เที่ยวมาเก๊า ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
ใหม่ล่าสุด!!! รีวิวมาเก๊า 3 วัน 2 คืน 2013 แบบไม่ง้อทัวร์
เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว Air asia ออกโปรฯ Big sale มาหลายเส้นทาง หนึ่งในเส้นทางที่ผมสนใจคือฮ่องกง ราคาไป – กลับ กรุงเทพฯ? – ฮ่องกง รวมภาษีสนามบินค่าธรรมเนียม + โหลดกระเป๋า และเลือกที่นั่ง แล้วที่ประมาณคนละ 4,500 บาท ถูกกว่าสายการบิน Full service อย่าง Cathay Pacific, Hong Kong Airline อยู่หลายพัน พอเห็นราคานี้เราก็ อดหลับอดนอนจองเลยครับ แม้ว่าจะไปปีหน้าก็ตาม
ตั๋วที่จองได้ เดินทางวันศุกร์ 2 มีนาคม 2012 กลับวันจันทร์ 5 มีนาคม 2012 น่าจะอยู่ในช่วงปลายหนาวของฮ่องกงพอดี เที่ยวกันแบบเต็มอิ่ม 4 วัน 3 คืน เรามีเวลาในการเตรียมตัวก่อนเดินทางอยู่เกือบปี ก็หาข้อมูลมาเรื่อยๆ จนมาเห็นรีวิวมาเก๊าใน Pantip เลยสนใจอยากจะไปค้างมาเก๊าซัก 1 คืน แล้วกลับไปค้างที่ฮ่องกงอีก 2 คืน
การเดินทางในทริปนี้เลยซับซ้อนขึ้น เปลืองเวลาและเปลืองตังค์ขึ้นนิดหน่อย ต้องใช้บริการ Ferry จากสนามบินฮ่องกง ข้ามไปมาเก๊า และในวันที่ 2 ของทริปต้องนั่ง Ferry จากมาเก๊า ย้อนกลับมายังฮ่องกง การเดินทางไปยังมาเก๊า และ ฮ่องกง คนไทยสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องใช้ Visa ครับ ใช้แค่ Passport เล่มเดียว อยู่ในมาเก๊าได้ 30 วัน
แต่ถ้าอยากบินตรงกรุงเทพฯ – มาเก๊า ตอนนี้มีให้บริการอยู่ 3 สายการบินครับ 1. ไทยแอร์เอเชีย (Thai Air Asia) 2. แอร์มาเก๊า(Air Macau) และ 3. สายการบินน้องใหม่ ไทยสมายล์ (Thai Smile) โดยราคาเริ่มต้นของตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ – มาเก๊า อยู่ที่ราคา 6 พันกว่าบาท
เตรียมตัวไปเที่ยวมาเก๊า
การไปเที่ยวมาเก๊านอกจากข้อมูลทางอินเตอร์เนตแล้ว ควรมีหนังสือท่องเที่ยวมาเก๊าสักเล่มติดตัวไปด้วย สำหรับหนังสือคู่มือท่องเที่ยวมาเก๊า ผมแนะนำหนังสือของการท่องเที่ยวมาเก๊า สามารถขอได้ฟรีที่
การท่องเที่ยวมาเก๊า
888/201 อาคารมหาทุนพลาซ่า ชั้น3 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
หรือถ้าไม่สะดวกไปรับก็สามารถเมลไปขอ คู่มือท่องเที่ยวมาเก๊า + แผนที่ ได้ที่ mgto@plt.co.th โดยระบุที่อยู่ที่ต้องการจะให้ส่งหนังสือไปในเมล การท่องเที่ยวมาเก๊าส่งให้ทางไปรษณีย์ฟรีครับ ผมเองก็ขอคู่มือท่องเที่ยวมาเก๊าไปทางไปรษณีย์เหมือนกัน ประมาณ 5 วันก็ได้รับหนังสือแล้วครับ ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวมาเก๊า มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หมายเหตุ ตอนนี้การท่องเที่ยวมาเก๊า ประจำประเทศไทยได้งดส่งคู่มือการท่องเที่ยวและแผนที่มาเก๊าทางไปรษณีย์ แต่สามารถเดินทางไปรับเองได้ที่ 888/201 อาคารมหาทุนพลาซ่า ชั้น3 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โทร: 02- 650 9336 ข้อมูล ณ วันที่ 1/3/2014
ตื่นแต่เช้าไป Check in Air asia
ก่อนวันเดินทางเราอ่านเจอมาว่าช่วงนี้ ตม. ที่สุวรรณภูมิ แถวยาวมากเนื่องจากปิดปรับปรุง เลยคิดว่าต้องไปให้เช้าที่สุด กลายเป็นว่าคืนก่อนวันเดินทางแทบไม่ได้นอนเลย ตื่นตั้งแต่เกือบตีสอง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ นั่ง Taxi มาสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงที่สนามบิน ตอน 3.30 น. เช้ามากๆ Counter check in ของ Air asia ยังไม่เปิดเลย
มาถึงแล้วก็เช็คเที่ยวบินซะหน่อยดูว่าเที่ยวบินมี Delay หรือเปล่า
ใครที่ไม่ได้ทำ web check in มาจากบ้าน ทำ web check in ที่ตู้ Kiosk นี้เลยก็ได้ สะดวกดี print Boarding pass ออกมาได้ทันทีเลย
ทริปนี้ไป 4 วัน 3 คืน 2 คน กับกระเป๋าเดินทางขนาดสูง 24 นิ้ว และกระเป๋ากล้องคนละใบ น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกือบ 15 กิโลครับ ซื้อน้ำหนักมาล่วงหน้าแล้ว
เที่ยวบินของเราคือ FD3712 ออกจากสนามบิน 6.30 น. และถึงที่ฮ่องกงเวลา 10.15 (เวลาฮ่องกง) แถว check in ของ Air asia จะอยู่ที่แถว D และ E ผมเห็นฝรั่ง backpacker นอนรอขึ้นเครื่องที่แถว E เยอะเหมือนกัน
ประมาณตี 3.45 พนักงาน Air asia ก็เริ่มทยอยเปิด Counter กันแล้วครับ แต่ให้เช็คอินได้เฉพาะเที่ยวบินไปบาหลี ก่อนเนื่องจากว่าเป็น Flight แรกของ Air asia
ตี 4 เที่ยวบินอื่นๆ ถึงจะสามารถเช็คอินได้ ในช่วงเช้ามืดแถว Drop luggage สำหรับคนที่ทำ Web check in มาแล้วยังไม่เปิด ต้องมาเข้าแถวเช็คอินปกติ แต่ใช้เวลาในการเช็คอินไม่นานครับ
แลกเงินไปมาเก๊า
มาเก๊าใช้สกุลเงิน ปาตาการ์ (MOP$) 1 ปาตาการ์ จะแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ 100 อาโวส (AVOS) ตามธนาคารและร้านรับแลกเงินไม่ค่อยมีเงินมาเก๊าให้แลก หรือถ้ามีให้แลกอัตราแลกเปลี่ยนจะไม่ค่อยดี แต่ว่าเราสามารถใช้เงินฮ่องกงดอลล่าร์ (HKD) ที่มาเก๊าได้ครับ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รถเมล์ เรือ Ferry รับเงินฮ่องกงหมดครับ โดยร้านค้าจะถือว่า 1 MOP = 1? HKD แต่จริงๆ แล้ว 103.2 MOP = 100? HKD นั่นก็แปลว่าเราอาจจะขาดทุนนิดหน่อยถ้าจ่ายด้วยเงิน HKD ส่วนการทอนเงินก็อาจจะทอนมาเป็นปาตาการ์หรือฮ่องกงดอลล่าร์
ผมแลกเงินฮ่องกงดอลล่าร์มาก่อนแล้วที่ ธ. กสิกรไทย อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 3.99 บาท / 1 HKD ถ้ามาแลกที่สนามบิน 4.05 บาท / 1 HKD ผมแลกไป 4,000 HKD
ผลต่างระหว่างแลกที่ ธ. กสิกรไทย และแลกที่สนามบินอยู่ที่ (4.05-3.99)*4000 = 240 บาท ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่ ธ. กสิกรไทย อยู่ใกล้บ้านอยู่แล้วเลยแลกไปให้เรียบร้อย
