รีวิว SIM2Fly ซิมโรมมิ่งราคาประหยัด ใช้งานจริงที่ญี่ปุ่น
ใหม่ล่าสุด 2017 รีวิว SIM2Fly ใช้งานจริงที่โตเกียว
อินเตอร์เนตเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่ต้องมีใช้เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ จะดูแผนที่ Google map หาข้อมูลท่องเที่ยว หรือ ติดต่อคนทางบ้านก็ต้องใช้อินเตอร์เนต วิธีที่ประหยัดและสะดวกที่สุดในการใช้งานอินเตอร์เนต ก็คือการซื้อซิมของประเทศนั้น หรือ ซื้อซิมโรมมิ่งจากในไทย แล้วไปใช้งานที่ประเทศนั้น
ในรีวิวนี้จะเป็นการซิมโรมมิ่งจากในไทย ไปใช้งานที่ญี่ปุ่น โดยใช้ซิมของ AIS แพคเกจ SIM2Fly
SIM2Fly คืออะไร?
เป็นซิมโรมมิ่งที่ซื้อได้จากในไทย และนำไปใช้งานได้ที่ต่างประเทศ สามารถใช้งานได้ทั้ง 3G, โทรออก-รับสาย, SMS โดยซิมจะมีอายุการใช้งาน เมื่อครบกำหนดแล้ว ก็จะกลายเป็นซิมเติมเงินธรรมดา
SIM2Fly ใช้กับประเทศอะไรได้บ้าง?
ปัจจุบันมี 3 แบบ 1. ยุโรป + USA 2. เอเชีย 3. ประเทศอื่นๆ กว่า 50 ประเทศ
ซิมแต่ละแบบจะมีราคาและรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ถ้าอธิบายหมดจะยาวไป จะขอรีวิวเฉพาะซิมชนิดเอเชีย นำไปใช้งานที่ญี่ปุ่น
รายละเอียด SIM2Fly เอเชีย
- ใช้งานได้ 11 ประเทศในเอเชีย (ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงค์โปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, ลาว, อินเดีย, ไต้หวัน, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา)
- ราคา : 399 บาท (ค่าซิม 50 + แพคเกจ 349 บาท)
- ใช้อินเตอร์เนตความเร็ว 3G ได้สูงสุด 3GB โดยหลังจากการใช้งานครบ 3GB จะยังใช้งานได้ต่อจนครบ 8 วัน แต่ความเร็วจะเหลือที่ 128 Kbps (ถ้าไม่ดู Youtube + VDO ก็เพียงพอต่อการใช้งานใน 8 วัน)
- โทรกลับไทย ราคาเริ่มต้นที่ 6 บาท
- รับสาย ราคาเริ่มต้นที่ 6 บาท
- ส่ง SMS 6-9 บาท
- รับ SMS ฟรี
ซื้อ SIM2Fly ได้ที่ไหน?
จากข้อมูลในหน้าเวบบอกว่าซื้อได้ที่ AIS Online store และ AIS Shop ทุกสาขา รวมถึงในสนามบินดอนเมือง – สุวรรณภูมิด้วย แต่จากการที่ไปหาซื้อในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าไม่สามารถซื้อได้ตามร้าน AIS Shop ที่เป็นของ Partner อย่างในเชียงใหม่มี AIS Shop แท้ๆ อยู่แค่ 2 สาขา ที่ห้างเมญ่า กับ เซนทรัลเฟสติวัลเท่านั้น
ส่วนช่องทาง AIS Online store ก็ยังเป็นช่องทางที่ไม่สะดวก เพราะได้ซิมมาแล้วก็ต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์ฯ AIS อีก เหลือช่องทางสุดท้ายที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ น่าจะเป็นช่องทางที่สะดวก แต่ต้องเผื่อเวลาซักหน่อย
เกริ่นข้อมูลเบื้องต้นมาเยอะแล้วตัดเข้ามาในรีวิวเลยดีกว่า ในรีวิวนี้เราซื้อ SIM2Fly ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ร้านจะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศชั้น 2 ระหว่างประตู 6 กับ 7 สาขานี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มาเวลาไหนก็ซื้อได้เลย
สาขานี้มีช่องให้บริการอยู่ 3 ช่อง แต่ช่วงที่ไปให้บริการ 2 ช่อง คนข้างเยอะ สิ่งที่ต้องใช้ในการซื้อซิมมี 2 อย่าง คือ เงิน กับ บัตรประชาชน
ซิมราคา 399 บาท แต่จ่ายไป 400 บาท ฟังไม่ชัดว่าซื้อที่นี่ราคา 400 บาท หรือ ไม่มีเงินทอน จ่ายเงินไปแล้วเจ้าหน้าที่จะนำซิมมาใส่กับมือถือให้ และย้ำว่าให้เราตั้งค่าเปิดโรมมิ่ง กับ 3G ก็ใช้งานได้เลย มือถือที่เราใช้กับ SIM2Fly เป็น iPhone4S เป็นเครื่องที่ไม่ได้ใช้งาน เลยตั้งใจว่าจะทำเป็น Hotspot wifi ใช้งานกับโทรศัพท์ 2 เครื่อง
