บินไปเที่ยวหาดใหญ่ นั่งกระเช้าลอยฟ้า ชอปปิ้งตลาดกิมหยง
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการเปิดตัวกระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย ที่สวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ ข้ามระหว่างเขาคอหงส์ภูเขาเล็กๆ 2 ลูก ผมได้อ่านรีวิวคุณ Memories pink ในเวบ pantip อ่านแล้วก็สนใจอยากจะไปนั่งกระเช้าลอยฟ้า และชอปปิ้งตลาดกิมหยง เลยเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาได้
โชคดีที่ผมได้จองโปรฯ Air Asia กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ ไว้แล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนั้นจองไปโดยที่ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง ตั๋วที่จองได้ราคารวมภาษีสนามบินแล้วคนละ 428 บาท (โปรฯ 100 บาท) ไป-กลับ 2 คนก็ 856 บาท ไม่โหลดกระเป๋า, ไม่เลือกที่นั่ง, ไม่ซื้ออาหารทานบนเครื่อง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ลอบวางระเบิดที่โรงแรมลี การ์เด้นส์ พลาซ่า หาดใหญ่ เมื่อปลายเดือนเมษายน 55 ตอนแรกก็สองจิต สองใจอยู่เหมือนกันว่าจะไปดูหรือไม่ ดูข่าวในทีวีก็เห็นนักท่องเที่ยวมาเลเซียยังเยอะเหมือนเดิม คนหาดใหญ่ก็ใช้ชีวิตตามปกติ เลยตัดสินใจไป คิดว่าหาดใหญ่น่าจะกลับสู่สภาวะปกติแล้ว
วันที่ 1 : เดินทางสู่หาดใหญ่
ผมเดินทางในเช้าวันเสาร์ กลับเย็นวันอาทิตย์ ค้างที่หาดใหญ่ 2 คืน เที่ยวบินขาไปเป็นเที่ยวบิน FD 3133 กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ เครื่องออก 10.25 น. เราทำ Web Check in ไปล่วงหน้าแล้วทั้งไปและกลับ ไปถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออก 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็เหลือเฟือมากแล้ว
เมื่อเข้าไปถึงสนามบินสิ่งแรกที่ควรทำก็คือดูเที่ยวบินเราว่าสถานะปกติหรือเปล่า มี Delay หรือ Cancel ไหม
แวะมาถ่ายรูปที่ Counter Air Asia Row E/D แถวสั้นทุกแถว คงเป็นเพราะสายแล้วเที่ยวบินไม่เยอะเหมือนตอนเช้า แล้วก็ช่วงนี้หน้าฝน เป็น Low Season เที่ยวบินลดลง
การเดินทางภายในประเทศของทุกสายการบิน จะมีช่องให้เข้าแถว Row A สังเกตป้าย “ผู้โดยสารภายในประเทศ” ผู้โดยสารจะต้องแสดง Boarding Pass พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระว่าไม่มีอาวุธ หรือของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน
เสร็จจากด่านตรวจสัมภาระ ก็ลงบันไดเลื่อนไปยัง Gate ขึ้นเครื่อง
ช่วงนี้บินกับ Air Asia บ่อย เดาได้เลยว่า Gate ขึ้นเครื่องต้องอยู่สุด Terminal แล้วก็เดาถูกด้วย Gate ขึ้นเครื่องอยู่ที่ Gate B6