Note. 15/1/2014 การแลกเงิน HKD (ฮ่องกงดอลลาร์) ควรหลีกเลี่ยงธนบัตร ใบละ 1,000 ที่ออกโดย Bank of China ปี 2003 และ HSBC รูปหัวสิงโต เนื่องจากมีการปลอมแปลงเป็นจำนวนมาก ร้านค้า และ ห้างจะไม่รับธนบัตรรุ่นนี้แล้ว
หลังจากเช็คอิน + โหลดกระเป๋ากับ Air asia เสร็จ ก็รีบเข้า ตม. เพราะกลัวว่าแถวจะยาวแล้วเสียเวลานาน ผมเข้าตม. ทางฝั่งซ้าย วันนี้ ตม. ฝั่งซ้ายเปิดอยู่ 8 ช่อง รอคิว 3 คิวเท่านั้น ก็ผ่านเข้ามาด้านในได้ตั้งแต่ยังไม่ตี 4 ครึ่ง อีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว
Duty free ที่สุวรรณภูมิ หลังผ่าน ตม. เข้ามาแล้วยังเปิดกันไม่ครบทุกร้านเลย บรรยากาศเงียบมาก เดินไปเรื่อยๆ จนถึง gate G1a เที่ยวบินก่อนหน้านี้ยังไม่ออกไปเลย เลยคิดว่าไปหาอะไรทานเบาๆ รองท้อง หากาแฟกินให้สดชื่น หายง่วง
เดินไปเดินมาอยู่หลายร้าน ดูแล้วร้าน mister Donut น่ากินสุด ร้านอาหารด้านในขายอาหารแพงมาก แพงกว่าในสนามบินฮ่องกง หรือ สิงคโปร์เสียอีก ทั้งๆ ที่ค่าครองชีพบ้านเราถูกกว่าบ้านเค้ามากกว่าครึ่ง
ถาดนี้ 260 บาทครับ มีกาแฟร้อน 2 แก้ว กาแฟต้มนะครับ ไม่ใช่กาแฟสด โดนัท 1 ชิ้น ขนมปัง + เบคอน
กินอิ่มเสร็จพอมีเวลานั่งเล่นอีกแปปนึง แล้วก็ไปรอที่เกทเลย ได้เวลา Boarding แล้ว
เที่ยวบินนี้เป็น Bus Gate ครับ ไม่มีงวงช้างให้เดินขึ้นเครื่อง ส่วนมากเที่ยวบินที่มีงวงช้างจะเป็นเที่ยวบินที่เพิ่งบินลงก่อนหน้านี้
6 โมงกว่าๆ ก็เดินไปขึ้นรถบัสกัน เจ้าหน้าที่จะเรียกผู้โดยสาร Hot seat ก่อน แล้วตามด้วยผู้โดยสารธรรมดา
รถบัสที่พาไปขึ้นเครื่องจะมีอยู่ 3 คัน คันไหนเต็มก่อน ออกก่อน
ช่วงเช้าท้องฟ้าสวย อากาศดีครับ ระหว่างต่อแถวขึ้นเครื่องคว้ากล้องมาถ่ายไว้ 1 รูป ถ่ายเสร็จคุณแอร์เดินมาบอกห้ามถ่ายค่ะๆ
เที่ยวบินนี้ผมเสียเงินจองที่นั่งแถว 8 แถวนี้มองเห็นวิวดีครับ ไม่ติดปีก ตรงช่องหน้าต่างด้วย ถ้าใครบิน Air asia เที่ยวบิน FD3712 ให้เลือกนั่งฝั่งซ้ายนะครับจะไม่เจอแดด
พอเครื่องบินขึ้นรักษาระดับได้ แอร์ฯ ก็เริ่มแจกอาหารคนที่ซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว ผมจองไก่ทิกก้า (Chicken Tikka combo) กับข้าวมังสวิรัติ (Vegetarian koftha combo) ไว้ล่วงหน้าแล้ว มื้อนี้กินฟรีครับ เป็นโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่ปีที่แล้ว 2 เมนูนี้ออกมาใหม่เค้าเลยให้ฟรี ข้าว 2 กล่องนี้เสริฟพร้อมน้ำเปล่าขนาด 100 มิลลิลิตร แปลกใจว่า Flight ที่แล้วก็จองเมนูคู่นี้ไว้ แต่ไม่มีน้ำให้
2 เมนูนี้รสชาติก็พอกินได้ แต่ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ ถ้าให้เสียตังค์ซื้อผมซื้อแซนวิซ กับ พิซซ่าอร่อยกว่า
จากนั้นแอร์ฯ ก็แจกใบ ตม. ฮ่องกง ให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบิน แต่เรายังไม่เข้าฮ่องกงก็เลยเก็บใบ ตม. ไว้เป็นที่ระลึก
เครื่องบินไปได้ 2 ชั่วโมงกว่าๆ กัปตันก็ประกาศข่าวดีว่าเราจะถึงก่อนกำหนดประมาณ 15 นาที นั่นก็แปลว่าเครื่องจะลงประมาณ 10.00 น. ตามเวลาฮ่องกง (เวลาฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) เดี๋ยวพอเครื่องลงถึงสนามบินฮ่องกง เราก็จะนั่งเรือ Ferry ข้ามไปมาเก๊ากันเลยครับ
การเดินทางจากสนามบินฮ่องกงไปมาเก๊า (HKIA to Macau)
1. เมื่อลงจากเครื่องแล้วให้รีบเดิน ถ้าไปซื้อตั๋วได้เร็วอาจจะได้ขึ้นเรือรอบ 11.00 น. ถ้าไปช้าจะได้ขึ้นเรือรอบ 12.45 น. ดูป้าย Ferries to Mainland / Macau แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ
2. เดินตามป้าย Ferries to Mainland / Macau ขึ้นรถไฟไปอีก Terminal
3. เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ จนถึงทางแยกที่ด้านหน้าเป็นด่าน ตม. ฮ่องกง ให้มองไปทางขวาจะเจอกับที่ขายตั๋ว Ferry ไปมาเก๊า, เซินเจิ้น ฯลฯ ไปมาเก๊าไม่ต้องผ่านตม. ฮ่องกง นะครับ ย้ำอีกครั้ง “ไปมาเก๊าไม่ต้องผ่านตม. ฮ่องกง”
4. ซื้อตั๋วของ TurboJet ราคา 233 HKD / คน (Economy class) แปลงเป็นไทยได้ประมาณ 930 บาท และ Super class ราคา 362 HKD Counter ของ TurboJet จะอยู่ฝั่งซ้าย ฝั่งขวาจะเป็นของ CKS เรือออกรอบเย็นๆ
4.1 ถ้าไม่มีสัมภาระโหลดมากับเครื่องบิน สามารถไปเรือ Ferry รอบ 11.00 น. ได้แน่นอน มีเงื่อนไขอยู่ว่าเราจะต้องไปซื้อตั๋วก่อนเรือออก 30 นาที (สำหรับผู้ที่ไม่มีสัมภาระโหลดมากับเครื่องบิน)
4.2 ถ้ามีสัมภาระโหลดมากับเครื่องบิน เราจะได้นั่งเรือรอบ 12.45 น. (8S121) มีเงื่อนไขอยู่ว่าเราจะต้องไปซื้อตั๋วก่อนเรือออก 60 นาที และเราจะต้องเอาสติกเกอร์ Barcode กระเป๋า ให้เค้าไปรับกระเป๋าแทนเรา เนื่องจากว่าเราออกไปเอากระเป๋าหลัง ตม. ไม่ได้ ทาง TurboJet จะนำกระเป๋าเราขึ้นเรือให้ เราไปรับกระเป๋าที่มาเก๊าเลย
ซื้อตั๋ว TurboJet เสร็จมีเวลาเหลือเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะได้เวลาขึ้นเรือ เลยใช้ Free wifi ที่สนามบินฮ่องกงอัพ facebook อ่านข่าวฆ่าเวลาไป สนามบินสุวรรณภูมิเราน่าจะทำแบบนี้บ้างมี Free wifi ที่สามารถใช้ได้เลย แค่กด accept ตอนเปิด Browser ครั้งแรกเท่านั้น ไม่ใช่ให้ไปขอ password ให้วุ่นวาย ถึงจะใช้ได้
ที่สนามบินฮ่องกงนอกจากจะเป็นจุดต่อเรือไปมาเก๊าได้แล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ของประเทศจีนได้ดังนี้ (ให้บริการโดย CKS)
– Dongguan Humen (ตงกวน)
– Shenzhen Fuyong (เซินเจิ้น)
– Shenzhen Shekou (เซินเจิ้น)
– Zhuhai (จูไห่)
– Zhangshan (จงซาน)
– Macau (มาเก๊า)
– Jiangmen (Ferry & Bus Service)
กินข้าวกลางวันที่สนามบินฮ่องกง
เกือบจะเที่ยงแล้วหาข้าวกินกันดีกว่าครับ มีร้านข้าวอยู่ตรงข้ามกับที่ขายตั๋ว TurboJet ถ้ากินตอนเช้า-สายๆ ก็จะมีเมนู American Break fast ไข่ดาว ไส้กรอก ไข่ตุ๋น ชา / กาแฟ ราคาเริ่มต้นที่ 33 HKD เท่านั้น ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็ประมาณ 42 HKD พอๆ กับที่ขายข้างนอกสนามบิน
