ตัวอย่างโปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่น 5-6 วัน โตเกียว ภูเขาไฟฟูจิ นิกโก้

ญี่ปุ่น / โตเกียว / ตัวอย่างโปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่น 5-6 วัน 

การไปเที่ยวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมไปเที่ยวด้วยตัวเอง มากกว่าไปทัวร์ เนื่องจากว่ามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า กำหนดระยะเวลาได้ตามต้องการ ออกแบบโปรแกรมเที่ยวได้เอง ประเทศญี่ปุ่นเที่ยวง่าย และข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่นก็มีเยอะมาก แต่มีสิ่งเดียวที่นักท่องเที่ยวมือใหม่อาจเริ่มต้นไม่ถูกคือจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ควรไปอะไรก่อนหลัง เราเลยทำโปรแกรมตัวอย่าง ให้ดูเป็นไอเดีย เป็น โปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่น 5-6 วัน สำหรับผู้ที่เน้นเที่ยวในโตเกียว และ เมืองรอบๆ

ตัวอย่างโปรแกรมนี้ใช้สถานี Asakusa เป็นจุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุดในแต่ละวัน ผู้ที่พักในย่านอื่นอาจมีค่าเดินทางแตกต่างไปจากนี้

ที่พักแนะนำย่าน Asakusa The Gate Hotel Asakusa Kaminarimon by Hulic ใกล้สถานี Asakusa ห่างจากทางเข้าสถานี (Exit 2) 170 เมตร ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆเป็น วัดเซ็นโซจิ ราคาเริ่มต้น 2,xxx บาท

ดูที่พักอาซาคุซะ โรงแรมอื่นๆ

โปรแกรม 1  โตเกียว – ภูเขาไฟฟูจิคาวากูจิโกะ – นิกโก้โซนมรดกโลก

วันที่ 1 : เที่ยวในโตเกียว

เที่ยวในโตเกียว

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
พาสแนะนำ : Tokyo Subway Ticket แบบ 72 ชั่วโมง ใช้งานวันที่ 1-3

Tokyo Subway Ticket

สั่งซื้อ Tokyo Subway Ticket กับ KLOOK 

 1,500
8:00 – 10:00 Asakusa Station

เที่ยววัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) วัดดังในโตเกียว หน้าทางเข้าวัดเป็นถนนนากามิเซะ (Nakamise) มีร้านของฝาก ของกิน และของที่ระลึกมากมาย มารยาทในการทานจะต้องยืนทานหน้าร้าน ห้ามเดินไปทานไป

ด้านข้างวัดมีร้านขายขนมเมลอนปัง Melon pan & Soft ice cream  ชื่อดัง จุดสังเกตคือแถวเข้าคิวยาว

เดินข้ามถนนไปสวนสาธารณะซุมิดา (สวนซากุระ บานช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเมษายน) มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ชมวิวริมแม่น้ำ ตึกอาซาฮี และโตเกียว สกายทรี ข้างสวนสาธารณะเป็นท่าเรือ Water bus ไปเกาะโอไดบะ เรือท่องเที่ยวหน้าตาสุดล้ำ คล้ายยานอวกาศ

 –
Asakusa Station – Ueno Station 170 เยน  –
10:00 – 13:00 Ueno Station

ช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเมษายน จะมีซากุระบานที่สวน Ueno แต่ถ้ามาช่วงอื่นจะเข้าชมสวน หรือ ไม่เข้าก็ได้

เข้าห้าง UENO 3153 ตรงระเบีบงชั้น 3 มีจุดถ่ายรูปตลาด Ameyoko จากมุมสูง ระจังหวะรถไฟมาจะได้ภาพสวย

ช๊อปปิ้ง ตลาด Ameyoko ของที่ขายก็มีของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ร้านรองเท้าชื่อดังในย่านนี้เป็นร้าน ABC Mart

ช๊อปปิ้งร้าน Yodobashi หน้าตลาด Ameyoko ซื้อเกิน 10,000 เยน ทำ Tax refund ได้ด้วย

มื้อเที่ยงทานข้าวที่ Ichiran ramen หรือร้านราเมงข้อสอบ ราเมงชื่อดังของญี่ปุ่น ร้านอยู่ในสถานี JR Ueno ทางออก Yamashita Exit (แนะนำให้ทานก่อนเที่ยง หรือหลังบ่ายจะรอคิวไม่นาน)

Ueno Station – Akihabara Station 140 เยน  –
13:00 – 14:00 Akihabara Station

เป็นแหล่งศูนย์รวมการ์ตูน อะนิเมชั่น ร้านเมด คาเฟ่ (Maid Cafe) ความบันเทิง และ เครื่องใช้ไฟฟ้า – อิเล็กทรอนิกส์ในโตเกียว วัยรุ่นญี่ปุ่นชอบมาเดินเล่นที่นี่

ร้านค้าแนะนำในย่านนี้ได้แก่

  • Don Quijote (ดองกี้) ร้านขายของถูกในญี่ปุ่น
  • Maid Cafes (เมดคาเฟ่)
  • Sex Shop ร้านของเล่นผู้ใหญ่ 18+
Akihabara Station – Tokyo Station 140 เยน  –
14:00 – 16:00 Tokyo Station

