เดินเล่นคาวาโกเอะ Kawagoe ชมบ้านเมืองเก่าในสมัยเอโดะ
รอบๆ โตเกียวมีเมืองที่สามารถไปเที่ยวแบบเช้าไป – เย็นกลับได้หลายเมือง เมืองที่จะพาไปรีวิวนี้ได้รับการขนานนามว่า “Little Edo” หรือเมืองเก่า ย้อนยุคสมัยเอโดะ เมืองนี้มีชื่อว่าคาวาโกเอะ (Kawagoe)
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe)
Kawagoe (川越) เป็นเมืองที่ห่างจากโตเกียวประมาณ 30-50 นาที อยู่ในจังหวัดไซตามะ Saitama (บ้านเกิดชินจัง) ในยุคสมัยเอโดะ (Edo) มีโตเกียวเป็นเมืองหลวง เมือง Kawagoe เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของโตเกียว มีหน้าที่ส่งเสบียงอาหารไปยังโตเกียว เมือง Kawagoe เป็นเมืองที่มีความสำคัญในยุคนั้นมาก สังเกตได้จากการที่โชกุนได้สร้างประสาท (Kawagoe Castle) ไว้ที่นี่ การก่อสร้างบ้านเรือน และวัฒนธรรม เป็นไปตามแบบ Edo
ในช่วงสงครามโลก เมืองโตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางของ Edo ได้ถูกโจมตี ไฟไหม้ และแผ่นดินไหว จนไม่เหลือสิ่งก่อสร้างในสมัย Edo ให้เห็นในปัจจุบัน แต่เมือง Kawagoe เป็นเมืองที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาก จึงมีบ้านเรือนเก่าให้เห็นในปัจจุบันนี้
การเดินทางไป Kawagoe
จากโตเกียวมีรถไฟไป Kawagoe อยู่ 3 เจ้า ได้แก่ Tobu, Seibu และ JR
- รถไฟ Tobu
ขึ้นรถไฟ Tobu Tojo Line ที่สถานี Ikebukero ไปยังสถานี Kawagoe หรือ Kawagoe-Shi รถไฟออกค่อนข้างถี่ รถไฟ Express ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น เป็นการเดินทางไป Kawagoe ที่เร็วและประหยัดที่สุด ค่าโดยสารขาละ 470 เยน
หรือจะซื้อ Kawagoe Discount Pass ใช้ในการเดินทางไปกลับ Ikebukero – Kawagoe ราคาเพียง 700 เยน ประหยัดกว่าจ่ายที่ละขาถึง 240 เยน สามารถซื้อพาสได้ที่สถานี Tobu Ikebukuro
ข้อมูลเพิ่มเติม. www.tobu.co.jp/foreign/tojo/en/discount
- รถไฟ Seibu
ขึ้นรถไฟ Seibu Shinjuku Line ที่สถานี Seibu Shinjuku ไปยังสถานี Hon-Kawagoe ใช้เวลาประมาณ 60 นาที ค่าโดยสาร 500 เยน
- รถไฟ JR
ขึ้นรถไฟ JR Saikyo Line ที่สถานี JR Shinjuku ไปยังสถานี Kawagoe ใช้เวลาประมาณ 54 นาที ค่าโดยสาร 760 เยน เส้นทางนี้สามารถใช้ JR Pass และ JR TOKYO Wide Pass ได้
9.00 น. เราเดินทางจากสถานี Ikebukuro ด้วยรถไฟ Tobu ภายในรถไฟจัดวางที่นั่งเป็นเบาะยาว หันหน้าเข้าหากัน
ใช้เวลาเดินทาง 30 กว่านาที
9.40 น. ถึงสถานี Kawagoe เป็นสถานีขนาดกลาง มีร้านค้า ร้านอาหาร และห้างติดกับสถานีเลย
การเดินทางใน Kawagoe
สามารถเดินทางได้ด้วยรถบัส KOEDO KAWAGOE LOOP BUS หรือจะเดินก็ได้ ระยะทางจากสถานี Kawagoe ไปยังที่เที่ยวต่างๆ และกลับมายังสถานี ประมาณ 3 กิโลเมตร
ผู้ที่มีเด็ก ผู้สูงอายุแนะนำให้เดินทางด้วยรถบัส โดยแนะนำให้ซื้อพาส Tobu Koedo 1-day pass ราคา 300 เยน ใช้เดินทางในเมือง Kawagoe ในเส้นทาง Loop bus ได้อย่างไม่จำกัด
Tobu Koedo 1-day pass รายละเอียดเพิ่มเติม www.tobu-bus.com/en/kawagoe
แผนที่ Kawagoe และเส้นทาง Loop Bus คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูแผนที่แบบขยาย
วางแผนเที่ยวใน Kawagoe
