิ่มเติมรบกวนแนะนำคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบคุณ Ducky
คือวันที่ 3 คุณไม่มีรายละเอียดเลยนะครับว่าแวะเยอะขนาดไหน แต่ถ้าให้กะๆ เอา Chinatown เดินชมซัก 2-3 ชั่วโมง Orchard อีก 2-3 ชั่วโมง ก็ไม่น่าจะเยอะนะครับ
ถ้ามีเวลาเหลือก็ลองไปดูสวนพฤกศาสตร์ที่ Singapore Botanic Gardens อยู่ตรง Orchard
ไปถึงสนามบิน 18.30 น.ไม่เร็วไปหรอกครับ ส่วนมากผมไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่สนามบิน Changi ผู้หญิงเค้าชอบไปดูเสื้อผ้า กระเป๋าที่ร้าน Charles & Keith เห็นว่าราคาถูกครับ
แล้วก็ถ้าช๊อปเยอะมูลค่าตั้งแต่ 100 SGD ขึ้นไปในร้านเดียวกัน วันเดียวกัน อย่าลืมขอเอกสารคืนภาษีจากทางร้านมาด้วย แล้วมายื่นขอคืนภาษีได้ที่เค้าน์เตอร์ที่สนามบิน (GST refund)
เอารีวิวสิงคโปร์ 2012 มาฝากครับ ไปมา 18-20 พ.ค. 55 https://www.emagtravel.com/archive/singapore-trip1.html
ไป3วันสองคืน แนะนำที่เที่ยวหน่อยค่ะ
แต่วันแรกไปถึง 10.30
วันที่2อยู่ universal studio ทั้งวัน
ส่วนวันที่3เครื่องออก 5โมงค่ะ
เค้าดูถูกอย่างไรหรือค่ะคุฯคนไทยคนนึง คือมีความรู้สึกเหมือนกันแต่คิดว่าคงจะคิดไปเอง เล่าให้ฟังได้ไหค่ะ
ขอฝากนิดนึงน้ะครับ ที่นั่งชมการแข่งขัน Singapore 2010 Youth Olympic Games จริง จริง แล้วมันสร้างมาก่อนหน้านานล่ะ แต่ว่าเค้าทำไว้หลายจุดประสงค์อะ เอาไว้ ตอนแข่ง F1 ด้วย แล้วก็ยังเอาไว้ใช้ตอนวันชาติด้วนน่ะครับ เพราะว่าตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่น่ะครับ คงไม่มีที่ว่างสักเท่าไหร่เลยทำเป็นแบบกลางน้ำด้วย อ่ะ รูปสวยครับ ไว้วันหลังไปทานข้าวกันน้ะ
ถ้าไปครั้งแรก ควรขึ้น Singapore flyer ป่ะคะ หรือไป sky park จะคุ้มกว่า
ตอบคุณ Little_Marie
ผมว่าขึ้นอันไหนก็ได้แล้วแต่ชอบครับ วิวก็คล้ายๆ กัน ถ้าให้ผมเลือกนะ เอาอันที่ถูกกว่าเลยครับ
ได้ราคาเท่ากันนะสิคะ 555 20 เหรียญ เลยไม่รู้จะขึ้นที่ไหนดี
^^
– มีทริค แนะนำการเล่นเครื่องเล่นใน USS ให้ครบป่ะคะ..หรือโดยส่วนมาก เราสามารถเล่นได้ครบอยู่แล้วใน 1 วันคะ
– น้ำหอมที่สิงคโปร์ถูกกว่าที่ไทย จริงรึป่าวคะ
ตอบคุณ Little_Marie
งั้นผมเชียร์ Singapore flyer ละกันครับ ได้เห็นมุมเยอะกว่า
– ส่วนทริคในการเล่นเครื่องเล่นใน USS ให้ต่อแถว Single rider ครับไปไวกว่า
– เรื่องน้ำหอมผมว่าถูกกว่าบางรุ่น บางยี่ห้อครับ ลองดูราคาที่ King power duty free แล้วไปเปรียบเทียบที่โน่นอีกทีครับ
โอเคคะ ไปขึ้น Singapore flyer ^^