ชมสถานีรถไฟโตเกียว JR Tokyo ออกทาง South Exit จะเห็นตัวสถานีเป็นอาคารอิฐ สไตล์ยุโรปค้ลายกับสถานีรถไฟอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เดินต่อไปยังสะพานนิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) หรือสะพานแว่นตา สะพานนี้เชื่อมต่อกับพระราชวังอิมพีเรียล

Nijubashi

สาเหตุที่เรียกว่าสะพานแว่นตา เนื่องจากภาพเงาสะพานในน้ำรวมกับสะพานมีลักษณะเป็นวงกลม 2 วง คล้ายกับแว่นตา (ถ้าอยากเห็นเงาแว่นตาต้องมาตอนเช้าเท่านั้น ช่วงบ่ายจะย้อนแสง)

Tokyo Station – Asakusa Station 310 เยน  –
 รวมค่าเดินทาง  1,500

วันที่ 2 : เที่ยวในโตเกียว (ควรเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์)

เที่ยวในโตเกียว

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
พาสแนะนำ : Tokyo Subway Ticket ที่ซื้อในวันที่ 1
Asakusa Station – Harajuku Station 400 เยน  –
8:00 – 11.00 Harajuku Station

นั่งรถไฟไป JR Harajuku สถานีนี้เคยมีอาคารสถานีทรงโบราณ แต่ปัจจุบันได้ถูกรื้อทิ้งแล้ว จากนั้นเดินต่อไปยังศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมจัดงานแต่งงาน ทางเข้าไปยังศาลเจ้าล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว เป็นเหมือนป่ากลางกรุงในโตเกียว

ศาลเจ้าเมจิ

เมื่อถึงศาลเจ้าเมจิ ให้ล้างมือ บ้วนปาก ก่อนเข้าไปยังด้านใน ศาลเจ้าเมจิสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1915 เพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) และ พระราชินีโชเคง (Empress Shōken)

ชมศาลเจ้าเสร็จแล้วเดินย้อนกลับไปทางเดิม ตรงหน้าสถานี JR Harajuku ฝั่งตรงข้ามจะเป็นถนนสายแฟชั่น Takeshita Dori มีร้าน Daiso หรือร้าน 100 เยน ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สินค้าน่าซื้อ และราคาถูกกว่าในไทย นอกจากนี้ก็มีเสื้อผ้า กิ๊ฟช๊อป ร้านอาหาร Fast food อยู่สองข้างทาง

ข้ามมาเดินฝั่งถนน Omote-sando ถนนเส้นนี้มีห้างและร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังหลายร้าน เช่น Louis Vuitton, Dior, TAG Heuer, Kiddy Land และมีร้าน Kiddyland ร้านขายของเล่น ตุ๊กตา ของที่ระลึก

Harajuku Station – Shibuya Station 140 เยน  –
11:00 – 12:00 Shibuya Station

สิ่งที่น่าสนใจในชิบูย่ามีอยู่ 3 อย่าง 1. ดูคนข้ามถนนที่แยกชิบูย่า 2. อนุสาวรีย์ฮาจิโกะ หมาผู้ซื่อสัตย์ 3. ดูเสื้อผ้าแฟชั่น

นั่งรถไฟไป JR Shibuya ออกที่ทางออก Hachiko Gate เดินไปไม่ไกลจะเจอกับอนุสาวรีย์ฮาจิโกะ จากจุดนี้มองเห็นคนข้ามถนนที่แยกชิบูย่า

Shibuya Station – Shinjuku Station 160 เยน  –
13:00 – 18:00  Shinjuku Station

ชินจุกุย่านช๊อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเม้นต์ที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว คนไทยนิยมซื้อรองเท้า NB, Onitsuka ที่นี่

ช่วงเย็นๆ ชมวิวฟรีที่ตึก Tokyo Metropolitan Government Building เห็นวิวโตเกียวได้ชัด วันไหนอากาศดีๆ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

Shinjuku Station – Asakusa Station 350 เยน  –
 รวมค่าเดินทาง  0

วันที่ 3 : เที่ยวในโตเกียว

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
พาสแนะนำ : Tokyo Subway Ticket ที่ซื้อในวันที่ 1 + Suica
Asakusa Station – Ginza Station 350 เยน  –
10:00 – 11:00 Ginza Station หรือ Higashi-ginza Station

กินซ่าย่านช๊อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม บรรยากาศคล้ายเมืองในยุโรป มีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ที่มาเปิดร้านอยู่ในย่านนี้ เช่น Giorgio Armani, Chanel, Carolina Herrera, Dior, Gucci และ Louis Vuitton

สถานที่สำคัญ

  • โรงละครคาบุคิซะ Kabukiza Theater
  • ตึก Ginza Wako เป็นอาคารแบบยุโรป มีหอนาฬิกาที่ยอดตึก
  • ร้าน SanrioWorld ที่ห้าง NishiGinza
Ginza Station – Shimbasi Station – Odaiba Kaihinkoen* 490 เยน

* Tokyo Subway Ticket ไม่ครอบคลุมในพื้นที่ Odaiba

 320
12:00-18:00 Odaiba หนีความวุ่นวายในโตเกียวไปยังเกาะโอไดบะ ที่นี่มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ห้างสวยๆ และสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น