ผมสั่งบะหมี่เกี๊ยว แล้วก็ต้มลูกชิ้นมากินรสชาติใช้ได้เลยครับ มีคนมากินเยอะ พนักงานในสนามบินก็มากินที่นี่
เดินทางไปขึ้นเรือ Ferry ที่ Sky Pier สนามบินฮ่องกง
ประมาณเที่ยงเราก็เข้าไปในส่วนของ Ferry boarding เรือเราออก 12.45 น. ตอนแรกพนักงานเหมือนจะไม่ให้เราเข้า ยังไม่ถึงเวลา ยืนลังเลซักพัก แต่สุดท้ายแล้วก็ปล่อยให้เข้าไป
Ferry boarding จะอยู่ด้านหลังที่ซื้อตั๋ว TurboJet นะครับ หาไม่ยาก
จากนั้นก็ต้องลงบันไดเลื่อนไปด้านล่าง จะเจอกับป้ายบอกว่าเราต้องขึ้นเรือที่ช่องไหน (Berth)
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะต้องนั่งรถ Shuttle Bus ไปยังท่าเรือ Sky Pier ท่าเรือนี้อยู่ในพื้นที่ของสนามบินฮ่องกงครับ แต่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าวิ่งจาก Terminal สนามบินไปยัง Sky Pier แล้ว
รถไฟฟ้ารอแป๊ปเดียวก็มา ใช้เวลาวิ่งไป Sky Pier ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
ตอนนี้เราก็มาถึง Sky Pier แล้วเป็นท่าเรือของสนามบินฮ่องกง ไปยังมาเก๊า
คนค่อนข้างน้อยครับ แสดงว่าการเดินทางจากสนามบินฮ่องกงไปยังมาเก๊า เซินเจิ้น ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม หรือไม่ก็ค่าใช้จ่ายแพงเกินไป
ที่ Sky Pier มีร้านกาแฟ Starbuck, 7-eleven, ร้าน mannings (ขายของคล้าย Watson บ้านเรา) ผมเข้าไปสำรวจราคาของใน 7-eleven ของก็ราคาปกติเหมือนกับซื้อข้างนอกสนามบิน เช่นโค้กกระป๋องขายอยู่ที่ราคา 6 HKD
ฝั่งตรงข้าม 7-eleven จะเป็นท่าเรือมองเห็นวิวทะเล น้ำทะเลตรงนี้สีคล้ำๆ เหมือนชายเลน สีแดงที่เห็นเป็นเรือ TurboJet ที่จะพาเราไปมาเก๊า
ที่นั่งรอมีอยู่นิดเดียวนั่งได้ไม่เกิน 20 คน
พนักงานเปิดประตูได้เวลาขึ้นเรือแล้วครับ ลงบันไดเลื่อนไปด้านล่างเดินตามเค้าไป ถึงตรงนี้ปุ๊ปแอบห่วงกระเป๋าเดินทางเราที่โหลดมากับ Air asia จะมาถึงมาเก๊าไหมหนอ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป
เรือ CotaiJet ของคาสิโน Venetian มาจอดใกล้ๆ กับ TurboJet เลยถ่ายรูปมาให้ดูกัน เค้าว่ากันว่าในบรรดาเรือ Ferry ฮ่องกง <–> มาเก๊า ของ CotaiJet ดีที่สุดเป็นเรือใหม่ แต่เราเลือกไม่ได้ครับ รอบเรือบังคับให้นั่ง TurboJet ได้เท่านั้น
พาขึ้นมาบนเรือปุ๊ปเจอพนักงานของ TurboJet เค้าดูตั๋วเรา แล้วก็บอกว่า Any seat คือจะนั่งตรงไหนก็ได้ ที่นั่งมีเยอะแยะ
ที่นั่งชั้นล่างจะเป็นของ Economy class แบ่งเป็นส่วนหน้าเรือ และ หลังเรือ นั่งฝั่งหน้าหรือหลังก็ได้ครับ แต่ที่นั่งด้านหลังมีร้านขายขนม เครื่องดื่ม ส่วนชั้นบนเป็นของ Super class เรือรอบนี้ออกตรงเวลาครับ 12.45 น.
รูปด้านล่างเป็นฝั่งหัวเรือครับ รูปนี้ถ่ายตอนเรือออกแล้ว คนน้อยจริงๆ ครับน่าจะ 10-15% ของเรือเอง
มาดูฝั่งท้ายเรือกันบ้าง ที่นั่งกว้าง นั่งสบายครับ
เมื่อขึ้นเรือแล้วจะต้องไปเอาใบ ตม. มาเก๊า (Immigration card) ตรงที่ขายของฝั่งท้ายเรือเองนะครับ เค้าไม่ได้เดินแจก ได้ใบ ตม. มาแล้วก็กรอกให้เรียบร้อย ใบ ตม. ของมาเก๊าคล้ายๆ กับของฮ่องกง กรอกง่ายมี carbon copy ไปยังแผ่น Departure ด้วย ถ้ากลัวว่าจะกรอกไม่ถูกก็ดูคำแปลได้ที่ตัวอย่างใบ ตม. มาเก๊าได้ที่รูปด้านล่างเลยครับ
กรอกแผ่นบน (Arrival) เสร็จ เปิดแผ่นล่างมากรอกเที่ยวบิน / เรือ ขาออก และเซ็นลายเซ็นด้วย
ถึงมาเก๊าแล้ว
เรือวิ่งนิ่มๆ แต่เร็ว ไม่รู้สึกว่าเมาเรือเลย ประมาณ 1 ชั่วโมงเรือก็มามาถึงท่าเรือที่เกาะมาเก๊า (Macau Ferry Terminal & Helicopter) บรรยากาศก็คล้ายๆ สนามบินครับ
จากนั้นก็ไปต่อแถว ตม. ตรงนี้จะไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ ปกติแล้วตรงนี้เค้าจะไม่ให้ถ่ายรูป พอถึงคิวเรา ตม. มาเก๊า ไม่ได้ถามอะไรเลย เปิด passport ไปๆ มาๆ แล้วก็ประทับตราให้
เสร็จจาก ตม. มาเก๊า ก็มารอรับกระเป๋าก่อนถึงทางออก กระเป๋าจะถูกเข็นใส่รถเข็นมา เราก็ไปหยิบกระเป๋าเรามาได้เลย
พอเห็นกระเป๋าตัวเองก็ต้องตกใจ กุญแจตัวเล็กที่ล๊อคซิปกระเป๋า หายไปแล้ว กระเป๋าสามารถรูปซิปเปิดได้เลย ลองสำรวจกระเป๋าดู ของอยู่ครบ คิดในแง่ดีเค้าอาจจะสงสัยว่าในกระเป๋าเรามีของต้องห้าม เลยต้องเปิดดู
เดินตามฝูงชนมาถึงทางออก สังเกตง่ายๆ ว่าตรงทางออกจะมีไปรษณีย์ (ร้านสีแดงในรูปด้านบน) เปิดประตูออกไปปุ๊ปจะมีพริตตี้สาวๆ แจกคูปองส่วนลดของคาสิโนต่างๆ ส่วนลดร้านอาหารในคาสิโน ถ้าตั้งใจว่าจะไปเที่ยวในคาสิโนก็รับไว้ไม่เสียหลาย เผื่อได้ลดค่าอาหาร
ตั้งแต่เดินทางมาตอนเช้า ก็เพิ่งจะได้สัมผัสอากาศข้างนอก อุณหภูมิที่มาเก๊าอยู่ที่ประมาณ 17-20 องศา อากาศไม่หนาวมาก ถ้าใส่เสื้อ jacket ซักตัวก็อุ่นกำลังสบาย ส่วนท้องฟ้ามีเมฆเยอะ ครึ้ม ไม่มีแดด
นั่งรถเข้าเมือง
การเดินทางจากท่าเรือ หรือสนามบินมาเก๊าเข้าเมือง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการนั่งรถ Shuttle bus ของคาสิโนต่างๆ ไปยังคาสิโนที่อยู่ใกล้โรงแรมเรา หรือต่อรถจากคาสิโนยังลงยังท่ารถใกล้โรงแรมเรา
ถ้าใครลงเรือที่ท่าเรือฝั่งเกาะมาเก๊า Macau Ferry Terminal ออกจากอาคารปุ๊บให้เดินลงบันไดเลื่อนลอดไปยังอีกฝั่งหนึ่งก็จะพบกับรถ Shuttle bus ของคาสิโน และโรงแรมต่างๆ
สำหรับรถของคาสิโนบริการฟรีครับ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เค้าถือว่าเราคือลูกค้าที่จะไปเล่นคาสิโน แต่พอถึงที่แล้วเราจะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ครับ ส่วนรถของโรงแรมจะบริการเฉพาะลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมนั้น เค้าอาจจะขอดูใบจองโรงแรมก่อนที่จะให้เราขึ้นรถ
ฟรี Shuttle bus ของคาสิโนที่มีให้บริการ