เราไม่รีบก็ยืนบนทางเลื่อนเลื่อนให้ไหลไป อารมณ์ขี้เกียจนิดนึง
ถึงแล้ว Gate B6
มองเห็นงวงช้างของ Gate B6 เชื่อมต่อกับเครื่องบิน สบายเลยไม่ต้องนั่งรถ Bus ไปขึ้นเครื่อง
10 โมงกว่าๆ พนักงานก็เรียกขึ้นเครื่อง ฝนตกลงมาพอดี พอคนขึ้นครบหมดแล้วก็สงสัยว่าทำไมเครื่องไม่ออกซักที เลยเวลาไปแล้วด้วย ซักพักใหญ่ๆ กัปตันประกาศมาว่าเนื่องจากฝนตกเลยทำให้การลำเลียงกระเป๋ามีปัญหา ล่าช้า เลยทำให้เครื่องต้อง Delay ออกไป 45 นาที ใครที่มีนัดหมาย หรือจะต้องไปต่อเครื่อง อย่าลืมเผื่อเวลาด้วยนะครับ
เครื่องร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ประมาณ 12.20 น. สนามบินหาดใหญ่ ดูดีกว่าสนามบินอื่นๆ ในภาคใต้เยอะเลย ทั้งกว้างกว่า สะอาด มีร้านค้าเยอะ แอร์เย็น ที่นี่น่าจะเป็น Hub ของภาคใต้เลยก็ว่าได้
ใครมีกระเป๋าก็รับกระเป๋ากันไปครับ เราไม่ได้โหลดกระเป๋าก็เดินไปทางออกได้เลย
ทางออกจะอยู่ข้างๆ ร้านไอศรีม Daily Queen จากสนามบินหาดใหญ่ ถ้าจะนั่งรถเข้าเมือง ไปตลาดกิมหยง ออกจากประตูแล้วเดินตรงไป ผ่านลานจอดรถ จะมองเห็นรถสองแถวสีฟ้าจอดอยู่ เป็นรถที่วิ่งระหว่าง สนามบินหาดใหญ่ – เมืองหาดใหญ่ หรือ ถ้าจะไปเกาะหลีเป๊ะ ก็ขึ้นรถไปลงที่ตลาดเกษตร แล้วนั่งรถตู้ต่อไปยังท่าเรือปากบารา
ที่สนามบินหาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยเยอะมาก มีทหารถือปืนยาวคอยเดินตรวจ มีตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร
รถสีฟ้าวิ่งเข้าเมืองหาดใหญ่
รถใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงตัวเมืองหาดใหญ่ สังเกตง่ายๆ ว่าก่อนถึงตัวเมืองหาดใหญ่รถจะวิ่งข้ามสะพานสูง ข้ามทางรถไฟใต้สะพาน แล้วเลี้ยวซ้าย ถ้าลงรถทันทีก็จะเจอตลาดกิมหยง แต่ถ้าโลเลไม่มั่นใจว่าถึงหรือยังจนรถวิ่งไปอีกแยกไฟแดงก็จะเจอกับหอนาฬิกา (ตรงข้ามกับปีนังพลาซ่า)
เราลงรถตรงนี้ ถามราคาค่าโดยสาร พี่คนขับบอกว่าคนละ 30 บาท ผมเคยอ่านเจอมาไม่นานนี้เองเค้าบอกค่าโดยสารคนละ 20 บาท ตกลงค่าโดยสารเท่าไหร่กันแน่
ลงรถเสร็จก็หาข้าวแถวนั้นกินกัน ร้านข้าวที่หาดใหญ่ราคาไม่แพงครับ ไม่เหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีฝรั่งเยอะ คงเป็นเพราะหาดใหญ่เป็นเมืองค้าขาย เมืองชายแดนไทย – มาเลเซีย
ที่พักในทริปนี้เราพักที่โรงแรมทูน หาดใหญ่ (Tune Hotels Hadyai) โรงแรมยอดนิยม ทำเลดี ใจกลางหาดใหญ่ ใกล้ตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข ใกล้สถานีรถไฟหาดใหญ่ ใกล้ห้างโรบินสัน, เซ็นทรัล ทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่เดินจากโรงแรมไปได้ทุกที่