  • หุ่นกันดั้ม หน้าห้าง Diver City Tokyo Plaza
  • พิพิธภัณฑ์รถ History Garage พิพิธภัณฑ์รถคลาสสิคในช่วงปี ค.ศ. 1950 – 1970
  • วิวริมทะเล
  • เทพีเสรีภาพจำลอง ส่วนของจริงนั้นอยู่ที่นิวยอร์ค ประเทศอเมริกา
Odaiba Kaihinkoen – Shimbasi Station – Asakusa Station 540 เยน  320
 รวมค่าเดินทาง 640

วันที่ 4 : ภูเขาไฟฟูจิ คาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) เช้าไป – เย็นกลับจากโตเกียว

Kawaguchiko

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
 7:15 – 9:00

วันนี้ใช้เวลาเต็มวันเพื่อดื่มด่ำกับภูเขาไฟฟูจิ โปรแกรมวันนี้อาจจะสลับกับวันอื่นได้ตามความสภาพอากาศ โดยแนะนำให้ดูพยากรณ์อากาศที่ Kawaguchiko ล่วงหน้าก่อนไป 1 วัน และตอนเช้าก่อนเดินทาง ถ้าอากาศดีก็ไปเลย มีโอกาสเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดๆ แต่ถ้าอากาศช่วงเดือนที่ไปไม่ค่อยดีอาจจะปรับแผนพักที่ Kawaguchiko ซัก 1 คืนก็ได้ ที่พัก Kawaguchiko ราคาไม่แพง

จากโตเกียว สามารถไป Kawaguchiko ได้ 2 ทาง ได้แก่ทางรถบัส และ ทางรถไฟ ถ้ามี JR Pass, Tokyo wide pass ก็ไปรถไฟ ถ้าไม่มีสองพาสนี้ก็นั่งรถบัสจาก Shinjuku ราคา 2,200 เยน (ราคาจองล่วงหน้า) เวบจอง

 2,200
9:00 – 15:00 เมื่อถึงสถานี Kawaguchiko มีจุดถ่ายรูปใกล้สถานีอยู่ 2 จุด

  1. ตู้รถไฟเก่าสีน้ำตาล มีฉากหลังเป็นฟูจิ
  2. Lawson ข้างสถานี Kawaguchiko มีฉากหลังเป็นฟูจิ แผนที่

ให้ซื้อ Sightseeing Bus 2 Days Ticket ที่ Tourist Information ข้างสถานี Kawaguchiko ราคา 1,500 เยน (ถึงจะใช้วันเดียวก็ตาม) จากนั้นนั่งรถบัสชมรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ มีป้ายหยุดรถที่น่าสนใจดังนี้

  • ป้ายหมายเลข 7 Kawaguchiko Herb Kan ที่จัดแสดงสมุนไพร
  • ป้ายหมายเลข 10 Yuransen Ropeway Iriguchi มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม
  • ป้ายหมายเลข 15 Kawaguchiko Bijutsukan
  • ป้ายหมายเลข 17-18 Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo Konohana Bijutsu-kan – Kubota Itchiku Bujutsu-kan มีทางเดินเลียบทะเลสาบมีต้นซากุระอยู่ริมทางเดิน มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ในหน้าซากุระจะมีซากุระบานสะพรั่ง และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงสดเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน นอกจากนั้นจะมีร้านขายของของชาวบ้านแถวนั้น ขายของกิน ผัก ผลไม้ ส้ม กล้วย แอปเปิ้ลในราคาไม่แพง
  • ป้ายหมายเลข 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะมี Natural Living Center ร้านขายของที่ระลึก ของฝาก มีที่นั่งทานกาแฟ softcream จุดนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

Tip. เวลาลงเที่ยวในแต่ละจุดให้ดูตารางเวลาที่รถจะมาในรอบถัดไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลารอรถ กว่ารถ Retro Bus จะมาครั้งนึงก็ 30-40 นาที

กิจกรรมใน Kawaguchiko นอกจากชมฟูจิรอบทะเลสาบแล้ว ยังมีสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) เป็นสวนสนุกที่เห็นวิวฟูจิได้ชัด การไปสวนสนุกให้ลงที่สถานี Fuji-Q Highland อยู่ก่อนถึงสถานี  Kawaguchiko

สั่งซื้อตั๋ว Fuji-Q Highland กับ KLOOK

1,200
15:10 – 16:50 นั่งรถบัสที่สถานี Kawaguchiko กลับ Shinjuku  2,200
 รวมค่าเดินทาง  5,600

วันที่ 5 : นิกโก้ (Nikko)

Nikko

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
7:10 – 9:20 เที่ยวเมืองมรดกโลก Nikko แบบเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียว วันนี้ต้องตื่นแต่เช้าหน่อย เพราะต้องเดินทางกันไกล

สำหรับคนที่ไม่มี JR Pass, Tokyo wide pass ให้ซื้อ NIKKO PASS world heritage area ที่สถานี Tobu – Asakusa พาสนี้ครอบคลุมการเดินทางไปกลับระหว่าง Asakusa – Nikko และยังรวมถึงรถบัสในโซนมรดกโลก (World Heritage bus)