– Wynn Macau
– MGM Macau
– Grand Lisboa & Lisbao
– StarWorld Hotel
– Galaxy Macau
– Sands Macau
– Venetian Macau
– City of Dreams
ในบรรดารถของคาสิโนทั้งหลาย ดูแล้วคนนิยมรถของ Venetian มากที่สุด เนื่องจากว่า Venetian เป็นคาสิโนใหญ่ ภายในสวย อลังการ สามารถไปเดินเล่น ถ่ายรูปได้ตามสบาย และที่ Venetian ยังมีฟรี Shuttle bus ไปยังยังจุดต่างๆ อีกหลายจุด สามารถต่อรถไปยังที่อื่นๆ ได้
รถของ Venetian คันสีน้ำเงิน หาง่ายครับ ใครมีกระเป๋าใบใหญ่ก็โหลด ไว้ที่เก็บสัมภาระด้านล่าง ไม่ต้องยกขึ้นข้างบน มีพนักงานช่วยยกให้ครับ บริการดีจริงๆ
ภายในรถกว้างขวาง นั่งสบาย รถวิ่งผ่านรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ตอนนี้เค้าปิดซ่อมแซมครับ แล้วก็วิ่งข้ามสะพานจากเกาะมาเก๊ามาเกาะไทปา
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เป็นรูปปั้นที่โปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊าในโอกาสที่โปรตุเกส คืนมาเก๊าให้กับจีน ที่ใบหน้าของเจ้าแม่กวนอิม จะมีใบหน้าคล้ายชาวตะวันตกยืนประดิษฐานอยู่บนแท่นดอกบัว
รถใช้เวลาวิ่งจากท่าเรือมาเก๊ามายัง Venetian ประมาณ 20 นาที รถจอดที่ฝั่ง West lobby
เอากระเป๋าลงแล้วเดินเข้าไปกันเลยครับ
เที่ยว Venetian Casino (เวเนเชี่ยน คาสิโน)
เมื่อเปิดประตูเข้าไปทาง West lobby จะเจอที่ฝากกระเป๋า (Baggage Service) ฝากได้ฟรีครับ ฝากได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ถ้าฝากเกิน 24 ชั่วโมงเค้าจะเอากระเป๋าเราส่งไปยัง Counter Lost and Found (ถ้าต้องการฝากกระเป๋ามากกว่า 1 วัน สามารถฝากได้ที่ Casino Grand Lisboa ที่นี่ให้ฝากได้นานถึง 3 วัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวฮ่องกง, จูไห่ โดยไม่ต้องการเอากระเป๋าใบใหญ่ไป) หลังจากฝากเสร็จเค้าจะให้ใบรับกระเป๋ามา 1 ใบ และให้เราเซ็นยินยอม หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยวได้ตามสบาย เดี๋ยวผมจะพาชมของสวยๆ งามๆ ใน Venetian แต่ไม่ได้ไปเล่นคาสิโนนะครับ เนื่องจากว่าเล่นไม่เป็นและไม่ชอบเล่นการพนันอยู่แล้ว
นักร้องเสียงดีที่ Grand canal shoppes เธอเปิดหน้าต่างยืนร้องเพลงอยู่ด้านบน
ผมเดินชมภายใน Venetian มาเรื่อยๆ จนเจอกับ Grand canal shoppes โซนนี้จะมีร้านขายของ Brand name หลายร้าน และมีการจำลองบรรยากาศให้เหมือนกับคลองเวนิส ของประเทศอิตาลี
ใน Venetian จะมีร้านทาร์ตไข่ ชื่อดัง Lord Stow’s ร้านนี้จะอยู่โซน MacroPolo Canal ใครอยากจะลองชิมทาร์ตไข่ รสชาติต้นตำรับลองไปหาดูนะครับ
ร้าน Victoria ‘s Secret ด้านบนเป็นท้องฟ้าจำลอง ไม่ว่าจะมีกี่โมงฟ้าก็สีสดใสแบบนี้
เรือกอนโดล่า พายเรือพานักท่องเที่ยวชมคลองเวนิสจำลองใน Venetian
ค่าเรือกอนโดล่าใน Venetian
– คนละ 118 MOP (ประมาณ 470 บาท)
– เด็ก 88 MOP
– เหมาลำ 472 MOP
1 รอบใช้เวลา 15-20 นาที
พนักงานพายเรือจะใส่เสื้อขาว-ดำ ลายทางเหมือนกับเวนิส แล้วไม่ได้พายเฉยๆ นะครับ จะมีการ Entertain นักท่องเที่ยวด้วยการร้องเพลงให้ฟัง เล่นกับคนที่เดินอยู่ด้านบน และยิ้มให้กับกล้องที่ถ่ายด้านบน
รูปล่างมีสาวหมวยเกาหลี 2 คนนั่งอยู่บนเรือ โบกมือ ทักทายเราด้วยครับ เสียดายว่ากล้องซูมได้เท่านี้ เลยไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ
เราใช้เวลาเดินอยู่ใน Grand canal shoppes ค่อนข้างนาน เนื่องจากว่าพื้นที่กว้างเหลือเกิน และเดินหาทางออกไม่เจอ ยังกับเดินในเขาวงกต จุดถ่ายรูปใน Venetian นอกจากคลองเวนิสที่ Grand canal แล้วก็ยังมีในส่วนของ Main Lobby ที่ตกแต่งแบบยุโรป มีรูปวาดแบบศิลปะโรมันที่เพดาน
ระหว่างทางไป Main Lobby เจอกับร้าน NaRaYa ร้านกระเป๋าผ้าของไทย เป็นของดีที่ชาวต่างชาติยอมรับ คนไทยก็ใช้กันเยอะครับ
ร้านค้าใน Venetian มีร้านค้าของสโมสรฟุตบอลแมนยูฯ ด้วยครับ
รูปบน. บันไดเลื่อนแบบโค้ง มุมนี้หรูหรา สวยงามมาก
ทางไป Main lobby จะต้องตัดผ่าน Casino ถ้ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 มาด้วยเค้าจะไม่ให้เข้า จะต้องเดินอ้อมไปทางอื่น เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็น Casino แบบเต็มๆ ตาก็คราวนี้ มีเยอะมาก ทั้งเป็นเครื่องสล๊อตแบบหยอดเหรีญ, โต๊ะไพ่, ไฮโล คนเล่นกันเยอะมาก เท่าที่ดูน่าจะเป็นคนจีนซะเยอะที่มาเล่น คนจีนน่าจะประมาณ 2 ใน 3 ของนักพนันทั้งหมด ผู้คนที่มาเล่นก็มีสีหน้าเคร่งเครียดทั้งนั้น บ้างก็สูบบุหรีแก้เครียด ที่คาสิโนจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีนาฬิกาติดไว้ให้เห็น นักพนันก็จะเล่นไปเรื่อยๆ ไม่รู้กลางวัน กลางคืน
ในส่วนของ Casino เค้าจะห้ามถ่ายรูป ถ้าเค้าเจอเราถ่าย จะให้เราลบทิ้ง
มุมสวยที่ชั้นลอย ด้านล่างเป็น Casino
ทางไป Main lobby ครับ สังเกตที่เพดานมีภาพวาดโรมัน บ้างก็ว่าภาพที่วาดทำฮวงจุ้ยที่ไม่ดีกับคนที่มาเล่นพนันไว้ ทำให้เล่นเสีย บางคนก็ว่าคาสิโนแทบทุกแห่งทำฮวงจุ้ยไม่ดีกับคนที่มาเข้าพัก ก็ว่ากันไปตามความเชื่อส่วนบุคคลครับ แต่ถ้าเราไม่เล่นซะอย่าง ยังไงก็ไม่เสีย
ตรงพื้นทางเดินจะปูเป็นหินสีต่างๆ มองดีๆ จะเห็นว่าเหมือนเป็นภาพ 3 มิติ พื้นยกลอยขึ้นมาเป็นชั้นๆ
ถึงแล้วครับ Main lobby คนมาถ่ายรูปมุมนี้เยอะมาก เหลือบดูนาฬิกา ตอนนี้บ่าย 3 ครึ่งแล้ว ค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทางมาก เลยไปเอากระเป๋าที่ West lobby แล้วไปขึ้นรถฟรีที่ฝั่ง West lobby
ออกมาที่ท่ารถ West lobby ด้านนอก มองเห็นคาสิโน Galaxy สูงเด่นอยู่ข้างหน้า ดูข้างนอกออกแนวหรูหรา
ที่ Venetian มี Free shuttle bus หลายสาย เราสามารถนั่งไปยังที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้ได้ฟรี!!
