รีวิวเที่ยวเกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะลาดิง ลากูน
ในหน้าร้อนเราจะมีโปรแกรมไปเที่ยวทะเลใต้กันทุกปี เมื่อต้นเดือนไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะมา ปลายเดือนก็ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเลกระบี่บ้าง ทริปนี้ระยะเวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน พักที่อ่าวนางทั้ง 3 คืน ใช้บริการ One day trip ไปเที่ยวเกาะห้อง 1 วัน, หมู่เกาะพีพี 1 วัน ส่วน 2 วันที่เหลือก็เดินเล่นแถวๆ อ่าวนาง
การเดินทางในทริปนี้ เราใช้บริการสายการบิน Air asia จองล่วงหน้า 7 เดือน ค่าโดยสาร กรุงเทพ – กระบี่ ไปกลับอยู่ที่คนละ 813 บาทเท่านั้น คุ้มค่ากับการรอคอย
วันที่ 1 : เดินทางไปกระบี่ – อ่าวนาง
ขาไปเดินทางด้วยเที่ยวบิน FD3213 เครื่องออกเวลา 7.30 น. ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็มีคนเดินทางเป็นจำนวนมาก การเดินทางด้วยเครื่องบินมีผู้โดยสารมากขึ้น เค้าท์เตอร์เช็คอินสายการบินต่างๆ แถวยาวจนล้นออกมาที่ทางเดิน แถวสแกนสัมภาระก็ยาวไม่แพ้กัน ทบไปมาหลายสิบเมตร ใครที่เดินทางด้วยเที่ยวบินช่วงเช้าให้เพื่อเวลาไว้มากๆ ครับ ถ้าโหลดกระเป๋าด้วย ควรถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมงครึ่ง – สามชั่วโมง
7.00 น. ได้เวลา Boarding Time พนักงานประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เที่ยวบินนี้เป็นบัสเกต ต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่อง
8.50 น. เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 20 นาที เราก็เดินทางมาถึงสนามบินกระบี่ การเดินทางจากสนามบินกระบี่ไปยังตัวเมืองกระบี่, อ่าวนาง วิธีที่ประหยัดที่สุดคือนั่ง Shuttle Bus
ค่าโดยสารรถ Shuttle Bus
- ตัวเมืองกระบี่ 90 บาท
- อ่าวนาง 150 บาท
สถานที่ขายตั๋ว Shuttle Bus จะอยู่หน้าทางออกอาคารผู้โดยสาร ซื้อตั๋วแล้วเดินออกประตูข้างก็จะเห็นรถบัสสีขาวรออยู่ รถจะวิ่งตามเที่ยวบินที่ลง
Airport Shuttle bus
ภายในรถสภาพเก่านึดนึง รถวิ่งไปส่งคนที่ตัวเมืองกระบี่ จากนั้นวิ่งไปที่อ่าวนาง ส่งถึงหน้าโรงแรม กว่าจะถึงอ่าวนางก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย
ที่พักของเราในทริปนี้อยู่ที่อ่าวนางชื่อว่า อ่าวนางบีชรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทติดถนนเลียบอ่าวนาง ข้ามถนนมาก็จะเจอทะเลแบบในรูปด้านล่างเลย เนื่องจากว่าเราไปถึงก่อนเวลา Check in เลยต้องเดินเล่นริมหาด กินข้าว รอเวลา
ห้องพักของอ่าวนางบีชรีสอร์ท ที่เราจองไว้เป็นห้อง Standard ราคาคืนละ 2,080 บาท รวมอาหารเช้าด้วย จองกับ Agoda.com จองไปทั้งหมด 3 คืน ราคานี้กับทำเลอ่าวนางในช่วงไฮซีซั่น ก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง
จัดการเรื่องเช็คอินเสร็จ ก็เข้าห้องพัก ห้องมีขนาดใหญ่มาก น่าจะประมาณ 30 กว่าตารางเมตร มีมุมโซฟา เตียงนอนก็กว้างสุดๆ เพราะจับเตียง 3 ฟุตครึ่งมาชิดกัน กลายเป็นเตียง 7 ฟุตเลย