การเดินทางมาโรงแรม Tune ให้เริ่มต้นที่ตลาดกิมหยง หันหลังให้ป้าย “ตลาดกิมหยง โฆษณาติดต่อ 081-7732195”? (รูปบน) เดินตรงมาทางถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 ตรงมาเรื่อยๆ เป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร
โรงแรม Tune จะอยู่ทางซ้ายมือเป็นตึกใหญ่ทาสีขาว – แดง เห็นเด่นชัดแต่ไกล ก่อนที่จะมาเป็นโรงแรม Tune ตึกนี้เป็นโรงแรมนิวเวิลด์มาก่อน แล้วโรงแรม Tune มาซื้อตึกทำโรงแรมของตัวเองแทน
หน้าโรงแรมจะมีรถรับจ้างตุ๊กตุ๊ก รอลูกค้า ถ้าจะไปเที่ยวไหนในหาดใหญ่ก็ลองถามราคาได้ครับ ราคาไม่แพง คนละ 20-30 บาท
เรามาถึงโรงแรมยังไม่ถึงบ่าย 2 ซึ่งยังไม่ถึงเวลา Check-in เลยต้องนั่งรอเวลาไปก่อน พนักงานคงกลัวว่าเราจะเบื่อเลยให้ Username & Password เล่นเนตที่ Lobby ได้ 30 นาที ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 จะมีคนมา Check-in ค่อนข้างเยอะ ส่วนมากมีแต่ชาวต่างชาติครับ เช่นคนมาเลเซีย สิงคโปร์ ส่วนคนไทยนี่มีน้อยมาก
ก่อนจะถึงเวลา Check in ขอเล่ารายละเอียดของโรงแรม Tune Hotels ให้ฟังก่อนก่อนนะครับ
โรงแรม Tune หาดใหญ่ เป็นโรงแรม เป็นราคาประหยัดในเครือ Air Asia มีนโยบายว่าจ่ายเท่าที่ต้องการใช้ การเข้าพักโรงแรมนี้จะมีหลาย Option ให้เลือก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท / คืน ราคานี้จะไม่สามารถใช้แอร์ได้ เปิดได้แต่พัดลม ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ทีวีดูไม่ได้
แต่ถ้าอยากใช้งานในส่วนอื่นต้องจ่ายเพิ่มไปเป็นอย่างๆ ราคาตามนี้
– Cozy Package สำหรับการใช้เครื่องปรับอากาศ 12 ชม ทีวี 24ชม. อินเตอร์เนทไร้สาย24ชม. และผ้าขนหนูแถมชุดสบู่พร้อมแชมพู ราคา 370 บาท
– เครื่องปรับอากาศ (จำนวน 24 ชั่วโมง) 230 บาท
– บริการเช่าผ้าขนหนูแถมชุดสบู่แชมพูฟรี 120 บาท
– แพกเกจเอนเตอร์เทนเมนท์ (เคเบิ้ลทีวี 24 ชม) 120 บาท
– อินเตอร์เนทไร้สาย (สำหรับการใช้งาน24 ชม.)
– ฯลฯ
ถ้าจะเอา Option ทุกอย่าง เหมือนโรงแรม 3 ดาวทั่วไป ราคารวมภาษีแล้วอยู่ที่คืนละ 957 บาท แต่ถ้าจองกับ Agoda จะอยู่ที่คืนละ 900 บาท ประหยัดไปได้อีก แถมได้แต้มสะสมเป็นส่วนลดไปใช้ครั้งหน้าด้วย
Link. เช็คราคา จองที่พัก Tune หาดใหญ่ รับประกันราคาถูกสุด
จองกับ Agoda จะได้ Option ดังนี้ครับ แอร์ 12 ชม ทีวี 24 ชม. อินเตอร์เนทไร้สาย24 ชม. และผ้าขนหนูแถมชุดสบู่พร้อมแชมพู / วัน
ผมจองกับ Agoda 2 คืนเป็นเงิน 1,800 บาท เอาแต้มสะสมจากการเข้าพักที่ผ่านมาเป็นส่วนลดได้อีก คงเหลือที่ต้องจ่าย 1,014 บาท / 2 คืน ทริปนี้สุดยอดแห่งความประหยัดจริงๆ ครับ ตั้งแต่ตั๋วถูก ไปจนถึงค่าห้องถูก