อยากสอบถามเรื่อง Crane dance คืออะไรคะ เข้าชมที่ไหนยังไงคะ
ถ้าเราไม่ได้จองโรงแรมและไปหาเอาทีหลังมันจะยุ่งยากมั้ยครับ และไป3คน จองห้องเดียวได้มั้ย หรือจะเลือกโรงแรมแบบไหนดีครับ และมีเด็กไปด้วย2คน ช้าวยแนะนำหน่อยครับเอาที่ประหยัดนะครับ
รีวิวสิงคโปร์2012อยู่ไหนอ่ะคะ รบกวนช่วยส่งEmailให้หน่อยได้มั้ยคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบคุณ Ple
อันนี้ครับ รีวิวสิงคโปร์ 2012 https://www.emagtravel.com/archive/singapore-trip1.html
ถ้าเราไม่ได้จองโรงแรมและไปหาเอาทีหลังมันจะยุ่งยากมั้ยครับ และไป3คน จองห้องเดียวได้มั้ย หรือจะเลือกโรงแรมแบบไหนดีครับ และมีเด็กไปด้วย2คน ช้าวยแนะนำหน่อยครับเอาที่ประหยัดนะครับและตอนนี้ก็ดูข้อมูลทางเน็ตทุกวัน ทั้งที่เที่ยวและที่พัก
สวัสดีครับ รบกวนสอบถามเรื่องที่พักฮะ
ระหว่าง Hotel 81 Bencoolen กับ Porcelain Hotel เลือกที่ไหนดีคับ
ไปกัน 2 คน 6-8 ธันวานี้
ถึงเย็นวันที่ 6 กลับ หัวค่ำวันที่ 8 คับ
ตามแพลนคือ(ช่วยดูให้หน่อยนะคับว่าพอไปไหวไหม)
วันที่แรกเริ่มประมาณ 5 โมงเย็น ห้างมุสตาฟา,Singapore Flyer ถ้าทันก็ไป Fountain of Wealth กลับโรงแรมนอน
วันที่สอง Universal Studios ทั้งวัน
วันสุดท้าย Chinatown และเดินทางกลับ
ขอบคุณล่วงหน้านะคับ
ตอบคุณ lek
ผมว่า Porcelain Hotel น่าสนกว่าครับ ห้องใหม่ ตกแต่งสวย ข้อเสียคือเล็กกว่า Hotel 81 Bencoolen
ตอนนี้ถนน Bencoolen หน้าโรงแรม Hotel 81 Bencoolen ปิดถนนทำการสร้างรถไฟฟ้าอยู่ครับ เสียงดัง เข้าไปถึงในโรงแรมเลย ดังนั้นอยากให้ตัด Hotel 81 Bencoolen ออกไปก่อน
วันที่แรกเริ่มประมาณ 5 โมงเย็น ห้างมุสตาฟา,Singapore Flyer ถ้าทันก็ไป Fountain of Wealth กลับโรงแรมนอน
– คงได้ 2 ที่ครับ แนะนำให้เอามุสตาฟาไปไว้ทีหลัง หรือวันที่ 2 ก็ได้ เพราะห้างเปิด 24 ชม. ไปเมื่อไหร่ก็ได้
วันที่สอง Universal Studios ทั้งวัน
– ok แล้วครับ หลังจากเที่ยว uss เสร็จก็หาเที่ยวต่อใน Sentosa ให้ครบเลยครับ เช่น Merlion walk, Merlion ตัวพ่อ
วันสุดท้าย Chinatown และเดินทางกลับ
– วางไว้หลวมๆ แบบนี้ดีแล้วครับ ไม่เหนื่อยมาก
กำลังจะไปเที่ยวสิงคโปร์อ่ะค่ะ ไปช่วงกุมภา 56 เป็นทริป 4 วัน 3 คืน
ตอนนี้กำลังจะจองโรงแรมค่ะ แต่ยังลังเลระหว่าง
1.Porcelain ที่อยู่ในตัวเมือง แต่ราคาแพงกว่า. กับ
2.Fragrance sapphire อยู่เกลัง ถูกกว่า แต่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT อ่ะค่ะ