– Macau International Airport : สนามบินมาเก๊า รถออกทุก 15-20 นาที ให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 22.30 น. ขึ้นรถที่ Main Lobby
– Macau Ferry Terminal : ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะมาเก๊า (ให้บริการโดย Turbo Jet, First Ferry) รถออกทุก 5-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 9.00 – 0.00 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
– Taipa Ferry Terminal : ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะไทปา (ให้บริการโดย Cotai Jet) รถออกทุก 5-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 6.35 / 7.25 – 22.35 / 23.05 – 23:55 / 0.05 – 0.35 /2.05 – 2.35 / ขึ้นรถที่ West Lobby
– Lotus Port : รถออกทุก 10-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 9.30 – 19.30 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
– Gongbei Border Gate Tour Coach Station : ด่านกงเป่ย จูไห่ ประเทศจีน รถออกทุก 5-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 9.30 – 23.30 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
– Gongbei Border Gate, Casino & Hotel Shuttle Bus Station : ด่านกงเป่ย จูไห่ ประเทศจีน รถออกทุก 5-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 9.30 – 23.30 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
– Sands Macao Hotel : โรงแรม & คาสิโน Sands ใกล้กับ Fisherman Wharf รถออกทุก 5-15 นาที ให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 0.00 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
– Yuet Tung Pier : ท่าเรือ Yuet Tung สามารถเดินไปเซนาโด้, โบสถ์เซนต์ปอลได้ รถออกทุก 20-30 นาที ให้บริการตั้งแต่ 10.20 – 18.00 น. ขึ้นรถที่ West Lobby
นั่งรถไปโรงแรม Ole London
ที่พักในทริปมาเก๊า ทริปนี้ผมพักที่โรงแรม Ole London โรงแรมยอดนิยม ที่คนไทยนิยมไปพักกัน ใครที่จะไปพักโรงแรม Ole London ก็ดูการเดินทางตามนี้ได้เลยครับ
1. ขึ้นรถฟรีที่ West lobby สาย Yuet Tung Pier มองหาป้ายแล้วต่อแถวขึ้นรถเลยครับ ในช่วงเวลา 10.20 – 18.00 น. รถออกทุก 20 นาที เวลา 18.00 – 21.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใครที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จะมีที่ให้วางกระเป๋าอยู่ข้างคนขับ กระเป๋าผมขนาด 24 นิ้ว ใส่ได้สบาย ไม่ต้องนั่ง Taxi ให้เปลืองตังค์
2. ลักษณะรถจะเป็นรถ mini bus สีน้ำเงินตามรูปด้านล่าง? รถวิ่งประมาณ 20 นาทีก็จะมาจอดที่ท่าเรือ Yuet Tung Pier จุดนี้ใกล้กับโรงแรม Ole London มากเดินไปประมาณ 5 นาที
3. ลงจากรถเสร็จให้ข้ามถนนแล้วเดินมาทางขวา เลี้ยวซ้ายไปทางตู้ไปรษณีย์สีแดงในรูปล่าง
4. ผ่านโรงแรม Best Westurn Hotel Sun Sun (ตรงที่รถสีเหลืองจอดอยู่)
5. เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอกับโรงแรม Ole London โรงแรมทาสีส้มแตกต่างจากตึกอื่น
ตรงข้ามกับโรงแรม Ole London เป็นสวนสาธารณะ มีอากง อาม่า มานั่งเล่น ออกกำลังกาย เป็นที่พบปะสังสรรค์กัน
หน้าโรงแรม Ole London
โรงแรม Ole London
ผมเข้าโรงแรมเจอพนักงานวัยรุ่นตี๋ๆ หน่อยนั่งอยู่หน้า Front เลยเช็คอินกับพนักงานคนนี้ ดูแล้วน่าจะเป็นลูก/หลาน ของเจ้าของโรงแรม หน้าบึ้งมาก ทางโรงแรมมีค่ามัดจำ Key card 300 HKD จะจ่ายเป็นเงินฮ่องกง หรือเงินมาเก๊าก็ได้
ผมได้ห้องพักชั้น 6 ห้อง Standard Double จองผ่าน Agoda ไปราคา 3,273 บาท โรงแรมนี้ใช้ระบบ Key card ในการเปิดประตูเท่านั้นส่วนระบบไฟในห้องไม่ต้องเสียบการ์ด
ขนาดห้องพัก ถือว่าพออยู่ได้ เป็นปกติของที่พักในมาเก๊าที่จะมีขนาดเล็ก เพราะที่เค้ามีน้อยครับ แต่โดยรวมก็สะอาดและตกแต่งสวยดี
Link. เช็คราคาโรงแรม Ole London รับประกันราคาถูกสุด, ข้อมูลโรงแรม Ole London
ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกดังนี้
– ฟรี wifi ผมบอก Password ให้เลยครับไปถึงจะได้ใช้ได้เลย Password : 1234567890
– LCD TV มีช่อง 3 ให้ดูละครไทย / ดูข่าว ด้วยครับ
– น้ำดื่ม 2 ขวด (น้ำแร่)
– ไดร์เป่าผม
– กาต้มน้ำ + ชา
รูปลั๊กไฟในห้องจะเป็นแบบ Universal เราสามารถเสียบปลั๊กไฟของไทยได้เลยไม่ต้องใช้ตัวแปลง และที่ช่องเสียบปลั๊กไฟให้ถึง 5 ช่อง
ในห้องน้ำก็จะมี
– ผ้าเช็ดตัวใหญ่ 2 ผืน, เล็ก 2 ผืน
– สบู่
– แปรงสีฟัน / ยาสีฟัน
– มีดโกนหนวด
– หมวกอาบน้ำ
– หวี
ฝักบัวในห้องน้ำจะมีแบบอันใหญ่ที่อยู่บนหัว แล้วก็แบบอันเล็กอยู่ด้านล่าง เลือกได้ว่าจะใช้อันไหน
หลังจากเก็บของ ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกไปเดินเล่นกันต่อ เดี๋ยวเราจะเดินจากโรงแรมไปยังจัตุรัสเซนาโด้ (Senado square)
ระหว่างทางไป Senado ไม่ค่อยมีคน จนสงสัยว่าคนมาเก๊า เค้าหายไปไหนกันหมด ถนนหนทางถึงได้เงียบแบบนี้
เดินมาจนถึง Senado ใช้เวลาเกือบ 15 นาที คนเยอะมากครับ แสดงว่าคนในเมืองที่หายไป ต้องมารวมกันอยู่แถวนี้แน่เลย
ผมเคยอ่านเจอมาว่าตรงน้ำพุที่ Senado square จุดนี้มีฟรี wifi ให้ใช้ ถ้าใครได้ไปลองเทสให้หน่อยครับ
จัตุรัสเซนาโด้ (Senado square) หรือ ซานหม่าโหลว
เป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า แฟชั่น และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จะอยู่แถวนี้กันค่อนข้างเยอะ ที่พื้นทางเดินของเซนาโด้จะปูเป็นรูปคลื่น เปรียบเสมือนท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์
สำนักแห่งความเมตตา (Holy House of Mercy)
เป็นอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งของมาเก๊า สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค เป็นที่ก่อตั้งคลีนิคการแพทย์แบบตะวันตกแห่งแรกในมาเก๊า ปัจจุบันเป็นหน่วยงานสังคมสงเคราะห์มาเก๊า
เดินตรงมาอีกนิดก็เจอโบสถ์เซนต์ดอมินิก สีเหลืองเด่น ตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียว
โบสถ์เซนต์ดอมินิก (St. Dominic’s Church)
โบสถ์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1587 เป็นโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สร้างโดยบาทหลวงชาวสเปน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป บาร๊อกโคโลเนียล เป็นโบสถ์ที่ยังมีการใช้งานอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมด้านในได้ แต่ต้องสำรวม ไม่ส่งเสียงดัง และห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มเข้าไป ด้านในของโบสถ์ โบสถ์ปิดประมาณ 6 โมงเย็นครับ
ด้านในของโบสถ์
ออกมาจากอาคารโบราณสถานย่านเซนาโด้ เราก็เดินยาวไปประตูโบสถ์เซนต์ปอล
ผ่านร้านขายขนมทาร์ตไข่ ท่าทางร้านนี้จะอร่อยครับ คนมาเข้าคิวซื้อเยอะ