เอาละครับได้เวลา Check-in แล้ว การ Check-in นั้นก็ง่ายนิดเดีียวแค่ส่ง Hotel Voucher ที่ได้รับจาก Agoda ยื่นให้กับพนักงาน แผ่นนี้แผ่นเดียวเท่านั้นครับ ไม่ขอบัตรประชาชนไปดู ไม่มีมัดจำ ตอนนี้ Tune Hotels มีพนักงานชาวมาเลเซียด้วยนะครับ เหมือนจะเพิ่งมาทำงานใหม่ สงสัยว่ามีชาวมาเลเซียมาพักกันเยอะเลยต้องมีพนักงานชาวมาเลเซียคอยให้บริการ
Check-in เสร็จเราจะได้รหัส wifi มาใช้ 2 ใบ พร้อมกับผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ยาสระผม รีโมท TV และ Key card 1 ใบ
เราได้ ห้องพักที่ชั้น 5 การขึ้นลิฟท์จะต้องเอา Key card ไปแตะที่หน้าลิฟท์ให้ไฟกระพริบก่อน 1 ที ไม่งั้นกดลิฟท์ไม่ได้
ในการเข้าห้องจะต้องใช้ Key card ในการเปิดประตู
เข้ามาในห้องแล้วต้องเสียบการ์ดก่อน ระบบไฟฟ้าถึงจะทำงาน ปุ่มกด Sel ที่ด้านล่างจอไว้ดูว่าแอร์จะเปิดได้อีกกี่ชั่วโมง กี่นาที ทางด้านขวาจะมีปุ่ม เปิด / ปิดแอร์ ปรับลดอุณหภูมิ ในกรณีที่ไม่ได้เปิดแอร์ชั่วโมงแอร์ก็จะอยู่เท่าเดิม ในห้องมีพัดลมเพดานเปิดใช้ได้ ผมอยู่ที่นี่ 3 วัน อากาศไม่ร้อนเลย เปิดพัดลมก็อยู่ได้สบายๆ
ขอย้ำอีกนิดนึงครับถ้าจองกับ Agoda จะใช้แอร์ได้วันละ 12 ชั่วโมง ผมจอง 2 วันใช้แอร์ได้ 24 ชั่วโมง ถ้าวันแรกเปิดตลอด ระวังว่าวันที่ 2 จะมีชั่วโมงเหลือน้อยนะครับ
ห้องพักที่นี่ห้ามสูบบุหรี่ มีป้ายติดไว้ว่าถ้าสูบบุหรี่จะมีผลทำให้ Fire Alarm ทำงานได้
ภายในห้องพัก Tune Hotels หาดใหญ่ ห้องกว้าง ใหม่ มี LCD TV จะใหญ่ติดอยู่ที่ฝาผนัง โต๊ะทำงานเล็กๆ ที่มุมห้อง
เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม สะอาด นอนสบาย
ข้างเตียงมีตู้เซฟไว้เก็บของมีค่า
ถุงสีแดงนี้เป็นชุดอาบน้ำใน 1 ถุงประกอบด้วยผ้าเช็ดตัว 1 ผืน สบู่ 1 ก้อน ส่วนหลอดสีแดงเป็นแชมพูผสมครีมนวด ถ้าพักที่นี่ 2 คืน เช้าวันที่ 2 ให้นำผ้าเช็ดตัวผืนเก่าไปเปลี่ยนใหม่ได้ที่ด้านล่าง ไม่มีพนักงานมาเปลี่ยนให้ที่ห้องนะครับ
ในห้องน้ำก็สะอาด มีแบ่งโซนเปียก โซนแห้ง กั้นด้วยห้องอาบน้ำ มีระบบน้ำร้อน น้ำเย็น
หลังจากเข้าห้อง เก็บของ ล้างหน้าล้างตากันแล้ว ก็ไปเดินเล่น ซื้อของที่ตลาดกิมหยงกัน
จากโรงแรม Tune เดินไปตลาดกิมหยง ให้ออกจากโรงแรมแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปอย่างเดียว
ตลาดกิมหยง เป็นตลาดขนาดใหญ่ในตัวเมืองหาดใหญ่ มีของขายหลายอย่าง เช่นขนม คุกกี้ ชอกโกแลตที่นำเข้าจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย ส่วนของขึ้นชื่อก็มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ อัลมอนด์อบ ถั่วพิสทาชิโอ เกาลัด ส่วนสินค้าอื่นๆ ก็มีขายเหมือนตลาดทั่วไปเช่นเสื้อผ้า กระเป๋า
ชั้นล่างของตลาดกิมหยงจะขายของฝาก ของใช้ทั่วไป ชั้นบนจะขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และรอบๆ ตลาดจะขายผลไม้ เกาลัด ของกิน ถ้าจะหาไก่ทอดหาดใหญ่ทานให้ไปที่ข้างตลาดครับ
ผลไม้ที่ตลาดกิมหยงจะเน้นขายแต่ผลไม้แปลกๆ และค่อนข้างเป็นผลไม้คุณภาพ อย่างในรูปบนเป็นส้มโชกุน เบตง บางคนอาจจะไม่ทราบว่าที่ อ.เบตง จ.ยะลา ก็มีการปลูกส้มด้วย ที่เบตงมีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา อากาศเย็น 20-27 องศา ดินดี ผมได้ลองซื้อส้มเบตง ไปลองทาน 1 กิโลกรัม ราคาโลละ 120 บาท แต่พอได้ทานแล้วก็ติดใจรสชาติอร่อยมาก หวานทุกลูก เปลือกหนา ถึงราคาจะแพงไปนิดก็ก็สมราคา
นอกจากส้มก็มีลิ้นจี่จักรพรรดิ์ สตรอว์เบอร์รี่จากประเทศมาเลเซีย ผมเดาว่าน่าจะปลูกแถวคาเมรอนไฮแลนด์ หรือ เกนติ้งไฮแลนด์
สตรอว์เบอร์รี่ กล่องนี้ราคา 50 บาท ช้ำเยอะไปหน่อย ซื้อกินให้หายอยาก
ร้านขายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนต์ ถั่วพิสทาชิโอ ฯลฯ มีคนแนะนำให้ซื้อร้านแมน อยู่ด้านในตลาดกิมหยงชั้นล่าง มีอยู่ 2 สาขา ถ้าหาไม่เจอก็ลองดูร้านไหนมีคนซื้อเยอะๆ ก็น่าจะใช้ได้ ร้านไหนขายไม่ค่อยออกอาจจะได้ถั่วเหม็นหืน
ในรูป เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 โล 180 บาท, ถั่วพิสทาชิโอ 1/2 โล 140 บาท
ขากลับจากตลาดกิมหยงเราเปลี่ยนเส้นทางกลับมาทางถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 เพื่อมาดูตึกเก่าสีสวย
ตึกเหล่านี้เหมือนจะเป็นตึกเก่า ที่ยังใช้งานอยู่ มีการทาสีใหม่ สถาปัตยกรรมคล้ายๆ ชิโนโปรตุเกส
มาเที่ยวหาดใหญ่ ครั้งนี้เหมือนมาพักผ่อนมากกว่ามาเที่ยว กินๆ นอนๆ เดินห้าง สงสัยเป็นเพราะว่าวันเที่ยวเยอะไป จริงๆ แล้วมาเที่ยวหาดใหญ่ 2 วัน 1 คืนกำลังดีครับ หรือถ้ามีเวลาเยอะ ก็นั่งรถไปเที่ยวสงขลา แต่นี่เราอยู่หาดใหญ่ 3 วันเลย
วันที่ 2 : นั่งกระเช้าลอยฟ้าเขาคอหงส์ หาดใหญ่
วันที่ 1 ผ่านไป วันที่ 2 ผมจะพาไปเที่ยวที่สวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ นั่งกระเช้าลอยฟ้าเขาคอหงส์
การเดินทางมาสวนสาธารณะหาดใหญ่ ให้เดินมาขึ้นรถตรงตลาดกิมหยง ตรงฝั่งหอนาฬิกา ตรงที่เราลงรถสองแถววันแรกที่มาจากสนามบินนั่นแหล่ะครับ
แล้วยืนรถรถสองแถวสีขาว ที่หน้ารถจะเขียนตัวโตๆ ไว้ว่าสวนสาธารณะ แต่ถ้ามาเที่ยวกันซัก 4-5 คนเหมาตุ๊กตุ๊กมาสวนสาธารณะเลยก็ได้ สะดวกดีราคาก็ไม่แพง
รถจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ ค่ารถคนละ 10 บาทเท่านั้น เห็นสองแถวที่วิ่งในหาดใหญ่มีหลายสาย ค่ารถก็ไม่แพงอยากให้เชียงใหม่จัดระเบียบให้เป็นอย่างนี้บ้าง
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่
รูปปั้นหุ่นยนต์
สถานีกระเช้าจะอยู่บนเขาต้องนั่งรถคันสีขาวคันนี้ขึ้นไปครับ เดินขึ้นไม่ได้ไกลเกิน ค่ารถไป-กลับคนละ 50 บาท ซื้อบัตรได้ที่ห้องสีชมพู ข้างหลังบัตรในรูปด้านล่าง
ข้างๆ ที่ขายตั๋วรถ จะเป็น Hatyai Icedome ภายในเป็นเมืองน้ำแข็ง มีสถานที่สำคัญหลายแห่งทำด้วยน้ำแข็งแกะสลัก ประดับไฟสวยงาม อุณหภูมิด้านในติดลบสิบกว่าองศา แต่มีเสื้อกันหนาวให้ใส่ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท
ขาขึ้นไปสถานีกระเช้ามีนักท่องเที่ยว 2 คน + ของผมอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน รถเค้าออกเลยไม่ต้องรอคนเต็มรถ
ระหว่างทางมีต้นไม้เยอะคล้ายๆ ป่า ร่มรื่นมาก เห็นมีคนขี่จักยานขึ้นมาด้วย
พอมาถึงด้านบน รถจะจอดที่สถานีกระเช้า พี่คนขับบอกว่ารถจะจอดตรงนี้ ถ้ารอนานให้โทรเรียกรถมารับได้เลย
ยอดเขาคอหงส์ฝั่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลมหาราช เป็นพระพทุธรูปประจำเมืองหาดใหญ่
วิวด้านบนมองเห็นตัวเมืองหาดใหญ่ได้ชัดเจน ในรูปด้านล่างเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนกิม มีบันไดให้เดินลงไปด้านล่าง หรือจะเดินลงไปตามถนนก็ได้
ผมแปลกใจว่าทำไมคนมาเที่ยวน้อยจัง ขนาดว่าเป็นวันเสาร์ หรือว่าคนยังไม่ค่อยรู้จัก นักท่องเที่ยวที่มานั่งกระเช้า เขาคอหงส์เป็นคนมาเลเซียค่อนข้างเยอะครับ
นั่งกระเช้าลอยฟ้าซื้อตั๋วตรงนี้เลยครับ ราคาคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 50 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 200 บาท ราคานี้ทั้งไปและกลับนะครับ
ซื้อตั๋วแล้วขึ้นกระเช้ากันดีกว่า
เส้นทางของกระเช้าจะเป็นเส้นทางตรงๆ ข้ามเขาเล็กๆ 2 ลูก ระยะทางน่าจะประมาณ 100 เมตรนิดๆ ตัวกระเช้าเป็นกระเช้าเล็กๆ นั่งได้ครั้งละ 7-8 คน มีกระเช้าอยู่ 2 กระเช้า อยู่บนลวดสลิงคนละเส้น อาจจะดูน้อยไปนิด แต่ก็เพียงพอกับความต้องการแล้วครับ
กระเช้าเลื่อนช้าๆ วิวสวยใช้ได้ ไม่สูงมาก ประมาณ 5 นาทีเราก็มาอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้วครับ ฝั่งนี้เหมือนจะเน้นให้มาไหว้พระ ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ดูเลย
ไหว้พระ
ในรูปล่างเป็นที่จุดประทัด มีการจุดอยู่ตลอดเวลา เสียงดังมาก
ช้างสามเศียร
เราอยู่ได้แป๊ปเดียวก็นั่งกระเช้ากลับเลย เสียงประทัดดังมาก
ขากลับได้นั่งแบบ private กัน 2 คน ไม่มีใครนั่งไปด้วย
เห็นหาดใหญ่มีกระเช้าลอยฟ้าแล้วอยากให้มีกระเช้าไปสร้างที่อื่นด้วย น่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และการเดินทางด้วยกระเช้าก็ไม่ต้องตัดต้นไม้เยอะเหมือนทำถนน