สั่งซื้อ NIKKO PASS world heritage area กับ KLOOK

2,120
9:20 – 15:36 เมื่อถึงสถานี Tobu-Nikko นั่งรถบัสของ Tobu เที่ยวในโซนมรดกโลก (ไม่ต้องเสียค่ารถบัสอีกแล้ว เพราะรวมอยู่ใน NIKKO PASS world heritage area มีป้ายหยุดรถที่น่าสนใจดังนี้

  • ป้ายหมายเลข 83 : Omotesando (ศาลเจ้าโทโชกุ, วัดรินโนจิ, สวนโซโยเอ็น)
  • ป้ายหมายเลข 85 : Taiyuin futarasan jinja mae (วัดไทยูอิน และ ศาลเจ้าฟุตาระซัง)
  • ป้ายหมายเลข 7 : Shinkyo (สะพานแดงชินเคียว)
15:36 – 18:05 นั่งรถไฟที่สถานี Tobu-Nikko กลับโตเกียว (Asakusa)
 รวมค่าเดินทาง  2,120

วันที่ 6 : คามาคุระ (Kamakura) และ โยโกฮามา (Yokohama)

Kamakura - Yokohama

เวลา สถานที่ ค่าเดินทาง (เยน)
พาสแนะนำ : Suica

suica

วันเดียวเที่ยวสองเมือง ช่วงเช้าเที่ยวคามาคุระ (Kamakura) ช่วงบ่ายเที่ยวโยโกฮามา (Yokohama)
7:12 – 8:17 Asakusa Station – Kita Kamakura Station  1,020
8:17 – 10:30 ลงรถไฟที่สถานี JR Kita – Kamakura เดินเข้าวัด Engakuji, วัด Kenchoji, ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu
JR Kamakura Station – Hase Station  190
11:00 Daibutsu

ชมพระใหญ่ไดบุตซึ (Great Buddha) พระพุทธรูปที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น และปิดท้ายด้วยวัด Hasedera ถ้าไปช่วงปลายมีนาคม – ต้นเมษายน จะมีดอกซากุระบานในวัดให้ชม

Hase Station – JR Kamakura Station – JR Sakuragicho  580
13:00 – 16:00

เดินทางไปยังสถานี JR Sakuragicho (โยโกฮามา) ชมวิวอ่าวโยโกฮามา ชิงช้าสวรรค์ ตึกแดง (Redbrick ware house) ท่าเรือ Osanbashi Pier สวนสาธารณะ Yamashita park

JR Sakuragicho – JR Ishikawacho  140
16:00 – 17:00

นั่งรถไฟไปลงสถานี JR Ishikawacho ย่านนี้เป็นย่านคนจีน (Chinatown) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ของที่ขายในย่านนี้ส่วนมากเป็นของกิน เช่นซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยว

17:04 – 17:57 เดินทางกลับโตเกียว

JR Ishikawacho Sta. – JR Yokohama Sta. – Shimbashi Sta. – Asakusa Sta.

770
 รวมค่าเดินทาง  2,700

Post Views 3463

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

23 thoughts on “ตัวอย่างโปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่น 5-6 วัน โตเกียว ภูเขาไฟฟูจิ นิกโก้

  • September 26, 2016 at 3:32 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ บิน 12-18 พย.ค่ะ มีคนแก่ อายุ 65 จำนวน 3 คน และ เรากะเพื่อน 3 คน รวมทั้ง คณะ จำนวน 6 คน
    1. สอบถาม12 พย. เราบินมาลง นาริตะ เวลา 19.00 น. ค่ะ ต้องมาพักที่ชินจุกุ แต่ว่า รร Keiunso ไม่ว่าง และ ว่าจะพักที่ SunRoute ชินจุกุ ถ้าซื้อตั๋วแบบ 3 วัน โดยระบุใช้วันที่ 16-18 ได้ไหมคะ
    2. ถ้าวันที่ 13-14-15 ไป kawaguchiko – nikko – hagone ควรเรียงลำดับยังไงดีค่ะ ค้างคืนไหนที่ไหนดีค่ะ จำนวน 2 คืน เพราะ ว่าจอง โรงแรมที่ kawaguchiko คืนที่ 14 แต่ เปลี่ยนได้ค่ะ
    3. 16-17 เที่ยวในเมือง โตเกียวค่ะ กลับมาพักชินจุกุ 15-18 พ.ย.
    4. 18 พ.ย. บินกลับ แอร์เอเชีย เวลา 9.00 น.
    5. ที่ฮาโกเน่ กะที่คาวา ควรเลือกไป ที่ใดที่หนึ่งไหมคะ ตอนนี้ กระเช้าเห็นว่าขึ้นได้แล้ว คามาคุระ (Kamakura) และ โยโกฮามา (Yokohama) อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ ควรตัดโปรแกรมอันไหนออกบ้างคะ ทัวร์คนแก่ ต้องเผื่อเวลาด้วยค่ะ ขาไม่ค่อยแข็งแรง
    ขอบคุณมากๆค่ะ