เรามาถึงประตูโบสถ์เซนต์ปอลแล้วครับ สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊า ก่อนถึงประตูโบสถ์จะเจอกับรูปปั้นหญิงสาวชาวมาเก๊ากำลังมอบดอกไม้ให้หนุ่มชาวตะวันตก
ประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St.Paul ‘s)
เดิมทีสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงประตูโบสถ์ แต่เดิมเป็นโบสถ์เซนต์ปอล โบสถ์นี้สร้างขึ้นเมื่อต้นปี คศ. 1700 เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของมาเก๊า โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนสอนศาสนาที่ชาวตะวันตกนำเข้ามาเผยแผ่ในเอเชีย ต่อมาในปี ค.ศ. 1835 โบสถ์เซนต์ปอลถูกไฟไหม้จนเหลือแต่หน้าประตูโบสถ์ จึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ ในปี ค.ศ. 1991 ส่วนซากที่ถูกไฟไหม้ก็มีการเก็บรวบรวมทำเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่หลังประตูโบสถ์
บริเวณหน้าประตูโบสถ์เซนต์ปอล คนเยอะมากครับ ส่วนมากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศจีน มากันเป็นกรุ๊ปทัวร์
ด้านหน้าโบสถ์ชัดๆ ซักรูป
ที่ด้านหลังมีการนำโครงเหล็ก ทำเป็นทางขึ้นไปด้านบน
ถ้ามองลงมาจะเป็นมุมนี้ครับ หลุมที่อยู่ทางขวาเป็นข้าวของเครื่องใช้ ซากโบสถ์ตอนที่ไฟไหม้
ลงมาจากประตูโบสถ์เซนต์ปอลเจอกับสถานที่คล้ายศาลเจ้าจีน ตรงนี้เป็น วัดนาชา (Na Tcha) เป็นวัดเก่าแก่ สร้างในปี ค.ศ 1888 ส่วนกำแพงทางด้านซ้ายเป็นกำแพงเมืองเก่าที่โปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชาติอื่น
ตรงหน้าประตูโบสถ์จะมีร้านขายน้ำปั่น ลูกชึ้นอยู่ เห็นร้านนี้คนมาซื้อเยอะ เลยลองซื้อมาทานบ้าง แก้วแรกเป็นน้ำมะม่วงปั่น ราคาแก้วละ 20 HKD / MOP ดีเป็นเงินไทยก็แก้วละ 80 บาท อร่อยดีครับ ติดใจเลยไปซื้อมาอีกแก้วเป็นน้ำกีวี ราคา 20 HKD / MOP เท่ากัน
นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วก็เดินย้อนไปทาง Senado เส้นทางนี้ 2 ข้างทางมีแต่ร้านขายของฝาก ขายหมูแผ่น มีให้ชิมฟรีด้วยครับ ช่วงเย็นคนเยอะมาก
ขนม ของฝาก แนะนำให้ซื้อคุกกี้อัลมอนด์ หรือบางคนเรียกว่าขนมถั่ว เป็นขนมที่ขึ้นชื่อของมาเก๊า รสชาติคล้ายขนมตุ๊บตั๊บบ้านเรา กล่องนี้ประมาณ 20 HKD
รููปล่าง ร้านขายหมูแผ่น
ร้านนี้คนมุงเยอะ เลยเข้าไปดูซะหน่อยว่าขายอะไร เค้าขายลูกชิ้นลวก ปลาหมึกลวก มีหลายแบบ น่าทานมาก อยากลองแต่คนเยอะเหลือเกิน แถมไม่รู้ใครมาก่อน มาหลัง เลยยอมแพ้
ร้าน NaRaYa ร้านกระเป๋าผ้าของคนไทย ใกล้ประตูโบสถ์เซนต์ปอล
ก่อนที่จะถึงโรงแรม Ole London มีที่ให้แวะอีก 2 ที่ โรงละครดอม เปโดรที่ห้า และ โบสถ์เซนต์ออกัสติน เป็นทางผ่านก่อนถึงโรงแรมครับ
โรงละครดอม เปโดรที่ห้า (Dom Pedro V Theatre)
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1860 เป็นโรงละคระวันตกแห่งแรกของเมืองจีน จุผู้เข้าชมได้ 300 คน ปัจจุบันยังใช้เป็นที่จัดแสดงงานสำคัญและการเฉลิมฉลองต่างๆ อยู่เสมอ
โบสถ์เซนต์ออกัสติน (St.Augustine ‘s Church)
โบสถ์นี้อยู่ตรงข้ามกับโรงละครดอม เปโดรที่ห้า สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1591 โดยคณะนักบุญชาวสเปน โบสถ์นี้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลของเมือง เช่นงานอีสเตอร์ ในอดีตเคยมีฝนตกหนักแล้วบาทหลวงได้นำใบปาล์มไปวางบนหลังคาโบสถ์เพื่อป้องกันอาคาร ถ้ามองเห็นจากระยะไกลใบปาล์มนั้นจะคล้ายกับมังกรที่มีหนวดปลิวไปตามลม ชาวมาเก๊าจึงเรียกโบสถ์นี้อีกชื่อหนึ่งว่า วัดมังกรหนวดยาว หรือ Long Song Miu
ตกเย็นเราตั้งใจว่าจะหาอาหารทานแถวโรงแรม Ole London แปลกใจว่าไม่เจอร้านอาหารเลย ที่พอจะมีก็จะเป็นแบบใส่กล่องกลับบ้าน เดินไปเดินมาจนเจอกับร้านข้าวราดแกง เป็นร้านท้องถิ่น คนมาเก๊ามากินกันเยอะ เลยลองทานดู มื้อนี้จ่ายแบบเบาๆ ที่ราคา 37 HKD / 2 คน ถือว่าไม่แพงครับ สำหรับมาเก๊า ผมเอาแบ๊งค์ 50 HKD จ่ายให้เค้า แล้วเค้าทอนมาเป็นเงินปาตาการ์ของมาเก๊า เลยเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ
ทานข้าวเสร็จก็กลับโรงแรม อาบน้ำ พักผ่อน ตอนแรกว่าจะไปถ่ายรูปแสงสีที่คาสิโน Lisbao & rand Lisbao, Whnn, MGM Grand Macau แต่เห็นแฟนเดินจนเท้าบวม เลยคิดว่าตัดโปรแกรมไปดีกว่า ไว้ครั้งหน้ามาใหม่ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่มามาเก๊าแน่นอนครับ
สุดท้ายเราก็หลับไปตั้งแต่ 4 ทุ่ม
ตื่นเช้ามาเปิดทีวี ดูช่อง 3 ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่ไทยเลย อาบน้ำเสร็จว่าจะลงไปหาอะไรทาน แล้วไปเที่ยววัดอาม่า และ Fisherman Wharf จากนั้นถึงนั่ง Ferry ไปฮ่องกง
ออกมาที่หน้าลิฟท์ชั้นล่าง ได้กลิ่นอาหาร เห็นป้าย Buffet Breakfast ราคาคนละ 28 HKD (ประมาณ 112 บาท) เปิดบริการ 8.30 – 10.00 น. บังเอิญว่าตอนนั้น 8.30 น. พอดี เลยซื้อคูปอง แล้วทานอาหารเช้าที่โรงแรมดีกว่า
ตอนที่ไปมีกลุ่มเรากลุ่มเดียวครับที่ทาน เหมือนคนไม่ค่อยรู้ หรือเค้าไม่ทานอาหารเช้าก็ไม่รู้
อาหารที่มีก็ไส้กรอก, ไข่ดาว, ข้าวผัด, corn flakes, ผักสลัด, ขนมปัง, แอปเปิ้ล, น้ำผลไม้, กาแฟสด โดยรวมก็น่าทานดีครับ อาหารคุณภาพดี ทำใหม่ๆ แม้จะไม่เยอะมากแต่ก็ถูกปากทุกอย่าง
ที่ทานอาหาร
มื้อเช้าที่โรงแรม Ole London
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็ไปเก็บของ check out แล้วฝากกระเป๋าไว้กับสาวหมวยหน้า front ได้มัดจำคืนมา 300 HKD
นั่งรถเมล์ไปวัดอาม่า
ทานข้าวเสร็จ มีแรงเที่ยวต่อ เดี๋ยวเราจะไปวัดอาม่าครับ จริงๆ แล้วก็พอที่จะเดินไปได้ แต่เก็บแรงไว้ดีกว่า เพราะยังต้องเดินอีกเยอะ วันนี้เราจะใช้บริการรถเมล์กันครับ รถเมล์ที่วิ่งอยู่ในเกาะมาเก๊าราคา 3.2 MOP / คน ราคาเท่ากันทุกสาย รถเมล์ทุกคันในมาเก๊าเป็นรถแอร์ แต่ถ้าเราจะเดินทางระหว่างเกาะเช่นเกาะมาเก๊าไปเกาะไทปาค่ารถคนละ 4.2 MOP
จากโรงแรม Ole London ไปป้ายรถเมล์ให้เดินไปทาง Hotel Sun Sun –> ตู้ไปรษณีย์สีแดง แล้วข้ามถนนที่แยกนั้นไปทางซ้าย
การขึ้นรถเมล์ที่มาเก๊าก็ไม่ยากครับ เดินไปที่ป้ายรถเมล์จะมีบอกว่าสายไหนจอดป้ายนี้บ้าง จากนั้นเราก็ดูแผ่นรายละเอียดของสายต่างๆ ว่ามีไปจุดที่เราต้องการไหม จุดสีส้มที่เห็นในรูปด้านล่างเป็นตำแหน่งที่เราอยู่ครับ เราก็ดูตามลูกศรว่ารถวิ่งไปไหนบ้าง
จากนั้นก็เตรียมตังค์ให้พอดี เช่นไป 2 คน ก็ 3.2 x 2 MOP = 6.4 MOP สามารถใช้เงินฮ่องกงได้นะครับ เมื่อรถมาแล้วให้ขึ้นที่ประตูหน้า หยอดค่าโดยสารข้างคนขับ หยอดเกินไม่มีทอนนะครับ ผมไป 2 คนก็หยอด 7 HKD ตลอด ขาดทุนครั้งละ 0.6 HKD ส่วนการลงรถให้ลงที่ประตูหลังเท่านั้น จริงๆ แล้วที่มาเก๊ามีบัตรโดยสารชื่อ Macau pass เหมือน Octopus card ของฮ่องกง คนมาเก๊าจะใช้บัตร Macau pass กัน แต่บัตรนี้ไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยว เพราะเค้าไม่คืนเงินที่เหลือในบัตรให้