ไม่ทราบคุณแอดมินมีคำแนะนำดีๆในการช่วยตัดสินใจมั๊ยคะ โปรแกรมเที่ยวก็จะคล้ายกับคุณadminเลยคะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ 🙂
ตอบคุณ Parnoize
ถ้าไปเที่ยวเช้า กลับดึก ระหว่างวันไม่อยู่ห้องแบบนี้ Fragrance sapphire ก็พอไหวครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะค่ะ
ดิฉันเป็นอีกคนที่สนใจอยากไปประเทศสิงคโปร์ ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาสถานที่ การเดินทาง และอีกหลาย ๆ อย่าง พอได้อ่านแล้ว ก้อพอนึกภาพออกนิดหนึ่ง (ตามรูปภาพ) เพราะยังไม่เคยไปต่างประเทศเลย แต่ก้อยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร เปนห่วง เรื่องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เรื่องห้องพักโรงแรม เรื่องการสื่อสาร (ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง) ส่วนการเดินทางคิดว่าจะพาพ่อแม่ และแฟนไป รวมสี่คน ตั้งใจว่าจะไปประมาณ กลางปี-ปลายปี 56
1. การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ แผนที่ช่วยเราได้เยอะมั้ยค่ะ พอดูแผนที่แล้ว จะมองภาพออกได้เลยหรือป่าว จะอธิบายยังไงดีเน้อ สถานที่เที่ยวหลาย ๆ แห่ง จำเปนจะต้องใช้รถไฟฟ้าหรือป่าวค่ะ หรือว่าแต่ละสถานที่บางครั้งอาจจะเดินไปหากันได้สะดวกกว่า หรือยังไง เรื่อง EZ link ด้วย ไม่ค่อยเข้าใจในการใช้งานค่ะ
2. แนะนำที่พักให้ด้วยนะค่ะ ไม่จำเปนต้องหรูหรา พอพักได้ก้อพอ ไม่เก่ามาก สะอาด อยู่ในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวก้อดี เพราะจะได้เดินสำรวจได้ ไม่ต้องพึ่งรถไฟฟ้า
3. สถานที่ท่องเที่ยว แต่ละที่ที่ admin พูดมา น่าสนใจ มาก ติดที่ว่า ห่วงการเดินทางเนี่ยแหล่ะ แต่ระยะเวลาในการไป ตาม admin 4 วัน 3 คืน พอดีใช่มั้ยค่ะ
4. ตั๋วเครื่องบิน จะต้องจองตั๋วไป-กลับ ล่วงหน้าประมาณเท่าไรดีค่ะ หรือว่าจะต้องจองโรงแรมก่อน ระยะเวลาการจองโรงแรมได้นานขนาดไหนค่ะ มีมัดจำ หรือว่าจะต้องโอนยอดเต็มเลยค่ะ
พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้ยังคิดไม่ค่อยออก แล้วจะรบกวน admin ใหม่นะค่ะ
5. รบกวนตอบผ่านกระทู้นี้ และตอบผ่านเมลล์ด้วยนะค่ะ pasaneejaja@gmail.com
จะได้แวะเข้ามาอ่าน Comment ต่าง ๆ ในกระทู้นี้ มีประโยชน์มากเลย สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปอย่างดิฉันค่ะ
ขอบพระคุณมาก ๆ นะค่ะ
ตอบคุณ Jaowconan
1. การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ แผนที่ช่วยเราได้เยอะมั้ยค่ะ พอดูแผนที่แล้ว จะมองภาพออกได้เลยหรือป่าว จะอธิบายยังไงดีเน้อ สถานที่เที่ยวหลาย ๆ แห่ง จำเปนจะต้องใช้รถไฟฟ้าหรือป่าวค่ะ หรือว่าแต่ละสถานที่บางครั้งอาจจะเดินไปหากันได้สะดวกกว่า หรือยังไง เรื่อง EZ link ด้วย ไม่ค่อยเข้าใจในการใช้งานค่ะ