  • September 26, 2016 at 4:05 pm
    Permalink

    ตอบคุณ aommy

    1. สอบถาม12 พย. เราบินมาลง นาริตะ เวลา 19.00 น. ค่ะ ต้องมาพักที่ชินจุกุ แต่ว่า รร Keiunso ไม่ว่าง และ ว่าจะพักที่ SunRoute ชินจุกุ ถ้าซื้อตั๋วแบบ 3 วัน โดยระบุใช้วันที่ 16-18 ได้ไหมคะ

    ได้ครับผม

    2. ถ้าวันที่ 13-14-15 ไป kawaguchiko – nikko – hagone ควรเรียงลำดับยังไงดีค่ะ ค้างคืนไหนที่ไหนดีค่ะ จำนวน 2 คืน เพราะ ว่าจอง โรงแรมที่ kawaguchiko คืนที่ 14 แต่ เปลี่ยนได้ค่ะ

    13 Hakone, 14 Kawaguchiko, 15 Nikko เที่ยวตามนี้แล้วก็พักตามนี้เลยครับ
    Nikko – Kawaguchiko เป็นช่วงใบไม้แดงพอดี สวยเป็นพิเศษครับ

    5. ที่ฮาโกเน่ กะที่คาวา ควรเลือกไป ที่ใดที่หนึ่งไหมคะ ตอนนี้ กระเช้าเห็นว่าขึ้นได้แล้ว คามาคุระ (Kamakura) และ โยโกฮามา (Yokohama) อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ ควรตัดโปรแกรมอันไหนออกบ้างคะ ทัวร์คนแก่ ต้องเผื่อเวลาด้วยค่ะ ขาไม่ค่อยแข็งแรง

    ก็แล้วแต่ความชอบนะครับว่าอยากไปเที่ยวไหน ลองดูที่เที่ยวในโตเกียว และรอบๆ โตเกียวนะครับ เผื่อสนใจที่อื่น https://www.emagtravel.com/archive/tokyo.html

  • November 7, 2016 at 12:56 am
    Permalink

    วางโปรแกรมเที่ยวโตเกียว ตามด้านล่างนี้ค่ะ พักที่ Ueno และ Nikko 1 คืน
    Day 1 เที่ยวใน Tokyo
    เที่ยวในเมืองโตเกียว – วัดอาซากุสะ – ชินจุกุ – อาซาฮี – Ueno
    Day 2 Tokyo – Nikko
    เที่ยวชมวิวใบไม้แดง ค้างคืนที่ Nikko 1 คืน
    Day 3 Nikko – Tokyo
    แหล่งชมมรดกโลก กลับไปนอนโตเกียว
    Day 4 Tokyo – Kawaguchiko – Tokyo (ไปเช้าเย็นกลับ)
    Day 5 Tokyo – Kamakura – Yokohama – Tokyo (ไปเช้าเย็นกลับ)
    Day 6 เที่ยวในโตเกียว และเตรียมเดินทางกลับ
    1.ควรใช้ Pass อะไรในการเดินทาง หรือเลือกโดยสารแบบไหนดี
    ระหว่าง 1. jr pass วันที่ไป nikko กับ ฟูจิ
    2. ไป Nikko ใช้ Pass 2 days, Fuji นั่งบัสไป (จะมีช่วงรถติดหรือไม่ ในวัน พฤ)
    2. Pass Keisei Skyliner ใช้แบบ Round trip + 24 ชม สำหรับเที่ยววันแรก ควรซื้อหรือไม่คะ
    ขอบคุณล่วงหน้าคร่า

  • November 7, 2016 at 7:14 am
    Permalink

    ตอบคุณ Amp

    1.ควรใช้ Pass อะไรในการเดินทาง หรือเลือกโดยสารแบบไหนดี
    ระหว่าง 1. jr pass วันที่ไป nikko กับ ฟูจิ

    2 day nikko pass ครับ

    2. ไป Nikko ใช้ Pass 2 days, Fuji นั่งบัสไป (จะมีช่วงรถติดหรือไม่ ในวัน พฤ)

    วันธรรมดารถไม่น่าจะติดครับ

    3. Pass Keisei Skyliner ใช้แบบ Round trip + 24 ชม สำหรับเที่ยววันแรก ควรซื้อหรือไม่คะ

    ถามแบบนี้ก็ตอบยากนะครับ การเข้าโตเกียวจากสนามบินก็มีหลายแบบ จ่ายแพงนั่งสบาย จ่ายถูกก็นั่งนานหน่อย แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นผมคนนั่ง Keisei Limited Exp. ประหยัดกว่าเยอะ

  • February 28, 2017 at 4:29 pm
    Permalink

    วางโปรแกรมเที่ยว ประมาณนี้ ต้องซื้อ Pass แบบไหนครับ
    Day 1 : Airport (Narita) => Tokyo เทียวใน Tokyo นอน Tokyo
    Day 2 : เทียวใน Tokyo นอน Tokyo
    Day 3 : Tokyo => Kawaguchiko นอน ใกล้ๆ Fuji
    Day 4 : Kawaguchiko => Osaka
    Day 5 – 7 : เที่ยวแถวๆ Osaka
    Day 8 : Osaka => Tokyo นอน Ikebukure
    Day 9 – 10 : เทียวใน Tokyo นอน Ikebukure
    Day 10 : Tokyo => Airport (Narita)
    Plan ซื้อ Tokyo Subway Ticket แบบ 72 ชั่วโมง ใช้งานวันที่ 1-3
    แล้วซื้อ JR pass สำหรับ ใช่ที่ Osaka
    แล้วกลับมาซื้อเป็น Day pass อีก 2 วัน เพียงพอมั้ยครับ หรือต้องซื้อแบบไหนดีครับ

