วนอุทยานแพะเมืองผี แพร่
วนอุทยานแพะเมืองผี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแพร่ มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ลักษณะวนอุทยาน มีสภาพเป็นป่าบนที่ราบลอนคลื่น สภาพสูง- ต่ำ ไม่สม่ำเสมอ มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 180-210 เมตร ทำให้เกิดสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดิน และหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ เช่น ดอกเห็ด และหน้าผา ดูแล้ว แปลกตา
ชื่อ แพะเมืองผี มาจากภาษาพื้นเมือง แพะ แปลว่า ป่าละเมาะ ส่วนคำว่า เมืองผี แปลว่า เงียบเหงา วังเวงอาจเกิดจากสภาพภูมิประเทศที่ดูเร้นลับน่ากลัว ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2524
ตำนานแพะเมืองผี
วนอุทยานแพะเมืองผี เมื่อครั้งในอดีตกาลนานมาแล้ว ชาวบ้านขนานนามว่า เป็น “แพะเมืองผี” ไม่มีผู้ใดทราบประวัติเป็นที่แน่นอน แต่ได้เล่าสืบทอดกันมาว่า แต่ก่อนบริเวณป่าแห่งนี้ เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธ์ไม้ใหญ่ขึ้นอยู่หนาแน่นและสัตว์ป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก
ในสมัยนั้น มีครูบาปัญโญฯ เป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำชำ ตำบลน้ำชำ ซึ่งชาวบ้านได้พร้อมใจกันนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดน้ำชำ และได้บอกเล่าประวัติแพะเมืองผีสืบทอดติดต่อกันมาว่า มีหญิงชราคนหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ย่าสุ่ม” เข้าไปหาผัก หน่อไม้ เป็นอาหาร แต่หลงป่าแล้วไปพบหลุมเงิน ทองคำ จึงได้นำเงิน และทองคำ ใส่ถุงแล้วเตรียมหาบกลับบ้านเสร็จแล้วเกิดหลงป่าอีก โดยไม่สามารถนำเอาหาบเงิน ทองคำ ออกมาได้ ย่าสุ่มจึงวางหาบแล้วหาไม้มาคาดเป็นราว (ราวไม้)
ต่อมาออกจากป่าจนถึงบ้านและเดินกลับไปราวไม้ที่คาดไว้เป็นแนวทางไว้ ซึ่งปัจจุบันเป็นร่องทางน้ำพบเห็นได้ เป็นแนวออกไปทางบ้านน้ำชำทิศตะวันออกของแพะเมืองผี ย่าสุ่ม จึงได้ชักชวนชาวบ้านให้เข้าไปด้วยปรากฏว่า ชาวบ้านก็ได้ติดตามย่าสุ่มเข้าไปถึงจุดที่ย่าสุ่มวางหาบไว้แต่ไม่พบเงินและทองคำ ในหาบแต่อย่าใด ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร ชาวบ้านจึงขนานนามสถานที่นั้นว่า “แพะย่าสุ่มคาดราว” และได้ช่วยกันค้นหา พบรอยเท้าคนเดิน ย่าสุ่ม และชาวบ้านได้เดินตามรอยเท้าเหล่านั้นไปจนกระทั่งมาถึงพื้นที่ซึ่งชาวบ้านขนานนามว่า “แพะเมืองผี”
ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือคำว่า “แพะ” ในที่นี้หมายถึงป่าแพะ (ป่าดอย แล้งๆ) นั่นเอง ส่วนคำว่าเมืองผี ก็เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันสืบมาในสมัยดึกดำบรรพ์ โดยอาจจะเห็นว่าป่าแพะตรงนี้มีลักษณะแปลก และเพราะความเร้นลับตามเรื่องราวที่เชื่อถือเล่าสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็อาจเป็นได้
สิ่งที่น่าสนใจในวนอุทยานแพะเมืองผี
- ต้นดิกเดียม (Gardenia turgida Roxb)
มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าต้นจั๊กจี้ เป็นต้นไม้ที่มีความแปลก เมื่อมีคนมาสัมผัสหรือลูบเบาๆ ที่ต้น ใบที่ปลายยอดจะสั่นคล้ายกับมีลมพัดใบ คนโบราณเปรียบว่าต้นไม้จั๊กจี้ ลักษณะต้นดิกเดียม เป็นไม้ยืนต้นขนาด 7-13 เมตร มีดอกสีขาว อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้า ถัดจากที่จอดรถประมาณ 100 เมตร (มีป้ายบอกทางไปชมต้นดิกเดียมจากด้านหน้าทางเข้า)
ต้นดิกเดียม ต้นจั๊กจี้
- ดินยุบลักษณะเป็นหน้าผา และ ดอกเห็ด
บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจที่สุดในแพะเมืองผี เป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่เกิน 2 ล้านปี เดิมพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นลำน้ำ มีดิน หิน ทราย กรวด ทับถมเป็นตะกอนมานับหมื่นปี
ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก เกิดรอยเลื่อนยกตัว เมื่อมีฝนตกเกิดการชะล้าง ทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ แต่การพังทลายไม่เท่ากันตามชนิดของตะกอน จึงเกิดเป็นพื้นที่สูงต่ำ และมีรูปทรงต่างกันไป
วนอุทยานแพะเมืองผีได้จัดทำเส้นทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยว และมีข้อห้าม ห้ามปีนขึ้นเนิน หรือ กองดิน
- ผาผ่อแล่
ถัดจากแพะเมืองผีไปไม่ไกล มีทางเดินขึ้นไปยังผาผ่อแล่ บนนี้เป็นจุดชมวิวแพะเมืองผี เห็นวิวภูเขา และป่ารอบๆ
ผาผ่อแล่
การเข้าชม |
เวลาทำการ : | ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00– 17.00 น. |
ช่วงเวลาเที่ยว : | ตลอดทั้งปี |
ค่าเข้าชม
|
ที่ตั้ง |
ที่อยู่ : |
หมู่ 2 ตำบลน้ำชำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ 54000 |
เบอร์โทรศัพท์ : | 0-5453- 3489 , 0-5452 -1118 |
เวบไซต์ : | – |
การเดินทาง |
รถยนต์ : | เดินทางจากจังหวัดแพร่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 101 ระหว่างจังหวัดแพร่ – น่าน ห่างจากตัวจังหวัดแพร่ ประมาณ 7 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือไปวนอุทยานแพะเมืองผีอีก 3 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดเส้นทาง มีที่จอดรถสะดวก |
Post Views 6008