– แผนที่สิงคโปร์ช่วยได้เยอะครับ ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ แผนที่เค้าเลยละเอียด มีชื่อโรงแรมสถานที่สำคัญครบ การเดินทางในสิงคโปร์จำเป็นต้องใช้รถไฟฟ้าครับ
2. แนะนำที่พักให้ด้วยนะค่ะ ไม่จำเปนต้องหรูหรา พอพักได้ก้อพอ ไม่เก่ามาก สะอาด อยู่ในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวก้อดี เพราะจะได้เดินสำรวจได้ ไม่ต้องพึ่งรถไฟฟ้า
– ผมชอบ Porcelain Hotel ครับตกแต่งสวย ราคาไม่แพงมาก ใกล้รถไฟฟ้า อยู่ย่าน chinatown
3. สถานที่ท่องเที่ยว แต่ละที่ที่ admin พูดมา น่าสนใจ มาก ติดที่ว่า ห่วงการเดินทางเนี่ยแหล่ะ แต่ระยะเวลาในการไป ตาม admin 4 วัน 3 คืน พอดีใช่มั้ยค่ะ
– 4 วัน 3 คืน ใช่แล้วครับ เที่ยวแบบสบายๆ จริงๆ แล้ววันที่ 4 ไม่ได้เที่ยวไหนด้วย ถ้าคุณ Jaowconan กลับตอนเย็น / กลางคืน ก็จะมีเวลามากกว่าผม
4. ตั๋วเครื่องบิน จะต้องจองตั๋วไป-กลับ ล่วงหน้าประมาณเท่าไรดีค่ะ หรือว่าจะต้องจองโรงแรมก่อน ระยะเวลาการจองโรงแรมได้นานขนาดไหนค่ะ มีมัดจำ หรือว่าจะต้องโอนยอดเต็มเลยค่ะ
– ถ้าเจอโปรฯถูก เช่นของ Air asia ราคาไม่เกิน 3,500 บ / คน (ไป-กลับ) จองล่วงหน้า
12 เดือนเลยก็ได้ครับ หรือถ้าไม่อยากจองนานก็ Jet star ราคาไม่แพงจองล่วงหน้า 1-2 เดือนก็พอ ถ้าอยากบินสบายหน่อยก็นั่ง Singapore Airline, Cathay Pacific, TG ซื้อตั๋วต้องจ่ายราคาเต็มทันทีครับ
ทุกคนต้องมีครั้งแรกครับ อย่าไปกลัวสิงคโปร์นี่ไปง่ายที่สุดแล้วครับ 🙂
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ เปนประโยชน์ต่อดิฉันมากเลยค่ะ ถ้าไปแล้ว จะถ่ายรูปมาให้ดูนะค่ะ
ขอบพระคุณมาก ๆ เลยค่ะ Admin
ปล. ถ้ามีปัญหาอะไร จะรบกวนขอข้อมูลอีกครั้งนะค่ะ
^-^
ตอบคุณ Jaowconan
ติดขัดตรงไหนก็สอบถามเพิ่มได้ครับ ยินดีครับ 🙂
รบกวนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยคะ กำลังจะไป ปลายปี 31/12-03/01
1.ถึงสิงคโปร์ประมาณ 11 โมง ไปกัน 6 คน พักที่ five stones hostel แถว clarke quay ถ้าจอง mini van ราคา 1,500 ฿ คิดว่าคุ้มว่านั่ง EZ link ไม่คะ
2.ไปถึงที่พักน่าจะเที่ยง แถว clarke quay มีร้านข้าวมันไก่ ใกล้ ๆ หรือป่าวค่ะ หน้าจะเป็นย่าน china town ใกล้สุดหรือป่าว หรือมีแต่ร้านอาหารทะเล jumbo seafood