  • February 28, 2017 at 4:43 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Jirat

    เดินทางด้วยรถไฟ Tokyo – Osaka – Tokyo ต้องมี JR Pass ถูกต้องแล้วครับ ส่วนวันอื่นๆ ลองคำนวณดูนะครับถ้าคุ้มก็ซื้อ Tokyo Subway Ticket

    Day 4 : Kawaguchiko => Osaka

    ได้ลองศึกษาการเดินทางหรือยังครับว่าไปยังไง

  • March 16, 2017 at 2:17 pm
    Permalink

    เดินทาง19-22เมษา
    วันแรกจากสนามบินนาริตะ จะไปโยโกฮาม่า แล้วไปพักคาวากูจิโกะ (จองพร้อมอาหารเย็น)ต้องต่อรถบัสหรือรถไฟสายไหนอย่างไรบ้างขอแบบละเอียดเลยนะคะ
    วันที่ 2ออกจากคาวกูจิโกะ จะไปดูหิมะที่กาลายูซาว่าค่ะ ขอการต่อรถแบบละเอียดเช่นกันค่ะ( ไม่มีความรู้จริงๆ) ถ้ามีที่แนะนำแวะเที่ยวก่อนเข้ากาลายูซาว่าก็ดีค่ะ จองพักที่กาลา พร้อมอาหารเย็นไว้ค่ะ
    วันที่ 3 กลับแล้วค่ะ เครื่องออก17.30 ขอเส้นทางเดินรถจากกาลา กลับมา สนามบิน และที่แวะ ช้อปปิ้งซื้อของก่อนกลับด้วยค่ะ ขอแบบละเอียดจริงๆค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ เข้าไปดูตั๋ว jr tokyo pass แล้วจองไม่ถูกเลยค่ะ

  • April 10, 2017 at 8:35 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ เที่ยววันที่ 3 – 8 พ.ย. วางโปรแกรมเที่ยว ประมาณนี้ค่ะ
    Day 1 (Friday) : Airport (Narita) เครื่องลง 8 โมงเช้า => Tokyo ฝากกระเป๋าที่โรงแรม => เที่ยว Kamakura + Yokohama => นอน Tokyo
    Day 2 (Saturday) : เช้า เที่ยว Nikko (เที่ยวน้ำตก Keon + ทะเลสาบ Chusenji ) => ช่วงบ่ายๆ กลับมาเที่ยวใน Tokyo (วัด Sensoji, ไปแหล่ง shopping อาจจะเป็น Shibuya หรือไม่ก็ตลาด Ameyoko) => นอน Tokyo
    Day 3 (Sunday) : Tokyo => Kawaguchiko เที่ยวเจดีย์แดง + รอบทะเลสาบ Kawaguchiko ทั้งวัน => นั่ง Night bus รอบ 20:50 น.ไป Kyoto
    Day 4 (Monday) : ถึง Kyoto ตอน 6 โมงเช้า เที่ยวใน Kyoto ทั้งวัน => ค่ำๆนั่งรถไฟไปนอน Osaka
    Day 5 (Tuesday) : เที่ยว USJ ทั้งวัน => นอน Osaka
    Day 6 (Wednesday) : เที่ยวใน Osaka (ปราสาทโอซาก้า, Tsutenkaku Tower, Shopping ย่าน Dontonbori + Shinsaibashi => Airport (KIX) เครื่องออกเที่ยงคืน

    1. คิดว่ามีตรงไหนต้องปรับเปลี่ยนและแนะนำไหมคะ? > ไปกับเพื่อน…รวมทั้งหมด 8 คนค่ะ เราเคยไปมาแล้วครั้งนึง แต่เพื่อนทั้ง 7 คนไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย ทริปนี้ตั้งใจว่าจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี, ภูเขาไฟฟูจิ, USJ และ Shopping…ใจจริงอยากพาเพื่อนไปที่หลักๆให้ครบ แต่จัดแผนไปมาก็กลัวว่าจะกลายเป็นชะโงกทัวร์ไป เลยอยากได้คำแนะนำค่ะ
    2. ถ้าวางแผนแบบนี้ ต้องซื้อ Pass แบบไหนคะ? > Plan ซื้อ Tokyo wide Pass ใช้งานวันที่ 1-3
    Nikko > ซื้อ Chuzenji Osen Free Pass
    Kyoto > ซื้อ Kyoto Bus One-Day Pass
    Osaka > วันแรกซื้อเป็นเที่ยวๆเอา วันที่สองซื้อ Enjoy Eco Card 1 Day่
    3. ปกติเครื่องลง 8 โมงเช้า จะติดอยู่ ต.ม.นานไหมคะ? จะได้ออกจาก Narita ประมาณกี่โมง?