แบบที่ 1 เดิน + รถบัส ใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง ขาไปให้เดินไป สถานที่ท่องเที่ยวจะเรียงต่อๆ กันไปเลย เมื่อเที่ยวครบแล้วค่อยนั่งรถเมล์กลับมายังสถานีรถไฟ Kawagoe
แบบที่ 2 ถ้ามีเวลาน้อยให้นั่งรถเมล์ไปที่โซนเมืองเก่า คุราซุคุริ (Kurazukuri) ที่จอดรถประจำทางจะอยู่ข้างๆ สถานีรถไฟ ดูตารางรถเมล์ได้จากหน้าจอในสถานี Kawagoe
เนื่องจากว่าเรามีเวลาเยอะเลยเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ แล้วค่อยนั่งรถเมล์กลับ
เดินออกจากสถานีจะมีทางเดินลอยฟ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นห้าง ATRE มีร้าน Uniqlo และร้านรองเท้า ABC Mart
เดินไปทางทิศเหนือ มีถนนคนเดิน CREA MALL เป็นย่านชอปปิ้งของ Kawagoe บรรยากาศคล้ายตลาด Ameyoko ย่าน Ueno แต่ CREA MALL เดินได้สบายกว่า คนไม่เยอะ
สินค้าที่ขายก็มีมากมาย เช่นเสื้อผ้า รองเท้า ร้านยา – เครื่องสำอาง ร้านอาหาร กิ๊ฟช๊อป ร้าน 100 เยน ฯลฯ ของที่ขายราคาก็ไม่แพง
ร้านดอกไม้ก็มี มีทั้งดอกไม้สด ต้นไม้ กระบองเพชร สวยงามน่าซื้อมาก (การซื้อต้นไม้กลับไทยอาจมีปัญหาศุลกากรขาออกของญี่ปุ่น ไม่แนะนำให้ซื้อ)
ร้าน 100 เยน มีสินค้าน่าสนใจหลายอย่าง มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเอาของมาไม่ครบ เช่น สายชาร์จโทรศัพท์ กรรไกรตัดเล็บ ถุงเท้า ฯลฯ หาซื้อที่ร้าน 100 เยนได้
ร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด ร้านตู้กดมีอยู่หลายร้าน
นอกจากร้าน 100 เยน ก็มีร้าน 3 COINS (300 เยน) ของมีคุณภาพดีขึ้นมา ขายของจิปาถะเหมือนร้าน 100 เยน
11.00 น. เราเดินมาถึงวัดคิตาอิน (Kita-in Temple) ช่วงที่ไปนั้นเป็นต้นเดือนเมษายน ซากุระออกดอกสวยมาก ชมพูเต็มทั้งต้น
วัดคิตาอิน (Kita-in Temple)
เป็นวัดพุทธ นิกายเทนได สร้างโดยพระ Ennin ในสมัยเฮอัน (Heian) วัดแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ทำลายตัววัดเกือบทั้งหมด ช่วงที่มีการซ่อมแซมสร้างขึ้นมาใหม่ โชกุน Tokugawa ได้มีคำสั่งให้นำส่วนหนึ่งของปราสาทเอโดะ (Edo Castle) ซึ่งเป็นที่พักของโชกุน ย้ายไปยังวัดคิตาอิน เพื่อช่วยให้ตัววัดเสร็จสมบูรณ์เร็วขึ้นกว่าการสร้างใหม่
ตัวอาคารที่ยกมาจากปราสาทเอโดะ เป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นเดียวของปราสาทเอโดะที่เหลืออยู่ในขณะนี้ เนื่องจากว่าในปี ค.ศ. 1923 ได้เกิดแผ่นดินไหว ไฟไหม้ครั้งรุนแรงในภูมิภาคคันโต (Great Kanto Earthquake) ทำลายปราสาทเอโดะ และสิ่งก่อสร้างไปแทบทั้งหมด
สิ่งที่น่าสนใจในวัดคิตาอิน นอกจากอาคารเก่าของปราสาทเอโดะ ก็มีรูปปั้นพระพุทธรูป Gohyaku Rakan ที่มีมากถึง 540 องค์ แต่ละองค์มีใบหน้าที่ไม่ซ้ำกัน
เห็นแค่ประตูวัดก็สวยงามน่าเข้าไปข้างใน การเข้าชมรอบวัดไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องการชมอาคารเก่าของปราสาทเอโดะ และ พระพุทธรูป Gohyaku Rakan มีค่าใช้จ่าย 400 เยน
ช่วงเวลาที่ซากุระบาน คนญี่ปุ่นนิยมมารับประทานอาหาร ปิคนิคใต้ต้นซากุระ หรือที่เรียกกันว่า “ฮานามิ” มีร้านค้าขายอาหารในบริเวณวัด
การชมซากุระในวัด Kita-in ชมได้สบายๆ ถ่ายรูปได้เท่าที่ต้องการ ไม่ติดนักท่องเที่ยวคนอื่นเหมือนในโตเกียว ไม่ค่อยมีทัวร์มาลง
เจดีย์ในวัด มีฉากหน้าเป็นต้นซากุระ
วันที่ไปมีกิจกรรมของผู้สูงอายุ รำพัดให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
พระพุทธรูป Gohyaku Rakan สามารถชมจากภายนอกได้ (ไม่เสียค่าเข้า) มองผ่านประตู
เดินมาเรื่อยๆ จนถึงทางขึ้นไปยังตัววัด เป็นธรรมเนียมของวัด และ ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ที่จะต้องล้างมือ ชำระล้างร่างกาย ให้สะอาดก่อนเข้าไปในวัด
วัด Kita-in
แผ่นป้ายขอพรของวัดคิตาอิน จะมีรูปโชกุนอยู่ด้วย เนื่องจากโชกุนได้นำอาคารของปราสาทเอโดะ มาเป็นส่วนหนึ่งของวัด โชกุนจึงเปรียบเสมือนหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัด
อาคารในวัดคิตาอิน
ถัดจากวัด Kita-in จะเป็นวัดนาริตะซัง (Naritasan Kawagoe Betsuin Temple) วัดนี้มีชื่อซ้ำกับวัดนาริตะซัง ที่อยู่ใกล้สนามบินนาริตะ
Naritasan Kawagoe Betsuin Temple เป็นวัดขนาดเล็ก ถ้าผ่านก็อาจจะแวะเข้าไปชมซักหน่อย ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร ในวันที่ 28 ของทุกเดือนจะมีตลาดขายของเก่า (flea market) ของโบราณ เช่น หนังสือ เสื้อผ้า เหรียญ ของสะสมต่างๆ
ระหว่างทางเจอฝาท่อระบายน้ำ เมือง Kawagoe มีฝาท่อเป็นรูปบ้านโบราณและหอระฆัง (Toki no kabe) ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสนใจในรายละเอียดค่อนข้างมาก ไม่เว้นแม้แต่ฝาท่อระบายน้ำ
จากวัดนาริตะซัง เราเดินมาทางทิศตะวันตก เจอกับวัดเรงเคจิ (Renkei-ji) มีซากุระสวยๆ ให้ชมเหมือนกัน มาถึงตรงนี้เราเดินเป็นระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร การมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงที่อากาศหนาวเดินไกลเป็นกิโลเมตร ก็ไม่ค่อยเหนื่อย ไม่มีเหงื่อออก
วัดเรงเคจิ (Renkei-ji Temple)
เป็นวัดขนาดเล็ก อยู่ก่อนถึงย่านเมืองเก่า Kurazukuri วัดแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับโชกุนโทคุกาวา (Tokugawa) ชาวญี่ปุ่นจะมาที่วัดนี้เพื่อขอพรให้ครอบครัว และเด็กที่เพิ่งเกิดใหม่ ภายในวัดมีรูปปั้นพระพุทธรูป Obinzuru-sama มีความเชื่อว่าถ้าได้จับรูปปั้นจะช่วยรักษาความเจ็บป่วย
ในวัดมีต้นซากุระปลูกทั่วทั้งวัด บรรยากาศค่อนข้างเงียบ
ออกจากวัดเรงเคจิ (Renkei-ji) เดินไปทางซ้ายก็จะเจอกับโซนบ้านเมืองเก่าคุราซุคุริ (Kurazukuri) ถือว่าเป็นไฮไลต์ของเมือง Kawagoe ถ้ามาไม่ถึงโซนบ้านเมืองเก่าคุราซุคุริ ก็เหมือนมาไม่ถึง Kawagoe
โซนบ้านเมืองเก่าคุราซุคุริ (มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษหลายคำ Kurazukuri Zone, Old storehouse zone, Warehouse District : 蔵造りの町並み)
คำว่า “Kura” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “โกดัง” และ “Kurazukuri” หมายถึงตึกโกดังที่มีโครงสร้างแข็งแรง ใช้ดินเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง รูปแบบการก่อสร้างแบบนี้มีขึ้นในสมัยเอโดะ
ในช่วงปี ค.ศ. 1603-1867 สมัยเอโดะ เมือง Kawagoe เป็นเมืองค้าขาย ทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารให้กับเมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) เมืองนี้จึงมีโกดังเก็บสินค้าอยู่หลายแห่ง เจ้าของร้านค้าที่มีฐานะหน่อยจะสร้างโกดังและร้านค้าให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแผ่นดินไหวและไฟไหม้ โกดังในย่านนี้สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะ
เมื่อเวลาผ่านไป บ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ ถูกไฟไหม้ แผ่นดินไหวพังไปหมด เหลือแต่เพียงโกดังเก็บสินค้า ที่อยู่ริมถนน ปัจจุบันโกดังเก่าแก่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และสถานที่ท่องเที่ยว ยาวเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร
สถานที่สำคัญในย่านคุราซุคุริ จะมีอยู่ 3 อย่างดังนี้ 1. โกดังเก่าสมัยเอโดะ 2. หอระฆัง (Toki no Kane) 3. ตรอกขนม (Kashiya Yokocho)
เดินไปไม่กี่ก้าวเป็นร้านกิฟต์ช๊อป หน้าร้านมีตุ๊กตาคิตตี้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้าน สีสันสะดุดตามาก ภายในร้านมีของกิฟต์ช๊อปหลายอย่าง ถูกบ้าง แพงบ้าง
เมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับรถลากเป็นของคู่กัน หนุ่มรถลากส่วนมากจะหน้าตาดี หุ่นดี เฟรนด์ลี่ แข็งแรง
เอาราคารถลากในเมือง Kawagoe มาฝากครับ
- 20 นาที 2,000 เยน
- 30 นาที 3,000 เยน
- 40 นาที 4,000 เยน
- 60 นาที 5,000 เยน
บ้านเก่าในโซนนี้จะมีอยู่สองฝั่งถนน ถ้ามาเที่ยววันธรรมดาคนไม่ค่อยเยอะ เมืองนี้ไม่ค่อยเจอคนไทย อาจจะไม่เป็นที่รู้จักซักเท่าไหร่
บ้านเก่าแต่ละหลังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก สไตล์เอโดะแท้ๆ
เราเดินเข้าซอยไปยัง หอระฆัง Time Bell Tower (Toki no Kane : 時の鐘)
หอระฆังแห่งนี้ใช้ตีบอกเวลาในสมัยเอโดะ ตัวหอระฆังที่เห็นนี้สร้างขึ้นใหม่เป็นเวอร์ชันที่ 4 แทนของเดิมที่ถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ.1893 หอระฆังเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Kawagoe ใน 1 วันจะมีเสียงระฆังอยู่ 5 ครั้ง ในเวลา 6.00 น. 12.00 น. 15.00 น. และ 18.00 น.
การเข้าชมหอระฆังไม่มีค่าเข้า
หอระฆัง Toki no Kane
มีศาลเจ้าขนาดเล็กใต้หอระฆัง
ไปรษณีย์เมือง Kawagoe สร้างได้กลมกลืนกับตัวเมือง
สิ่งก่อสร้างที่ดูแปลกตา ไม่เข้าพวกในเมืองนี้เห็นจะเป็นธนาคาร Saitama Resona Bank เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกหลังคาทองแดงสีเขียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1918 สมัย Taisho ปัจจุบันธนาคารก็ยังคงเปิดทำการอยู่ อาคารแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม
เดินชมบ้านเมืองเก่าย่าน Kurazukuri เสร็จแล้ว อย่าเพิ่งนั่งรถเมล์กลับ ให้เดินต่อไปทางทิศตะวันตกจะเป็นย่านขายขนม Kashiya Yokocho
ย่านขายขนม Kashiya Yokocho (Candy Alley) เป็นแหล่งรวมร้านขนมในย่าน Kawagoe ยาวเรียงรายตามถนนเป็นระยะทาง 80 เมตร ขนมที่ขายก็มีลูกอม ขนมเซนเบ้ (ทำมาจากข้าวทอด) ขนมท้องถิ่นของญี่ปุ่น ขายราคาไม่แพง ราคาเริ่มต้นที่ 50 เยน เหมาะสำหรับซื้อไปลองชิม หรือซื้อเป็นของฝาก
ขนมหลากหลาย
ขนมปังที่มีแท่งยาวในรูปด้านล่างมีชื่อว่าฟูกาชิ (Fugashi) มีความยาวแท่งละ 80-90 เซนติเมตร ขนาดประมาณไม้เบสบอล ทำมาจากแป้งสาลี มีรสชาติหวาน
เดินเลือกซื้อกันเพลินๆ มีราคาบอกชัดเจน
ถึงแม้ว่าย่านนี้จะเป็นย่านขายขนม ของกิน แต่เราก็ไม่เห็นคนญี่ปุ่น เดินไป กินไป เป็นมารยาทของคนญี่ปุ่นที่จะไม่เดินไป กินไป
ได้ขนมติดไม้ติดมือมานิดหน่อย ตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาแล้ว นั่งรถเมล์กลับสถานี Kawagoe ดีกว่า
ระหว่างเดินไปป้ายรถเมล์เห็นมุมนี้สวยดี มีรูปปั้นและดอกไม้ แวะถ่ายรูปซักหน่อย
เราขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งธนาคาร Saitama Resona Bank หน้ารถจะมีตัวอักษรบอกว่าไปไหน เราจะไปสถานี Kawagoe ก็มองหารถสีส้มที่มีตัวอักษร “Kawagoe Sta.” การขึ้นรถเมล์ให้ขึ้นที่ประตูหลัง เอาบัตร Suica / Passmo แตะที่เครื่องข้างประตู เมื่อถึงปลายทางให้ลงที่ประตูหน้า แตะบัตรที่เครื่องข้างคนขับก่อนลง ส่วนค่าโดยสารน่าจะประมาณ 100 – 140 เยน จำไม่ได้แน่ชัด เพราะใช้ Suica จ่าย
ภายในรถเมล์
15.00 น. เรามาถึงสถานี Kawagoe รวมแล้วใช้เวลาเที่ยวใน Kawagoe 5 ชั่วโมง 20 นาที เมืองนี้มีอะไรสวยๆ น่าชมเยอะ ทั้งบ้านเมืองเก่า ดอกซากุระ วัด ย่านขายขนม เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ มีความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ใครยังไม่เคยไปแนะนำให้ลองไปกันดูนะครับ อยู่ใกล้โตเกียว เดินทางสะดวก
ออกจาก Kawagoe เราจะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway museum กันต่อ ถ้าสนใจก็ติดตามตอนต่อไปครับ
สรุปค่าเดินทางไป Kawagoe (จาก Ikebukuro)
- รถไฟ Tobu ไปกลับ 470 x 2 = 940 เยน
- รถบัสจากตัวเมือง Kawagoe กลับมายังสถานี = 140 เยน (ราคาโดยประมาณ)
รวมค่าเดินทาง 1,080 เยน
Post Views 66482
มีประโยชน์มากเลยค่ะ
เราเรียนปริญญาโทอยู่โตเกียว พอดีจะหาที่เที่ยวระหว่างปิดเทอม เจอรีวิวนี้พอดี เดี๋ยวไปลุยพรุ่งนี้เลยค่าาา
ขอบคุณมากๆค่ะ ^0^
คอบคุณ Kate
ดีใจที่รีวิวนี้มีประโยชน์ครับ 🙂
จะไปเที่ยวดูบอลโลก ญี่ปุ่น กับ อิรัก จะแวะก่อนจะไปไซตามะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ตอบคุณ tam
เที่ยวให้สนุกนะครับ 🙂
ใช้ Tokyo Wide pass จาก Ikebukuro ไป Kawagoe. ขึ้นรถไฟ JR Saikyo Line ได้ไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
ตอบคุณ go_on_aor
ได้ครับผม ในเนื้อหาก็มีบอกแล้วนะครับ
ออกจาก โซนบ้านเมืองเก่าคุราซุคุริ แล้วจะไป ไซตะมะสเตเดียมต้องเดินทางยังไงคะ พอจะแนะนำได้ไหมคะ
ตอบคุณ kaekai
ลองดูครับ https://www.google.co.th/maps/dir/35.9249,139.4831/SAITAMA+STADIUM+2002,+Midori+Ward,+Saitama+Prefecture,+Japan/@35.9109825,139.5360044,11.71z/data=!4m9!4m8!1m0!1m5!1m1!1s0x6018bfc724895729:0x86b1d2e9a432627c!2m2!1d139.717307!2d35.9030554!3e3
Toho ตอนนี้มี Kawagoe pass นะคะ ไปกลับ 950 รวมรถบัสเรียบร้อย
http://www.tobu.co.jp/foreign/tojo/en/discount/
ถ้าใช้ jr all pass จาก okamachi ลงสถานีไหนที่ Kawagoe คะ แล้วต้องเสียค่า pass อะไรเพิ่มอีกไหม
ตอบคุณ ooho
ตั้งแต่ Shin-Osaka มายังสถานี JR Kawagoe เลือกนั่งรถไฟของ JR ไม่เสียเงินเพิ่มครับ