3.วันแรก บ่าย จอง duck tours แล้วต่อด้วย Singapore flyer แล้ว เดินเล่นแถว Marina Bay, suntec city, fountain of wealth (มีโชว์รอบไหนบ้าง)
4.วันแรกไป 31/dec คิดว่า น่าจะไป countdown ร้านไหนดี
5.วันที่ 1/Jan ไป USS ทั้งวัน (แอดมินจอง USS ที่ไหนเหรอค่ะ 2600 บาทสองคน ถูกจัง)
6.วันที่ 2/Jan shopping Orchard, chaina town, muttafa
7.วันที่ 3/Jan ว่างอีก 1 วันที่ไหนดี เครื่องออก 20:40 น. ค่ะ
รบกวนดูโปรแกรมให้อีกครั้งนะค่ะ ว่าแน่นไปหรือป่าว สามารถขยับไรได้อีก ขอบคุณมากค่ะ
ตอบคุณ pUm
1.ถึงสิงคโปร์ประมาณ 11 โมง ไปกัน 6 คน พักที่ five stones hostel แถว clarke quay ถ้าจอง mini van ราคา 1,500 ฿ คิดว่าคุ้มว่านั่ง EZ link ไม่คะ
– นั่งรถไฟฟ้าไปคนละประมาณ 60 บาทครับ ถ้าไม่มีเด็ก – ผู้สูงอายุนั่งรถไฟฟ้านั่งรถไฟฟ้้าประหยัดไปได้เยอะครับ
2.ไปถึงที่พักน่าจะเที่ยง แถว clarke quay มีร้านข้าวมันไก่ ใกล้ ๆ หรือป่าวค่ะ หน้าจะเป็นย่าน china town ใกล้สุดหรือป่าว หรือมีแต่ร้านอาหารทะเล jumbo seafood
– มีร้านข้าวมันไก่ Hainanese Chicken Rice ในห้าง Central (Clarke Quay)ครับ
3.วันแรก บ่าย จอง duck tours แล้วต่อด้วย Singapore flyer แล้ว เดินเล่นแถว Marina Bay, suntec city, fountain of wealth (มีโชว์รอบไหนบ้าง)
– Fountain of wealth มีโชว์รอบ 8.00 PM, 8.30 PM, 9.00 PM
4.วันแรกไป 31/dec คิดว่า น่าจะไป countdown ร้านไหนดี
– ไม่ทราบเหมือนกันครับ ลองดูแถว Clarke Quay มีร้านน่านั่งหลายร้าน แต่งาน countdown จริงๆ จัดที่ Marina Bay Sands มีจุดพลุด้วย
5.วันที่ 1/Jan ไป USS ทั้งวัน (แอดมินจอง USS ที่ไหนเหรอค่ะ 2600 บาทสองคน ถูกจัง)
– จองผ่านเวบ rwsentosa.com ครับ โปรฯ master card
6.วันที่ 2/Jan shopping Orchard, chaina town, muttafa
– ถ้ายังไม่เต็มที่แถม Bugis street ให้อีกที่ครับ คล้ายจตุจักรบ้านเรา
7.วันที่ 3/Jan ว่างอีก 1 วันที่ไหนดี เครื่องออก 20:40 น. ค่ะ
– Gardens by the Bay ครับ สวนพฤกษ์ศาสตร์ขนาดใหญ่ เปิดใหม่ในสิงคโปร์
โปรแกรมคุณไม่แน่นนะครับ ออกจะหลวมๆ กำลังสบาย
สอบถามเพิ่มเติมจากที่ตอบมาแล้วนะ
1.จากสนามบิน ไปที่พัก แล้วนั่ง MRT มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จะเกะกะคนอื่นไม่คะ
ตอบคุณ pUm
ก็ไม่เกะกะนะครับ รถไฟฟ้าที่สิงคโปร์คนไม่แน่นนะครับ แต่ถ้าเป็นฮ่องกงรถไฟฟ้าจะแน่นมาก