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็มี LCD TV ตู้เย็น กาต้มน้ำร้อน ตู้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก 2 ผืน ใหญ่ 2 ผืน สบู่ แชมพูให้มาครบ
ระหว่างที่เดินสำรวจภายในห้องรู้สึกว่าพื้นเหนียวมาก คาดว่าใช้น้ำยาผสมถูพื้นเข้มข้นไปหน่อย เหนียวซะจนไม่สบายเท้าเลย
ภายในโรงแรมมีสระว่ายน้ำเล็กๆ บรรยากาศรอบๆ ดูไม่สวยงามเท่าไหร่ ติดร้านอาหาร โรงแรมแถวนั้น
ตกบ่ายเราก็จัดการจอง One day trip เกาะห้อง โดยใช้บริการ Krabi best tour ร้านนี้อยู่ตรงหน้าทางเข้าอ่าวนางบีช รีสอร์ท คนขายทัวร์เป็นผู้หญิงหน้ากลมๆ หน่อย ใส่แว่น ให้ข้อมูลดีมาก แนะนำทัวร์ถูก – แพง ดี – ไม่ดี ต่างกันยังไง โปรแกรมไปไหนบ้าง
ยืนคุยอยู่นาน สรุปว่าจอง One day trip เกาะห้อง ของ อ่าวนาง โฟโต้ ราคาคนละ 1,100 บาท มีข้าวกลางวันแบบข้าวกล่อง เครื่องดื่มบนเรือ ค่าเข้าอุทยานฯ เดินทางด้วยเรือ Speed boat มีรถมารับส่งถึงหน้าโรงแรม
จ่ายเงินเสร็จได้ใบเสร็จเก็บไว้เป็นหลักฐาน
วันที่ 2 : One dat trip เกาะห้อง
ตัดมาอีกทีตอนเช้า จัดเต็มกับอาหารเช้า Buffet ที่โรงแรม อาหารอร่อยคุณภาพดีครับ มีให้ทานหลายอย่าง ส่วนมากจะเน้นไปทางอาหารฝรั่ง
เตรียมตัวก่อนขึ้นเรือ
ของที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ครีมกันแดด เสื้อผ้าเปลี่ยนหลังเล่นน้ำ ถุงกันน้ำ ใส่โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ (ถ้ามีก็ดี) ยาแก้เมาเรือสำหรับคนที่เมาเรือง่าย
ออกเดินทางสู่เกาะห้อง
8.40 น. เรามารอรถรับไปขึ้นเรือ รอไม่นานรถของอ่าวนาง โฟโต้ ก็มา เป็นรถสองแถวตามรูปด้านล่าง รถแวะรับคนไปเรื่อยๆ มาจอดที่หาดนพรัตน์ธารา บริษัททัวร์ส่วนมากจะขึ้นเรือที่หาดหาดนพรัตน์ธารา มีเพียงส่วนน้อย เช่น บาราคูดัสทัวร์ ขึ้นเรือที่อ่าวนาง
9.00 น. พนักงานทำการเช็ครายชื่อ และแจกสติ๊กเกอร์ให้ติดไว้ที่เสื้อ เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกขึ้นเรือ
นักท่องเที่ยวที่ลงเรือลำเดียวกันประกอบด้วยคนไทย 2 คน คือผมเอง ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวจีนซะส่วนมาก และฝรั่งไม่กี่คน ต้องยอมรับครับว่าในตอนนี้นักท่องเที่ยวจีน เป็นนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณเยอะที่สุด และค่อนข้างมีปัญหามากที่สุด
หลังจากรวมพลกันได้ครบแล้วก็เดินไปขึ้นเรือกัน เดินไปประมาณ 5 นาทีได้ บริเวณนี้มีเรือหลายบริษัท
เรือของอ่าวนางโฟโต้ เป็นเรือสปีดโบ๊ทขนาด 45 คน มีเครื่องยนต์ 2 ตัว
นั่งเรือตรงไหนดี
เรือ Speed boat จะแบ่งที่นั่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ส่วนหัวเรือ และ ตั้งแต่ที่นั่งกัปตันเรือถึงท้ายเรือ
1. ส่วนหัวเรือ เป็นที่นั่งที่ไม่มีหลังคาต้องนั่งตากแดดตากลมกันไป เวลามีคลื่นส่วนหัวเรือจะได้รับการกระแทกมากที่สุด โดยส่วนมากแล้วที่นั่งบริเวณนี้ฝรั่งจะชอบ เพราะฝรั่งไม่กลัวแดด ชอบตากแดดให้ผิวสีแทนอยู่แล้ว