    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^^

  • April 10, 2017 at 8:53 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Parichat

    1. โปรแกรมแน่นเหมือนกันนะครับ น่าจะเหนื่อยด้วย ถ้าไหวก็ไม่มีปัญหาครับ ช่วงที่ไปคงหาใบไม้เปลี่ยนสีดูยากหน่อย คงต้องขึ้นไปดูบนภูเขาครับ
    2. วันที่ 1-3 ใช้ JR Tokyo wide Pass ก็ง่ายดีครับ ได้นั่ง Shinkansen ไป Nikko ด้วย แต่คงไม่ถึงกับคุ้ม น่าจะเสมอตัว
    Nikko > ซื้อ Chuzenji Osen Free Pass โอเคครับ
    Kyoto > ซื้อ Kyoto Bus One-Day Pass จากประสบการณ์นะครับนั่งบัสประหยัดตังค์ แต่เสียเวลาครับ ถ้าอยากไปหลายที่ให้ผสมการเดินทางระหว่างรถไฟกับบัส แล้วจ่ายเงินเป็นเที่ยว จะทำเวลาได้ดีกว่าครับ
    Osaka > วันแรกซื้อเป็นเที่ยวๆเอา วันที่สองซื้อ Enjoy Eco Card 1 Day่ ลองเปรียบเทียบกับ Osaka Amazing Pass ดูนะครับ อันไหนประหยัดกว่า

    3. ผ่าน ตม. รับกระเป๋า ผ่านศุลกากร เสร็จประมาณ 8.45-9.00 น. ครับ

  • June 15, 2017 at 10:04 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ
    ว่าจะขอลอกแพลนตามนี้ ไปตอนปลายมีนา (ุ6 วัน) ปีหน้าเลยน่ะค่ะ
    แต่ยังมึนๆกับหลายๆอย่างอยู่ (ไปญี่ปุ่นครั้งแรก)

    ขอสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางด้วยค่ะ
    ที่พักที่ดูๆไว้ อยู่ใกล้กับสถานี kanegafuchi (สาย Tobu kameido) เข้าใจว่าเป็นสถานี local บัตร Suica ใช้ได้มั้ยคะ?
    อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะว่าจะเดินทางจากสนามบินนาริตะไป kanegafuchi / yahiro อย่างไรดี
    (ไปลงสถานีใหญ่แล้วเปลี่ยนไปสาย local รึเปล่า)

    พอดีว่าที่พักอยู่ฝั่ง asakusa (ห่าง 4 สถานี)
    เลยคิดว่าจะเริ่มทุกอย่างที่สถานี asakusa ตามแพลนข้างบนเลย
    เลยอยากทราบว่าจะต้องเติมเงิน Suica ประมาณเท่าไหร่ เห็นหลังจากวันที่ 3 แล้ว มีค่ารถอย่างอื่นด้วย
    พอจะแยกได้มั้ยคะ
    ขอบคุณค่ะ

  • June 15, 2017 at 10:08 pm
    Permalink

    ลืมไปอีกข้อค่ะ
    ตามแพลนนี้ มีค่าเข้าสถานที่รึเปล่าคะ จะได้เผื่อไว้ด้วย
    เห็นไม่ได้บอกไว้ แต่ดูตามรีวิว พวกวัดจะมีเก็บค่าเข้าด้วย
    รบกวนด้วยค่ะ

  • June 16, 2017 at 3:14 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Yada

    ที่พักที่ดูๆไว้ อยู่ใกล้กับสถานี kanegafuchi (สาย Tobu kameido) เข้าใจว่าเป็นสถานี local บัตร Suica ใช้ได้มั้ยคะ?

    ใช้ได้ครับผม

    อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะว่าจะเดินทางจากสนามบินนาริตะไป kanegafuchi / yahiro อย่างไรดี

    ไปได้หลายทาง ลองดูใน http://www.hyperdia.com/en/ นะครับ หากยังไม่เคยใช้ดูวิธีในนี้ครับ https://www.emagtravel.com/archive/how-to-use-hyperdia.html ถ้ายังงงแนะนำรถไฟ Keisei Access Express ลง Asakusa ครับ

    เลยอยากทราบว่าจะต้องเติมเงิน Suica ประมาณเท่าไหร่ เห็นหลังจากวันที่ 3 แล้ว มีค่ารถอย่างอื่นด้วย

    เติมครั้งแรกมีเงินในการ์ด 2,000 เยน ครั้งต่อไปเติมเมื่อเงินใกล้หมด 1,000-2,000 เยนครับ

    ตามแพลนนี้ มีค่าเข้าสถานที่รึเปล่าคะ จะได้เผื่อไว้ด้วย

    มีค่าเข้าด้วยครับ โดยเฉพาะ Nikko ค่าเข้าค่อนข้างแพงครับ

  • June 20, 2017 at 1:29 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะแอดมิน
    วางแผนเที่ยว 15-20 ต.ค. 60 นี้ ค่ะ
    Day1: Tokyo
    Day2: Kawaguchiko
    Day3-4: Nikko
    Day5: Tokyo
    Day6: Tokyo
    อยากจะให้ช่วยแนะนำเรื่องการเดินทางค่ะ ว่าควรเดินทางแบบไหนดี ซื้อPass แบบไหนดีคะ?
    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  • June 20, 2017 at 1:48 pm
    Permalink