คุณแอดมินคะ ดิฉันจะเดินทางไปสิงคโปร์เดือนมีนาคมค่ะ น่าจะถึงราวๆ11โมงค่ะ พักมาริน่าเบย์ค่ะ อยากขอคำแนะนำจะจัดโปรแกรมยังไงดีคะ ข้อ1 ถึงโรงแรมแล้วแต่ต้องเช็คอินบ่าย3 ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนได้ไหมคะ ข้อ2 ต้องการไป ห้างmuttafa duck tour และขึ้นsingapore flyer ไปsuntec cityสะดวกไหมคะ มันอยู่ใกล้โรงแรมมาริน่ารึปล่าว เดินไปได้เลยไหมคะ แล้วค่อยกลับมาเช็คอินตอนเย็นจะได้ไหมคะ ข้อ3 จากมาริน่า เบย์แซนด์จะไปห้างmuttafa. เดินางด้วยวิธีไหนดีคะ ไปกัน8คนค่ะ ไปtaxiจะแพงไหมคะ
ตอบคุณ New
ผมว่าลงจากเครื่องไปโรงแรมลองขอเช็คอินดูครับ ถ้ามีห้องว่างอยู่ส่วนมากเค้าก็จะให้เช็คอินได้เลย หรือถ้าไม่ได้ฝากกระเป๋าไว้ก่อนก็ยังดี
จาก Marina Bay Sands สามารถเดินไป Suntec city, Singapore flyer ได้ครับ อยู่ใกล้ๆ ส่วนไปห้าง Mustafa ก็นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานี Marina Bay ไปลงที่ Dhoby Ghaut แล้วต่อสายสีม่วงอีก 2 สถานีไปลงที่ Ferrer Park ถ้าไปกัน 8 คน ใช้รถ Taxi 2 คันผมว่าคงไม่เกิน 400 บาท (2 คัน)
เข้ามาดูแล้วรู้กแย่เลย
พอดีซื้อทัวร์กับมหาลัยไป 16,800 โดนเพิ่มอีก 1000
ได้ไปมาเลเซีย-สิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน แต่วันแรกไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ เข้าที่พักเลย
ได้ไปสิงคโปร์วันเดียว :((
นอนโรงแรม the zon regency hotel
สายการบิน royal jordanian
ทานอาหารเองประมาณ 4 มื้อค่ะ
ถามนิดนึงค่ะ ถ้าไปแบบครอบครัว 5 คน ควรพักโรงแรมไหนดีค่ะ ผู้ใหญ่ 5 คนเรยค่ะ
ขอคำแนะนำหน่อยครับ เดินทาง 16-19 มี.ค.56 ครับ ไปถึง 16.00 น.คงเดิน Orchard คงเดินช๊อบจนมืดครับ อ้อผมจองโรงแรม 81 โฮเต็ล เบนคูเลน ครับไปกัน 3 คน พ่อแม่ลูก วันที่สอง จะเดินทางไป Lego Land มาเลเซีย คงเสียไปเลยทั้งวัน วันที่สามเที่ยว USS + Sentosa ทั้งวัน รบกวนแอดมินช่วยจัดทริบที่ลงตัวให้ด้วยครับ เพิ่มเติมรายละเอียดให้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
– สวสัดีค้าาาาาาาาา:)
ฮ้ะแฮ่ม
อยากจะไปมากเลยค่ะ ? แต่ไม่รู้เรื่องเลย 55 ตอนนี้ อายุ 14 ค้ะ
ปีหน้าว่าจะไป คือว่า ถ้าไปใช่ไหมค้้ะ เราต้อง ไป ซื้อตั๋วที่ไหนค้ะ ราคา? หัวเดียวนะค้ะ
แล้วก็พอไปถึง เราจะนั่งรถไร จะจองโรงแรมอ่ะค้ะ
– แล้ว พอไป อย่างเช่น อากจะไป ช้อปปิ้ง ที่นั่นโน่น ต้องนั่งรถอะไรไปค้ะ
– แล้วตนกลับ ต้องนั่งรถ จากไหน กลับไหน?
– แล้วโรมแรม ที่พักแพงไหมอ้ะค้ะ ?
– แล้วเรา ต้องเก่งพูด ภาษาอะไร บ้างค้ะ ( เผื่อว่าหลงทางกลับ โรงแรมไม่เจอ )
– แล้ว ตอนจะกลับมาเมืองไทย? ราไปซื้อตั๋วที่ไหนค้ะ ?
แล้วนั่งเครื่องนานไหมค้ะ?