เมื่อถึงที่สนามบิน Fukuoka เราตั้งค่าตามที่พนักงานแจ้งมา พบว่าการค้นหาสัญญาณช้ามากๆ ใช้เวลา 5-10 นาที ถึงจะจับสัญญาณได้ เมื่อเทียบกับการใช้งานที่ไทย ใช้เวลาเพียง 11 วินาทีก็จับสัญญาณได้แล้ว
เมื่อจับสัญญาณ Softbank ได้แล้วก็จะมี SMS เข้ามาแจ้งรายละเอียด
เครือข่ายในญี่ปุ่นจะใช้ของ Softbank
จากการใช้งาน เปิดเวบทั่วไปพบว่าความเร็วอยู่ในระดับใช้งานได้ แต่ไม่ถึงกับเร็ว ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากมือถือ iPhone 4S ไม่รองรับระบบ 4G LTE ด้วย ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มสปีท
ลอง Speed test ดูได้ Download 8.56 Mbps และ Upload 0.66 Mbps ก็ไม่ขี้เหร่นะ
การใช้งานกับเวบ www.hyperdia.com เหมือนจะมีปัญหาในบ้างครั้ง บางครั้งโหลดไม่เสร็จ ต้อง refresh เวบใหม่ บางวันโหลดขึ้นแต่ Title เวบ แต่ตัวเวบไม่มาด้วย เราทดสอบสลับกับ wifi แต่ wifi สามารถเข้า www.hyperdia.com ได้ แสดงว่าเวบไม่ได้มีปัญหา
จากข้อมูล SIM2Fly ของสมาชิกใน Pantip หลายคนก็บอกว่าใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหา และ Call center ของ AIS ได้บอกว่าแก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้ว แสดงว่าที่ผ่านมาก็มีปัญหาการใช้งานจริง แต่ไม่ได้มีปัญหากับทุกคน
กระทู้อ้างอิง pantip.com/topic/35889347
จากการใช้งานจริง
ที่เมือง Fukuoka, Yufuin, Beppu, Nagasaki และเมืองข้างเคียงที่รถไฟแล่นผ่าน มีสัญญาณทุกเมือง ใน Subway ก็ใช้ได้ แต่เมื่อรถไฟแล่นเข้าอุโมงค์ลอดภูเขาสัญญาณจะหาย และกว่าจะมาใหม่ใช้เวลานาน
การใช้งานโดยใช้มือถือเครื่องหนึ่งทำตัวเป็น Hotspot เป็นวิธีที่แชร์ไปยังเครื่องอื่นได้อย่างประหยัด แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เครื่อง Hotspot จะกินแบตมาก และถ้าใช้งานไม่ต่อเนื่อง สักพักสัญญาณ Hotspot จะหลุด น่าจะเป็นโหมดประหยัดพลังงานของโทรศัพท์ ต้องปิด-เปิด Hotspot และ wifi ใหม่ ถึงจะใช้ได้
ใช้ซิมเสร็จแล้วควรทำยังไง?
ถ้าต้องการใช้งานเป็นซิมเติมเงินในไทย ก็เติมเงินแล้วใช้งานได้ปกติ การเติมเงินขั้นต่ำครั้งละ 20 บาท ต่ออายุซิมได้ 30 วัน เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศก็สามารถนำซิมเดิมมาเติมแพคเกจโรมมิ่ง ประหยัดกว่าซื้อซิมใหม่
สรุปโดยรวม
SIM2Fly เป็นซิมโรมมิ่งที่ตั้งค่าการใช้งานค่อนข้างง่าย ค่าโทรกลับไทยก็ไม่แพง เช่นโทรจากญี่ปุ่นกลับไทย ราคานาทีละ 6 บาท และด้วยการที่เป็นซิมเติมเงิน จึงสามารถคุมงบค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าซิมแบบรายเดือนแล้วเปิดโรมมิ่ง
เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งาน pocket wifi ข้อดีของ SIM2Fly ก็ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องนัดรับ – ส่งคืน pocket wifi ไม่ต้องพก pocket wifi, ถ้าในกลุ่มที่ไปด้วยกันมี SIM2Fly ทุกคน ถึงแม้จะแยกกันก็ยังติดต่อกันได้ และที่สำคัญ SIM2Fly ราคาถูกกว่ามาก ค่าบริการ pocket wifi จะอยู่ที่ 100-200 บาท / วัน ถ้าใช้งาน 8 วัน = 800 – 1,600 บาท เมื่อเทียบกับ SIM2Fly เพียง 400 บาท
ส่วนข้อเสียที่พบก็มีเรื่องการจับสัญญาณที่ค่อนข้างช้า ใช้ Softbank ได้เจ้าเดียว (อัพเดท 2019 ใช้ได้ทั้ง Docomo และ Softbank) และสัญญาณหลุดเมื่อรถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ แต่ก็ถือว่าเป็นข้อเสียที่พอรับได้ เมื่อเทียบกับราคา
Post Views 31780