รถเมล์ที่วิ่งผ่านวัดอาม่าก็มีสาย 1, 2, 5, 6, 7, 10, 10A, 11, 18, 21A, 26, 28B ผมนั่งสาย 10A ไปครับ
รถจะวิ่งไปเรื่อยๆ และมีไฟวิ่งที่หน้ารถ พร้อมเสียงบอกว่าถึงไหนแล้ว แต่บางทีก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ ถ้าใครโทรศัพท์มือถือที่มี GPS ให้เปิด Goodgle Map เอาก็ได้ครับ เราจะได้รู้ว่ารถวิ่งถึงไหนแล้ว
สาย 10A สุดสายที่วัดอาม่า รถวิ่งมา 5 นาทีเท่านั้นถ้าเดินมาก็อาจจะ 20 นาทีขึ้น
หน้าวัดอาม่าจะเป็นลานโล่งๆ หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสบาร์รา มีตู้ไปรษณีย์สีแดงตั้งอยู่เด่นที่ด้านหน้า ที่บริเวณพื้นจะปูด้วยกระเบื้องโมเสกนำเข้าจากโปรตุเกส
ข้างๆ วัดอาม่าเป็น พิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Maritime musuem) ภายในจัดแสดงวิถีชีวิตชาวมาเก๊าที่อยู่กับทะเล ในอาคารตกแต่งด้วยภาพวาดของศิลปินชาวรัสเซีย ชื่อว่าคอนสแตนติน
วัดอาม่า (A-Ma Temple)
หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีศาลเจ้าและก้อนหินขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ บ่งบอกถึงว่าบริเวณนี้คือจุดแรกที่เจ้าแม่อาม่าก้าวเท้าลงเหยียบแผ่นดินมาเก๊า
วัดอาม่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อมามาเก๊า ทัวร์จะมานักท่องเที่ยวมาลงที่นี่ค่อนข้างเยอะ ส่วนมากเป็นทัวร์จีนมาไหว้พระ หากอยากจะถ่ายรูปประตูหน้าวัดอาม่าโดยที่ไม่ติดคนอาจจะต้องรอนานเป็นชั่วโมง เพราะวัดอาม่ามีคนอยู่ตลอดเวลา
รูปเรือสำเภาโบราณที่ก้อนหิน เชื่อกันว่าเป็นจุดที่อาม่าก้าวขึ้นเหยียบแผ่นดินมาเก๊า
ร้านขายของที่ระลึก, ของทำบุญ, โมบาย
ที่ด้านล่างของต้นไม้ต้นนี้มีโมบายแขวนอยู่เป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นการขอพร หรือติดชื่อแขวนไว้เพื่อเป็นมงคล เห็นมีของคนไทยด้วยครับ
เมื่อเข้าไปด้านในของวัดจะได้กลิ่นธูปแรงมาก ธูปที่วัดอาม่าใหญ่กว่าธูปไทยครับ อย่างในรูปด้านล่างเป็นธูปแบบขด ขดใหญ่ จุดพร้อมกันหลายขด ขดนึงอยู่ได้หลายชั่วโมง แบบนี้ควันจะไม่เยอะได้ไงละครับ
เดี๋ยวเราเดินไปชมด้านบนของวัดอาม่ากัน
วัดอาม่าตั้งอยู่บนเินินเขามีซุ้มหลายซุ้มให้คนไหว้
ตรงนี้วิวดีมองเห็นทะเลครับ
เห็นสวยหมวยยืนถ่ายรูป เลยถ่ายภาพมาฝาก ช่วงนี้คนมาเก๊า กับ คนฮ่องกงชอบใส่รองเท้าบูทกันครับ
ที่จุดธูปลองดูขนาดธูปดีๆ นะครับ ใหญ่กว่าบ้านเราหลายเท่า พอๆ กับด้ามไม้กวาด
ลงจากวัดอาม่าเสร็จเดินไปทางขวาผ่านร้านขายขนม ของฝาก มีคนซื้อเยอะมากครับทัวร์พามาลง
ถ้าเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับค่ายทหารของชาวมัวร์
ค่ายทหารของชาวมัวร์ (Moorish Barracks)
เป็นอาคารสีเหลืองที่มีสถาปัตยกรรมแบบนี่โอคลาสสิคผสมผสาน ค่ายแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1874 เป็นที่พักของทหารเมืองกัว (Goa) ประเทศอินเดียที่ส่งเข้ามาเสริมกำลังให้ตำรวจมาเก๊า ปัจจุบันคือกองบังคับบัญชาของคณะบริหารฝ่ายการเดินเรือมาเก๊า
วันที่ไปประตูปิดเงียบ ไม่มีใครเลย เลยได้แต่ถ่ายรูปรอบๆ ไม่ได้เข้าไปชมด้านใน
ก่อนจะนั่งรถเมล์กลับโรงแรมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของชาวมาเก๊าจอดอยู่เลยถ่ายรูปมาให้ดู ที่มาเก๊าจะมีแต่มอเตอร์ไซค์หน้าตาแบบนี้ คล้ายๆ รถสกูตเตอร์ ป้อมๆ อวบๆ ดูแล้วเหมือนจะขับได้ไม่เร็วมาก
ป้ายรถเมล์ขากลับจะต้องไปขึ้นฝั่งตรงข้ามวัดอาม่า นั่งไปลงที่ท่าเรือ Yuet Tung Pier จุดเดียวกับที่รถ Venetian มาส่งตอนแรก ส่วนสายที่ไปได้ก็มี สาย 1, 2 ค่ารถก็คนละ 3.2 MOP เหมือนเดิม
เดี๋ยวเราจะข้ามถนนไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วไปเที่ยว Fisherman ‘s Wharf เป็นที่สุดท้าย
ที่มาเก๊าทางม้าลายที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก แค่เรายืนอยู่เฉยๆ รถที่นี่ก็พร้อมจะหยุดให้ทันที โดยที่เราไม่ต้องก้าวขาลงไปที่ถนนเลย ดีมากๆ ครับ ไม่ต้องมีไฟเขียวคนข้ามเหมือนประเทศอื่น
คนพร้อม กระเป๋าพร้อม มารอรถเมล์ที่ฝั่งท่าเรือ Yuet Tung Pier รอรถเมล์สาย 3A ไป Fisherman ‘s Wharf ใครที่จะไปท่าเรือมาเก๊าเฟอร์รี่ (Macau Ferry Terminal & Helicopter) ก็นั่งสายนี้ไปได้เช่นกัน กระเป๋าใบใหญ่ก็เอาขึ้นรถเมล์ได้ครับ
รถเมล์ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จอดที่ป้ายรถเมล์ตรงข้าม Fisherman ‘s Wharf ต้องกะเอาดีๆ ครับ หรือจะสังเกตจาก Casino Sand ก็ได้ครับ
มองไปทางขวาเจอกับ ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า อาคารสีเงินทรงแปลกคล้ายกรวยคว่ำ ออกแบบโดย IM Pei สถาปนิกชื่อดัง ลูกครึ่งจีน – อเมริกัน ภายในมีจอภาพความคมชัดสูง 8000 x 8000 pixel ระบบเสียงสามมิติ, ยานอวกาศจำลอง Shenzhou-VII, หุ่นยนต์อัจฉริยะ ฯลฯ
เยื้องๆ กับ Fisherman ‘s Wharf? มี Casino Sands เป็นคาสิโนที่มีอยู่หลายประเทศเช่นที่สิงคโปร์ก็จะเป็น Marina Bay Sands
มาเก๊าฟิชเชอร์แมนวาร์ฟ (Macau Fisherman ‘s Wharf)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของมาเก๊า อยู่ติดกับท่าเรือเฟอร์รี่มาเก๊า เมื่อก่อนนี้พื้นที่ตรง Fisherman ‘s Wharf (MFW) เป็นทะเลมาก่อน แล้วมีการถมที่เพื่อสร้างเป็น Fisherman ‘s Wharf ใน Fisherman ‘s Wharf เป็น Entertainment complex ขนาดใหญ่ของมาเก๊า มีร้านค้า, ร้านอาหาร, โรงแรม, คาสิโน, โรงละคร, ศูนย์ประชุม, Outlet
การเข้าชมใน Fisherman ‘s Wharf สามารถเข้าชมได้ฟรีครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
แผนที่ Macau Fisherman ‘s Wharf
ตอนนี้เรายืนอยู่ที่ด้านขวาของแผนที่ เราจะเดินไปทางซ้าย ชมไปเรื่อยๆ จนหมดแล้วก็จะเดินต่อไปยังท่าเรือมาเก๊าเฟอร์รี่ขึ้นเริอไปฮ่องกงเลย
ท่าเรือ Macau Fisherman ‘s Wharf
ทันทีที่เข้ามาเดินด้านในจะเห็นว่าเค้าสร้างไว้อย่างดีมาก แต่คนกลับไม่ค่อยมาเดินเที่ยว บางโซนเลยดูร้างๆ ไปบ้าง บางร้านก็ปิดตัวไป สิ่งก่อสร้างในนี้จะสร้างออกแนวยุโรป
อาคารสีฟ้านี้เคยเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ปิดไปแล้วครับ
ร้านค้า 5 คูหานี้ก็ปิด เสียดายสถานที่จริงๆ ทำไว้สวย แต่ไม่มีคนมาเดิน
ENZO cafe’ ร้านนี้ยังเปิดให้บริการ ตกแต่งสวย หรู ราคาก็น่าจะแพงด้วย
เดินลอดทางเดินที่มีหลังคาไปก็จะเจอกับ Roman Amphitheatre เป็นโรงละครกลางแจ้ง จำลองรูปแบบสนามกีฬาโคลอสเซียม กรุงโรม
เห็นวิวสวยๆ คนน้อยเลยถือโอกาสถ่ายรูปคู่ซักคู่ โดยวางกล้องไว้บนโต๊ะ ตั้งเวลาถ่ายเอา
ที่นั่งกลางแจ้งภายใน Roman Amphitheatre
ในรูปบนเหมือนทางเข้าไปไหนซักอย่าง ประตูปิดอยู่ครับ เข้าไปไม่ได้
SHOP CONVENION CENTER มองจากภายนอกเข้าไปเห็นข้างในดำทึบๆ ดูไม่น่าเข้าเลย
ทางเข้าอันนี้ดูแปลกทำเป็นรูปหน้าคน ติดที่ประตูว่า New Attraction coming soon คิดว่าคงจะมีอะไรเด็ดๆ ในเร็วๆ นี้ อาจจะเป็นสวนสนุกก็ได้ครับ
ภูเขาไฟสีดำในรูปด้านบนกำลังจะทำเป็นสวนสนุกในร่ม (The underground amusement centre) ภายในมีตู้เกมส์ให้เล่น ดูจากในเวบ Macau Fisherman ‘s wharf บอกว่า เปิด 12.00 – 23.00 น. ในวันจันทร์ – พฤหัสบดี และ เปิด 12.00 – 2.00 น. ในวันศุกร์ – อาทิตย์
รูปบนเป็นอาคารจำลองพระราชวังโปตาลา ธิเบต
พระราชวังจีนจำลอง ประตูด้านหน้าปิด แต่สามารถชอบรอบๆ ได้ ผมหาข้อมูลในหนังสือของการท่องเที่ยวมาเก๊า ตรงนี้น่าจะเป็นท่าเรือแห่งราชวงศ์ (Dynasty Wharf) เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง
บ่อปลาคาร์ฟ รอบวัง
ถ้าเดินไปจนสุดพระราชวังจีนแล้ว ก็จะเห็นท่าเรือเฟอร์รี่มาเก๊า-ฮ่องกง อยู่ไม่ไกล เห็นเรือ TurboJet อยู่ลิบๆ เดี๋ยวเราจะเข้าไปซื้อตั๋ว Ferry ไปฮ่องกงกันครับ
พอเข้าไปในอาคารให้ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเป็นที่จำหน่ายตั๋วเรือ ผู้ให้บริการเรือ Ferry ไปฮ่องกงจะมีอยู่ 2 เจ้า First Ferry และ TurboJet
ในส่วนของ First Ferry จะเป็นเรือที่เก่ากว่า TurboJet เนื่องจากว่าเปิดให้บริการมานานแล้ว และจะวิ่งช้ากว่า TurboJet แต่สถานที่จอดเรือของ First Ferry จะจอดที่ China Ferry Terminal ฝั่ง Kowloon ย่าน Tsim Sha Tsui ราคาตั๋ว 154 HKD
TurboJet จะได้เปรียบที่เรือใหม่กว่า วิ่งเร็วกว่า แต่เรือของ TurboJet จะจอดที่ห้าง? Shun Tak Centre สถานีรถไฟฟ้า MTR Sheung Wan ฝั่งเกาะฮ่องกง ราคาตั๋ว 152 HKD
ราคาตั๋วเรือ Ferry ฮ่องกง <–> มาเก๊า ของผู้ให้บริการ 3 เจ้า เฉพาะ Economy Class ราคา ณ วันที่ 29/10/12
1. TurboJet
– ฮ่องกง –> มาเก๊า วันธรรมดา 151 HKD, วันหยุด 163 HKD, ช่วงกลางคืน 185 HKD
– มาเก๊า –> ฮ่องกง วันธรรมดา 140 HKD, วันหยุด 152 HKD, ช่วงกลางคืน 174 HKD
2. CotaiJet
– ฮ่องกง –> มาเก๊า วันธรรมดา 151 HKD, วันหยุด 163 HKD, ช่วงกลางคืน 185 HKD
– มาเก๊า –> ฮ่องกง วันธรรมดา 141 HKD, วันหยุด 153 HKD, ช่วงกลางคืน 175 HKD
3. First Ferry
– ฮ่องกง –> มาเก๊า วันธรรมดา 151 HKD, วันหยุด 166 HKD, ช่วงกลางคืน 186 HKD
– มาเก๊า –> ฮ่องกง วันธรรมดา 139 HKD, วันหยุด 154 HKD, ช่วงกลางคืน 174 HKD
Counter ขายตั๋วของ First Ferry จะอยู่ช่องซ้าย ส่วน TurboJet จะอยู่ช่องขวา เรือที่นี่ออกทุก 15 นาทีครับ ไม่ต้องรอนาน ซื้อตั๋วปุ๊ปต้องรีบไปขึ้นเรือเลย
ใครที่มีกระเป๋าเดินทางลากขึ้นเรือได้เลยครับไม่เสียค่าโหลด กระเป๋าผมขนาด 24 นิ้วลากขึ้นเรือได้สบาย
พอซื้อตั๋วเรือเสร็จเราจะต้องผ่าน ตม. มาเก๊า ก่อนถึงจะไปขึ้นเรือได้
ที่ Gate ขึ้นเรือเค้าจะแปะหมายเลขที่นั่งให้เรา ใครอยากได้ที่นั่งริมหน้าต่างก็ขอเค้าได้ครับ
เรือ TurboJet จอดเทียบท่า รอเวลาออก
พอขึ้นเรือปุ๊ปให้เอากระเป๋าไปเก็บที่ด้านหลังของฝั่งหัวเรือมีชั้นให้วางอยู่หลายชั้น
ภายในเรือก็เหมือนกับขามา เบาะกว้างนั่งสบาย เรือจะไปจอดปลายทางที่เกาะฮ่องกงซึ่งไกลกว่า สนามบินฮ่องกง <–> ท่าเรือมาเก๊า พอสมควร รอบนี้ผู้โดยสารเกือบเต็มลำครับ
ผมขอตัดตอน เที่ยวมาเก๊า ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ แต่เพียงเท่านี้ครับ เดี๋ยวตอนหน้าพาเที่ยวฮ่องกงต่อ อ่านต่อตอนหน้านะครับ ใครมีคำถามเกี่ยวกับมาเก๊า Comment มาถามได้ที่ช่องด้านล่างเลยครับ
ป.ล. จากการไปเที่ยวมาเก๊าในครั้งนี้ admin ติดใจมาเก๊าเป็นอย่างมาก จึงได้จองตั๋วโปรฯ Air asia ล่วงหน้าไปมาเก๊าในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 แล้ว 🙂
อ่านตอนต่อไป –> เที่ยวฮ่องกง ด้วย Air asia ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
สรุปค่าใช้จ่าย 2 คน 2 วัน 1 คืนที่มาเก๊า (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
– ค่าเรือ Ferry TurboJet สนามบินฮ่องกง –> มาเก๊า 233 x 2 = 466 HKD
– ค่าโรงแรม Ole London 3,274 บาท
– ค่าข้าว 3 มื้อ 160 HKD
– ซื้อของ / ขนม 113 HKD
– ค่ารถเมล์ 21 HKD
– ค่าเรือ Ferry TurboJet มาเก๊า –> สนามบินฮ่องกง? 152 x 2 = 304 HKD
คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนที่ 4 บาท / HKD
รวมทั้งหมด 7,530 บาท หรือเฉลี่ยคนละ 3,765 บาท
Link.
– เช็คราคาโรงแรม Ole London รับประกันราคาถูกสุด, ข้อมูลโรงแรม Ole London, รีวิวโรงแรม Ole London
– 10 โรงแรมในมาเก๊า ที่คนไทยนิยมไปพัก
เที่ยวต่างประเทศไม่ง้อทัวร์
เซินเจิ้น | ฮ่องกง 1 | ฮ่องกง 2 | มาเก๊า |
มาเลเซีย | มะละกา | ชอปปิ้งในมาเลเซีย | Genting (เกนติ้ง) |
สิงคโปร์ 1 | USS & Sentosa | สิงคโปร์ 2 | บาหลี |
Post Views 41025
ที่พักที่นี้จองผ่าน agoda ยากมากกกก T^T (เต็มหมดยันข้ามปีหน้า)
ตอบคุณ Gift
โรงแรมส่วนมากไม่ได้เปิดให้จองได้ข้ามปีครับ เค้าอาจจะเปิดให้จองห้องได้สูงสุด 4 เดือนล่วงหน้า ที่เห็นว่าจองไม่ได้อาจจะไม่ได้เต็มครับ
เราจะต้องเอาสติเกอร์ Barcode กระเป๋าให้ใครอ้ะค่ะ ถ้าเราจะไปมาเก๊า ? สติกเกอร์เราจะเอามาจากไหนอ้ะค่ะ ?
ขอรบกวนสอบถามหน่อยค่ะพอดีจะไปมาเก๊าวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. 2558 นี้ค่ะได้ไฟล์ถึงมาเก๊า 15.25 ่ค่ะ ไปเองเลยและภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเลยค่ะ เลยอยากขอความช่วยเหลือ สอบถามตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะคะ
1.ถ้าเราไปถึงสนามบินมาเก๊าควรไปที่ไหนก่อนค่ะ นั่งรถอะไรไป
2.ถ้าเข้าโรงแรมแล้วควรออกไปเที่ยวที่ไหนดีค่ะเพราะมีเวลาแค่คืนเดียวตอนเช้าก็ต้องรีบออกเดินทางไปฝั่งเกาลูนต่อค่ะ (ช่วยบอกวิธีเดินทางไปท่าเรือให้หน่อยได้ไหมค่ะว่าไปอย่างไงคงออกเช้าเลยเพราะว่าจะต้องไปดิสนีย์แลนด์ต่อค่ะ)
3.ตอนเช้ามืดจะมีรถแท็กซี่ไหมค่ะเพราะจะได้สะดวกมีลูกสาวเดินทางไปด้วยค่ะ
ขอรบกวนถามเกี่ยวกับมาเก๊าแค่นี้ก่อนนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ สงสารคนไม่เก่งภาษาอังกฤษหน่อยนะคะ
ตอบคุณอ้อ
ข้อ 1-2 มีคำตอบในรีวิวครับ
https://www.emagtravel.com/archive/macau-3days-trip.html
https://www.emagtravel.com/archive/macau-trip.html
ข้อ 3. เช้ามืดนี่ประมาณไหนครับ แล้วพักที่ไหนถ้าอยู่ใกล้ Casino คงหา Taxi ไม่ยาก
แนะนำให้อ่านรีวิวเยอะๆ ครับ มาเก๊าเมืองเล็กนิดเดียวเที่ยวง่ายมากๆ
สวัสดีค่ะพอดีจะเดินทางมาเก๊าวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. 2558 บินตรงเชียงใหม่ถึงมาเก๊า 15.25 ่ค่ะ ออกจากสนามบินควรไปทางไหน ไปที่ไหนก่อนดีค่ะ พักที่ Ole london เหมือนกันค่ะ ถึงที่พักแล้วควรจะไปเที่ยวที่ไหนเดินทางอย่างไงค่ะ เพราะมีเวลาแค่คืนเดียวค่ะ ตอนเช้าตรู่ต้องรีบออกจากโรงแรมไปท่าเรือ รบกวนถามว่าตอนเช้ามือมีแท็กซี่ไม่ค่ะ แล้วเดินทางไปที่ท่าเรือไหนเพราะจะไปฮ่องกง พักที่จิมซาจุ่ยค่ะ รบกวนหน่อยนะคะเพราะว่าไม่เคยไปและภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะที่ให้ความกรุณาตอบและให้ความรู้ค่ะ