แล้ว อาหาร เครื่องดื่ม แพงไหม อ้ะค้ะ
( ขอบคุณที่อ่านจนจบ จ้า)
อยากขอความคิดเห็น แอดมิน นิดนึงค่
1.มีเวลา5วัน 4 คืน ไปสิงคโปรื พักที่ไชน่าทาวน์
จะเที่ยวที่ไหนได้บ้างคะ วันที่2 จะข้ามไปฝั่งมาเลพัก 2 คืนที่บูกิตบินตัง
และจะข้ามฝั่งมาช็อปที่สิงค์โปรก่อนกลับ จะเหนื่อยไปไหมคะ
2.ของฝากซื้อที่ไหนจะได้ของฝากที่ประทับใจกว่ากันค่ะ
ตอบคุณ little devil
เป็นคำถามที่กว้างมากเลยนะครับ ไม่รู้ว่าผมจะตอบตรงประเด็นหรือเปล่า
1.มีเวลา5วัน 4 คืน ไปสิงคโปรื พักที่ไชน่าทาวน์ จะเที่ยวที่ไหนได้บ้างคะ วันที่2 จะข้ามไปฝั่งมาเลพัก 2 คืนที่บูกิตบินตัง
และจะข้ามฝั่งมาช็อปที่สิงค์โปรก่อนกลับ จะเหนื่อยไปไหมคะ
– 5 วัน 4 คืน สิงคโปร์และมาเลเซียก็ได้เหมือนกันครับ แต่จะแน่นไปนิดนึง เหนื่อยแน่นอน ที่ไปได้ก็ Merlion, Marina Bay, Shopping Orchard, Shopping Mustafa, Chinatown ถ้าจะไป USS ด้วยก็คงต้องตัดอย่างอื่นทิ้งบ้าง ส่วนมาเลเซียก็คงได้ Petronas Twin Towers, จัตุรัสเมอร์เดก้า, Central Market, บูกิตบินตัง, Chinatown
2.ของฝากซื้อที่ไหนจะได้ของฝากที่ประทับใจกว่ากันค่ะ
– ของฝากก็ควรซื้อทั้งสองที่เลย มาเลเซียก็ซื้อที่ Central market + Chinatown, สิงคโปร์ก็ที่ Chinatown + Mustafa คงได้ประมาณ magnet พวงกุญแจ ชอกโกแลต
อยากจะขอความเห็นจาก admin คะ ระหว่างพักที่ porcelain กับ santa grand hotel ที่ china town อันไหนดีกว่ากันคะ
ตอบคุณ thanatporn
ผมชอบ porcelain มากกว่าครับ ตกแต่งดูทันสมัยดี
สวัสดีครับคุณ Admin
Jan 10,2014 at 8.47 pm.
*จองตั๋ว Air Asia ไป-กลับ ราคาถูก และได้จอง Hotel 81 Star พัก 3 คน เดินทางถึง
วันที่ 1มีค. เวลา 10.30น.จะเดินทางไป รร.โดยรถไฟฟ้าหรือแทกชี่ดีครับ ข่วยบอกเส้นทางด้วย
ตอนบ่ายมีเวลาอยากไปเที่ยวสวนพฤกษ์ศาสตร์จะมีเวลาไหมครับ
*วันที่่ 2 จอง duck tour
*วันที่ 3 มีค. มีเวลาว่างถืงบ่าย เครื่องออกเวลา 17.10น.ข่วยแนะนำควรไปเที่ยวที่ไหนดีครับ
*ใกล้ รร.หาอาหารทานได้ง่ายไหม
ที่ Finland มีให้ชาร์จมือถือฟรี ทุก Airport ทั่วประเทศเลยครับ…
สวัสดีค่ะ แอดมิน
จะไปเที่ยวสิงคโปรํกันครอบครัสค่ะ แพลน 5คืน 6 วัน แค่อยากไปเที่ยวฝังมาเลด้วย จะต้องทำยังไงในกานไปเที่ยวฝั่งมาเลคะ ขอคำเนอะนำด้วยค่ะ
สัก 2 วันที่มาเล ขอบคุนค่ะ
ตอบคุณ Mai