2. ตั้งแต่ที่นั่งกัปตันเรือถึงท้ายเรือ ที่นั่งโซนนี้ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือเบาะสูงด้านซ้ายกัปตันเรือ ในเรือ 1 ลำจะมีเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น จะได้เห็นวิวไปตลอดทาง รับลมเต็มที่ ไม่อับลม ไม่ต้องนั่งเบียดกับใคร นอกจากนี่ก็เป็นที่นั่งกลางลำเรือจนถึงท้ายเรือ ที่นั่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดจะเป็นที่นั่งท้ายเรือ เพราะเวลาคนขึ้น-ลง เรือจะเหยียบน้ำ เหยียบทราย ทำให้ที่นั่งเปียก เลอะ
โชคดีที่ว่าไกด์ประจำเรือเห็นเราสองคนเป็นคนไทย (ที่เหลือเป็นต่างชาติ) จึงบอกให้เราไปเลือกนั่งตรงนี้เลย และก็นั่งสบายจริงๆ
บรรยากาศในเรือ มีเสื้อชูชีพวางไว้ทุกที่นั่ง
โปรแกรมทัวร์ หมู่เกาะห้อง
เมื่อลูกทัวร์นั่งประจำที่ในเรือเรียบร้อย ไกด์ก็แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษว่าชื่อ “ปาร์ค” ชื่อเต็มว่า “ปาร์ค จี ซอง” ชื่อเดียวกับนักฟุตบอลเกาหลีเลย ก็เรียกเสียงหัวเราะได้จากลูกทัวร์ ไกด์อธิบายว่าวันนี้เราจะไปไหนบ้าง สถานที่แรกที่จะไปเป็นเกาะผักเบี้ย เกาะลาดิง กินข้าวกลางวัน ล่องเรือในลากูน และจอดเล่นน้ำอ่าวห้องเป็นที่สุดท้าย รวมแล้วใช้เวลาตั้งแต่ 9.30 น. – 13.00 น.
น่าสังเกตว่าโปรแกรมทัวร์ในวันนี้ไม่มีสน๊อกเกิ้ล ที่เกาะแดง อาจเป็นเพราะว่ากระแสน้ำแรง ไม่ปลอดภัยในการลงน้ำ
เรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็มาถึงเกาะผักเบี้ย เป็นสถานที่เที่ยวแรกในโปรแกรมวันนี้
เกาะผักเบี้ย
เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะห้อง มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร พืนที่เกือบทั้งหมดเป็นป่า และหน้าผาหิน รูปทรงของเกาะผักเบี้ยมีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมแบบกลม มีชายหาดทางทิศตะวันตก 2 ฝั่ง เป็นชายหาดที่เกิดจากสันทรายเชื่อมไปยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้เกาะผักเบี้ย
เวลาที่น้ำขึ้นน้ำทะเลจะดูใสอมสีเขียว เหมาะกับการลงเล่นน้ำ แต่พอน้ำลงน้ำจะดูไม่ค่อยใสมองเห็นโขดหินที่อยู่ใต้น้ำ การลงเล่นน้ำต้องระวังเป็นพิเศษไม่ควรเล่นใกล้โขดหินอาจจะเกิดอันตรายได้
ไกด์ให้เวลาที่เกาะผักเบี้ย 30 นาที จะเล่นน้ำ เดินเล่น ถ่ายรูปก็ได้
สันทรายเชื่อมเกาะผักเบี้ย สามารถเดินไปอีกเกาะหนึ่งได้ในช่วงเวลาน้ำลง
อุโมงค์หิน (รูปด้านบน) สัญลักษณ์ของเกาะผักเบี้ย
เกาะผักเบี้ย นักท่องเที่ยวจะแวะมาเที่ยวบนเกาะไม่นาน แล้วก็จะเดินทางไปจุดอื่นต่อ
นักท่องเที่ยวที่มากันหลายคน ต้องการเที่ยวแบบส่วนตัว สามารถเหมาเรือหางยาวมาได้ที่สหกรณ์เรือหางยาว อ่าวนาง
11.00 น. ได้เวลาเดินทางไปยังเกาะลาดิง เราจะแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ จากเกาะผักเบี้ย ใช้เวลาเดินทางมายังเกาะลาดิงเพียง 20 นาทีเท่านั้น