แวะมาดูมุมสวยๆ ที่ร้านกาแฟ
วิวจากเขาคอหงส์
ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์นครหาดใหญ่ อยู่ข้างๆ สถานีกระเช้า ค่าเข้าคนละ 20 บาท
หลังจากชมวิวจนเต็มอิ่มแล้ว เราก็ลงมาที่ด้านล่างตรงสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ สวนสาธารณะแห่งนี้กว้าง และบรรยากาศดีมาก มีทะเลสาบ ต้นไม้ขึ้นเต็มพื้นที่ ดูเป็นธรรมชาติมาก
มีเรือให้เช่าถีบเล่นด้วย
ขากลับเรานั่งรถสองแถวสีขาวขึ้นที่หน้าสวนสาธารณะไปลงตลาดกิมหยง แวะไปเดินเล่นที่ห้างเซ็ลทรัล หาดใหญ่
ห้างเซ็นทรัลหาดใหญ่ อยู่ติดกับโรงแรมลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ที่เคยเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเมื่อ 30 เมษายน 55 ปัจจุบันโรงแรมอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ การรักษาความปลอดภัยพื้นที่นี้ค่อนข้างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราตลอด และก่อนเข้าห้างมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสัมภาระ และตรวจสอบรถยนต์ที่จะเข้าห้างอย่างละเอียด
วันที่ไปมีงาน “จุดไต้สว่างนำทางสังคม” มีนักศึกษามาร่วมเปิดงานเยอะมาก
วันที่ 3 : กลับบ้าน
ในวันสุดท้าย เราเดินห้าง อยู่แต่ในเมือง รอเวลาใกล้เครื่องออก เมื่อถึงเวลาก็นั่งรถสองแถวสีฟ้าฝั่งตรงข้ามหอนาฬิกา (ฝั่งตลาดกิมหยง) ไปสนามบินหาดใหญ่ ค่ารถคนละ 20 บาท ถูกว่าขามา 10 บาท
ตอนแรกกะว่าจะถ่ายรูปในสนามบินมารีวิวให้ดูว่ามีอะไรบ้าง แต่ในสนามบินมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเยอะมาก เลยไม่อยากเสี่ยงต่อการถูกซักถามจากเจ้าหน้าที่ว่าถ่ายรูปไปทำไม เลยต้องนั่งรอเวลาขึ้นเครื่องอย่างเงียบๆ ไป
ขากลับเรานั่งเที่ยวบิน FD3140 เครื่องออกตรงเวลา 19.25 น. และก็ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ขอจบทริปหาดใหญ่แต่เพียงเท่านี้ครับ 🙂
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวหาดใหญ่ 3 วัน 2 คืน ของ 2 คน
– ตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ – หาดใหญ่ 2 คน 856 บาท (โปรฯ ขาละ 100 บาท)
– ค่าโรงแรม Tune 2 คืน 1,014 บาท (นำแต้มสะสมไปลดราคาห้อง ปกติคินละ 900 บาท)
– ค่ากิน 2,000 บาท
– ค่ารถ 500 บาท
– ของฝาก 800 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 5170 บาท หรือเฉลี่ยคนละ 2,585 บาท
Link
– เช็คราคา จองที่พัก Tune หาดใหญ่ รับประกันราคาถูกสุด
– รีวิวโรงแรมทูน หาดใหญ่ (Tune Hotels Hatyai)
Post Views 41111