คำถามค่อนข้างกว้างครับ ไม่ทราบว่าจองตั๋วแล้วหรือยังครับ แล้วจะไปเที่ยวไหนในมาเลเซียบ้าง ระหว่างมาเลเซีย และ สิงคโปร์ สามารถเดินทางถึงกันได้สะดวกครับ มีรถบัสข้ามไปมาระหว่างประเทศ
ขอถามหน่อยนะคะว่าเราไปถึงสนามบินตอนประมานที่1 แบบนี้ต้องเดินทางยังไงคะ มีรถโรงแรมมารับไหมคะ ของhotel 81
ตอบคุณ Ja
ถึงสนามบินตี 1 ใช่ไหมครับ ถ้าไปไม่เกิน 2 คนแนะนำให้นั่ง Airport Shuttle Bus คนละ 9 SGD ส่งถึงหน้าโรงแรม แต่ถ้ามากกว่า 2 คน แนะนำ Taxi ครับ
Hotel 81 ไม่มีบริการรับ-ส่งที่สนามบินครับ
ขอบคุณค่ะ
รีวิวสิงคโปร์ยอดเยี่ยมมาก ๆ คร้า อ่านแล้วนึกอยากไปขึ้นมาทันที ไปวันธรรมดา บินแอร์เอเซีย พักแมริออท ค่ะ ไม่ไปยูนิเวอร์แซล รบกวนช่วยจัดโปรแกรมให้หน่อยนะคร้า กลัวหลงทางอ่ะค่ะ
วันแรก. จากสนามบิน ไป รร.แมริออท โดยรถไฟ ขึ้น-ลง ต่อสถานีไหนบ้างคะ
เริ่มเที่ยว Merlion Park
Garden by the bay
Marina Bay Sand
ไปไหนต่อดีอีกคะ แนะนำสถานที่รับทานอาหารด่วยค่ะ แบบฟูดคอร์ท ถูกดี
วันที่สอง little India, ห้าง Mustafa
Sri Mariamma Temple, Buddha Tooth Relie
กินข้าวที่ Maxwell food centre
ไป Sentosa, ไป Clark Quay นังเรือ Singapore River Cruises
วันที่สาม ไป Singapore Botavic Gardens
ไปไหนต่ออีกค่ะ รับข้าวที่ไหนดี
วันที่สี่ กลับบ้านคร้า ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำนะคะ
ตอบคุณ Sa
การเดินทางในสิงคโปร์ แนะนำให้ดูใน Google map ครับ แล้วดูว่าใกล้สถานีอะไร จากนั้นมาเทียบกันแผนที่ MRT แล้วจะรู้ว่าต้องต่อสายตรงไหนบ้าง
สถานที่เที่ยวน่าจะพอแล้วครับ, สิงคโปร์มี Food court เยอะมาก เจอที่ไหนสะดวกก็ทานได้เลยครับ แนะนำ Kopitiam ครับมีหลายสาขา
แบ่งไปวันที่ 3 บ้างครับ วันนี้เยอะเกิน
เอาของวันที่ 2 มาใส่ในนี้บางส่วน และเพิ่ม Orchard เข้าไปครับ
เที่ยวให้สนุกครับผม ^^
วันแรก ถึงสิงคโปร์ประมาณห้าโมงเย็น กะว่าจะกินข้าวแถวที่พัก china town แล้วไปเดินต่อที่clarke quay
วันที่สอง buddha tooth relic temple/sri mariamman temple/melion park /marina bay sand
วันที่สาม merlion tower/universal studio/ S.E.A aquarium/siloso beach/ china town
วันที่สี่ gardens by the bay/singpore flyer/orchard central/bugis street/little india/mustafa centre/changi airport (flight 10.45)
อยากให้ช่วยดูให้หน่อยค่ะ ว่าต้องปรับตรงไหนบ้าง
อยากให้ช่วยแนะนำที่กินข้าวของวันที่สองกับวันที่สี่หน่อยค่ะ ว่าไปแถวไหนดี