เกาะลาดิง หรือเกาะเหลาล่าดิง (เกาะพาราไดซ์) เป็นเกาะในหมู่เกาะห้อง อยู่ในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี รอบๆ เต็มไปด้วยเกาะอื่นๆ นับสิบเกาะ บนเกาะลาดิงมีหาดที่เล่นน้ำได้หาดเดียวอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ ชายหาดยาวประมาณ 60 เมตร บนเกาะลาดิง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ใหญ่และภูเขาหินปูน ชายหาดเกาะลาดิงเป็นทรายขาว น้ำทะเลสีเขียวใส มีปลาสลิดหินลายเสืออยู่เป็นจำนวนมาก รอบๆ เกาะบรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา
ไกด์ให้เวลาบนเกาะลาดิง 1 ชั่วโมง เราจะทานอาหารกลางวันกันที่นี่
กิจกรรมบนเกาะลาดิง ก็มีเล่นชิงช้า เล่นน้ำ เดินเล่น ถ่ายรูป บนเกาะมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่หลายมุม เปรียบเทียบความสวยแล้วเกาะลาดิงสวยกว่าเกาะผักเบี้ยเยอะเลย
ฝรั่งส่วนมากจะชอบเล่นชิงช้า นอนอาบแดด ส่วนชาวจีนจะชอบเล่นน้ำทะเล คิดว่าประเทศจีนคงไม่มีทะเลสวยๆ แบบบ้านเรา เค้ามาเที่ยวเกาะก็จะลงแต่ทะเล
ที่เกาะลาดิง ไม่ค่อยมีอะไรใต้น้ำให้ชมซักเท่าไหร่ มีแต่ทรายขาวๆ ถ้าอยากจะชมปะการัง ดูปลา ต้องว่ายน้ำออกไปไกลจากหาดหน่อย ซึ่งไม่แนะนำนะครับ เพราะไม่มีแนวทุ่นกันเรือ ปัจจุบันมีเรือเข้าออก เยอะกว่าแต่ก่อนมากทั้งเรือหางยาว และเรือ Speed boat เรืออาจจะไม่ทันได้เห็นเรา
หลังชายหาดเป็นพื้นที่ร่มเงา มีหน้าผาคอยกันแดดให้ หมู่เกาะบริเวณนี้นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งรายได้ให้ชาวกระบี่ ยังเป็นเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่นคุณภาพดี ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
ขณะที่กำลังนั่งเล่นหลบแดดอยู่ ไกด์ปาร์ค ก็ถามว่าหิวข้าวหรือยัง กินข้าวได้เลยนะ ก็ไปรับข้าวกล่องมา 2 กล่อง
ใน 1 กล่องมีกับข้าวดังนี้ครับ ผัดผักรวมมิตร 1 ถุง ต้มข่าไก่ 1 ถุง ไข่ดาว 1 ฟอง ข้าวเปล่า น้ำปลาพริก ด้วยปริมาณก็พอที่จะอิ่มอยู่ ส่วนรสชาติออกไปทางกลางๆ ให้ชาวต่างชาติกินได้ ในส่วนของเครื่องดื่มก็เป็นน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว
ช่วงพักกินข้าวตอนกลางวัน นักท่องเที่ยวก็จะขึ้นจากน้ำไปกินข้าวกัน ถ้าอยากถ่ายรูปแบบไม่เห็นคนเยอะตอนกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด น้ำทะเลใส ทรายขาวเชียว
นั่งให้อาหารย่อย ก็ได้เวลาขึ้นเรือไปอ่าวห้อง หรือ ลากูนกันแล้ว
อ่าวห้อง, ลากูน หรือ ทะเลใน เป็นหนองน้ำเค็มที่เชื่อมต่อกับทะเล มีปากทางเข้าไม่ถึง 10 เมตร อยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะห้อง เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นเหมือนห้องโถงทะเล ล้อมรอบไปด้วยป่า และหน้าผาสูงชัน ภายในอ่าวห้องมีน้ำทะเลใส สีมรกต น้ำค่อนข้างตื้น มองเห็นพื้นด้านล่าง มีต้นไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่ เป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำ และ ชาวประมงเวลาที่คลื่นแรง ไม่สามารถเดินเรือได้
บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยป่า และหน้าผาหินปูน
ต้นไม้ป่าชายเลนกลางลากูน
ในลากูน มีเรือวนเข้ามาตลอด
รูปสวยๆ ที่ถ่ายมาได้ทุกมุม เป็นเพราะว่าเราได้นั่งตรงเบาะฝั่งซ้ายของกัปตันเรือ ถ้านั่งตำแหน่งอื่นคงไม่สามารถถ่ายรูปได้สะดวกแบบนี้
เรือพาวนรอบลากูน ประมาณ 10 นาทีก็ออก ที่หน้าผาหินทางออก ไกด์ปาร์ค ชี้ให้ดูหินที่มีลักษณะคล้ายกับหัวช้าง
จากลากูนเรือแล่นวนเกาะห้องมาจอดที่หาดทางทิศตะวันออกของเกาะ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นก็มาถึงท่าเรือทุ่นลอยน้ำของเกาะห้อง
12.45 น. ลงเรือแบบตัวไม่เปียก เดินผ่านสะพานเข้าฝั่งกัน อย่าลืมนำ ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนลงมาด้วย
เกาะห้อง มีชื่อเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “เกาะเหลาบิเละ” เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะห้อง มีรูปทรงคล้ายนก มีชายหาดยาวประมาณ 500 เมตร เป็นชายหาดที่สวยงาม ทรายขาว น้ำทะเลใส เขียวมรกต บนเกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และหน้าผา ตรงกลางเกาะเป็นลากูน มีพรรณไม้ป่าชายเลนขึ้นที่ลากูน
ไกด์ให้เวลาที่เกาะห้อง 30 นาที ค่อนข้างน้อยไปนิดกับเกาะที่สวยงามที่สุดใน One day trip นี้ ขนาดเดินทางด้วยเรือ Speed boat ยังมีเวลาเท่านี้ ถ้ามากับ One day trip เรือหางยาว คงจะมีเวลาน้อยกว่านี้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาสำรวจชายหาดกันครับ ชายหาดที่เกาะห้องจะแบ่งเป็น 2 ชายหาดที่อยู่ติดกัน มีสันทรายเล็กๆ และภูเขาหินแบ่งแยกสองชายหาด ชายหาดทางทิศใต้ และ ชายหาดทางทิศเหนือ
ชายหาดทางทิศใต้
จุดที่เราลงเรือนั้นเป็นชายหาดทางทิศใต้ เป็นหาดยาว 300 เมตร เรือที่จะเข้าจอดที่เกาะห้องสามารถจอดได้ที่หาดนี้หาดเดียว ดังนั้นหาดทางด้านทิศใต้จึงมีเรือค่อนข้างมากไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ
ชายหาดทางทิศใต้
ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกันสันทราย จุดแบ่งแยกระหว่าง 2 หาด บริเวณนี้มีเรือคายัคให้เช่า เป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของเกาะห้อง
พ้นจากสันทรายไป ก็จะเป็นชายหาดทางด้านทิศเหนือ
ชายหาดทางด้านทิศเหนือ
หาดยาวประมาณ 120 เมตร เป็นหาดสำหรับลงเล่นน้ำเท่านั้น ห้ามเรือเข้ามาในบริเวณนี้ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ น้ำทะเลใส ทรายขาว คลื่นก็น้อยมาก เพราะมีแนวภูเขาคอยกันลม กันคลื่น บริเวณริมหาดมีร่มเงาต้นไม้ เหมาะที่จะปูเสื่อ ปูผ้า นอนชมวิว
ชายหาดทางด้านทิศเหนือ
ใต้น้ำบริเวณนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ดู ต้องว่ายออกไปไกลๆ
ใครที่เคยเห็นรูปฝูงปลาเสือจำนวนมากบริเวณเกาะห้อง ปลาจำนวนมากนั้นว่ายน้ำมากินขนมปังที่นักท่องเที่ยวหรือทัวร์ เอามาโปรย แต่ปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้ประกาศห้ามให้อาหารปลา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับระบบนิเวศน์ เราจึงไม่เห็นฝูงปลาเสือเหมือนสมัยก่อน
ชายหาดสวยกับภูเขาหินปูน เป็นของคู่กันของทะเลกระบี่ ที่ไม่ค่อยมีในจังหวัดอื่น
ด้านหลังชายหาดเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีเครื่องดื่ม ขนม ไอศรีมขาย ราคาก็บวกเพิ่มไปตามความลำบากในการขนของมายังเกาะ ห้องน้ำก็อยู่ในบริเวณนี้ครับ แต่ขอบอกล่วงหน้าให้ทำใจในความสกปรกของห้องน้ำ เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวมากมาย หมายถึงรายได้เข้าอุทยานฯ จำนวนมาก แต่สภาพห้องน้ำ และ ความสะอาดสวนทางกันมาก น้ำที่ใช้ในห้องน้ำจะเป็นน้ำเค็มสูบขึ้นมาจากทะเล ใครที่ต้องการอาบน้ำจืดแนะนำให้เตรียมน้ำขวด 1.5 ลิตรมาเอง น่าจะพออาบได้แบบลวกๆ แค่พอให้สบายตัว
เปลือกหอยมือเสือที่ถูกพัดมาโดยคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2547 เกาะห้องได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีเกาะภูเก็ต เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่เป็นแนวบังคลื่น
ทางเดินศึกษาธรรมชาติเกาะห้อง
ซากเรือที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิ ถูกพัดพามายังเกาะห้อง
14.20 น. ได้เวลาออกจากเกาะห้องแล้ว เรือจะแล่นกลับไปยังหาดนพรัตน์ธารา จุดที่ขึ้นเรือในตอนเช้า
ระหว่างทางเห็นอาคารสวยอยู่บนภูเขา ไกด์ปาร์คบอกว่าเป็นเรือนรับรองที่ประทับแหลมหางนาค สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์รวมทั้งใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะ ตั้งอยู่บนแหลมหางนาคฝั่งกระบี่
15.00 น. มาถึงหาดนพรัตน์ธารา จากนั้นก็ขึ้นรถของทัวร์กลับยังโรงแรม
ขากลับได้นั่งรถบัส ติดแอร์เย็นๆ ส่งถึงหน้าโรงแรม
ในวันรุ่งขึ้นเราซื้อ One day trip ไปเที่ยวต่อที่เกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะไม่ไผ่ อ่านรีวิวตอนต่อไป รีวิวเกาะพีพี One day trip อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ เกาะไม้ไผ่
สรุปโดยรวม
One day trip เกาะห้องเป็นโปรแกรมทัวร์แบบสบายๆ ไปได้ทุกเพศทุกวัย ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ได้เห็นทะเลสวยๆของหมู่เกาะห้อง กิจกรรมของทริปนี้จะเน้นไปทางถ่ายรูปเล่นน้ำริมหาด ไม่เน้นสน๊อกเกิ้ล ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงคนละ 1,100 บาท เดินทางด้วยเรือ speed boat มีรถรับส่งจากที่พัก มีข้าวกล่องอาหารกลางวันก็ถือว่าโอเคอยู่
ส่วนข้อเสียของ One day trip นี้ อยู่ที่ความไม่สะดวกกับห้องน้ำบนเกาะ ห้องน้ำไม่สะอาด และอาหารกลางวันที่เป็นข้าวกล่อง ถ้าเป็น Buffet จะโอเคกว่านี้มาก
Post Views 56001