    ตอบคุณ จี้

    พาสดูในเนื้อหาได้เลยครับ ในโตเกียวก็ใช้ Tokyo Subway Ticket หรือ Suica ก็ได้ครับ ขึ้นกับว่าอย่างไหนคุ้มกว่ากัน

  • September 9, 2017 at 5:46 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ จะไปเที่ยว 10 วัน 9 คืนหลายเมือง
    ควรใช้พาสแบบไหนดีคะ แบบครอบคลุมไปเลย หรือแยกเป็นส่วนๆดีค่ะ

    วันที่ 1-2 เที่ยวโตเกียว
    วันที่ 3-4 เที่ยวฟูจิ-ฮาโกเน่
    วันที่ 5-8 เที่ยวแถบโอซาก้า,เกียวโต, นารา
    วันที่ 9-10 เที่ยวนาโกย่าค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

  • September 10, 2017 at 4:13 pm
    Permalink

    ตอบคุณ ฝน

    1. ไป – กลับ สนามบินไหนครับ
    2. คำนวณค่ารถไฟ JR + Shinkansen ตลอดทริป ได้กี่เยนครับ

  • September 16, 2017 at 7:36 pm
    Permalink

    ขาไปลงนาริตะ
    ขากลับขึ่นที่นาโกย่าค่ะ

    กำลังคิดว่าซื้อพาสแยกแต่ละเมืองจะถูกกว่าซื้อ JR มั้ยคะ
    ตอนอยูโตเกียว 2 วันกะซื้อ Metro 48 hrs
    เที่ยวฟูจิกับฮาโกเน่ กะจะซื้อ Fuji hakone pass
    โอซาก้า+เกียวโต+นารา อาจจะซื้อ kansai pass
    ส่วน Nagoyo ยังไม่แน่ใจค่ะ เดี๋ยวเชคอีกที

    เพราะถ้าบัตร JR ก็อนั่งได้เฉพาะ JR เองใช่ป่ะคะ
    ซื้อแบบที่คิดไว้น่าจะถูกกว่ามั้ยคะ

  • September 16, 2017 at 7:43 pm
    Permalink

    ตอบคุณ ฝน

    – ต้องลองคิดค่าเดินทางเปรียบเทียบกันครับ
    – JR Pass ใช้นั่งรถไฟ JR กับ Shinkansen ครับ

  • September 22, 2017 at 5:52 am
    Permalink

    รบกวนช่วงจัดทริปช่วงปีใหม่ รอบ ๆโตเกียว และโรงแรมที่ แนะนำให้ด้วยคะ สัก 3-4 วัน คงเที่ยวใน โตเกียวแค่ 1 วัน ประมาณ 4 ท่าน มีคนแก่ต้องใช้วีลแชร์ 1 ท่านคะ ขอบคุณมากคะ

  • December 31, 2017 at 1:51 pm
    Permalink

    อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองกับครอบครัวรวม 4 คน ประมาณ 7-8 วัน
    ในโตเกียว ได้แก่ อาซากุซะ อุเอโนะ ชิบูยา Shijuku ตลาดปลาTsukiji disney sea
    เมืองใกล้ๆ เช่น คาวาโกเอะ สวนแอปเปิ้ลหรือสตรอเบอรี่
    ช่วยกรุณาวางแผนการเดินทาง ที่พัก พาส หรือตั๋วต่างๆ เพราะกังวลเรื่องการเดินทาง
    ขอบคุณคะ

  • February 19, 2018 at 3:32 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ
    1. เดินทางถึง Haneda Airport วันที่ 1 มีนาคม 61 เวลา 22.30 น. จนถึง วันที่ 8 มีนาคม 61 รวม 8 วัน ต้องการเที่ยวในโตเกียว ย่านการค้า/ ภูเขาไฟฟูจิ/ ชมซากุระ/ โอซาก้า วันที่ 8 กลับเข้ามาพักในโตเกียวเพื่อขึ้นเครื่องไปฮอกไกโด
    2. วันที่ 9 มีนาคม 61 14.00น. จากสนามบิน Narita ไป New Chitose Airport เดินทางกลับวันที่ 19 มีนาคม 61 จาก Shin Chitose Airport (Sapporo) สู่ Kuala Lumpur
    รบกวนขอแผนการท่องเที่ยวใน 8 วัน ( เนื่องจากลงเครื่องดึกเหลือเวลาเที่ยวแค่ 7 วันค่ะ) ตามข้อ 1. ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

  • February 19, 2018 at 5:11 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Sarina Wanitakun

    ตัวอย่างโปรแกรมในโตเกียวและเมืองรอบๆ ก็ตามหน้านี้เลยครับ ตัดวันเอาตามความชอบ
    เที่ยวโอซาก้า เลือกเอาตามชอบครับ https://www.emagtravel.com/archive/osaka.html
    เที่ยวเกียวโต (คิดว่าคงไป) https://www.emagtravel.com/archive/kyoto.html

    ป.ล. เที่ยวเกิน 15 วัน อย่าลืมขอ VISA นะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *