เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ ข้อมูล-รูปภาพอัพเดท 2024
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 43 ของถนนสายจอมทอง – ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จัดเป็นเส้นทางเดินที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ ได้ชมพันธุ์ไม้หายาก เช่น กุหลาบพันปี บีโกเนียป่า ฯลฯ และสัตว์สงวนกวางผา นอกจากนี้กิ่วแม่ปานยังเป็นจุดชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านหลังของ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
เส้นทางกิ่วแม่ปานมีลักษณะเป็นวงรอบทางเดินลาดชันขึ้นไปทางทิศตะวันตก จนกระทั่งถึงบริเวณสันกิ่วแม่ปาน และอ้อมวกลงมาทางทิศใต้ตามสันกิ่วซึ่งเป็นทางลาดชันลงและสุดท้ายจะวกกลับมาทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทางลาดชันขึ้นอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปบรรจบกับทางเดินที่เดินเข้ามาครั้งแรก มีความยาวประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง ทางเดินมีทั้งเดินขึ้นเขา ลงเขา และพื้นราบผ่านป่า
ในระหว่างทางจะมีแผ่นป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับผืนป่ากิ่วแม่ปานทั้งหมด 21 จุด และมีที่ให้นั่งพักตลอดเส้นทาง
เส้นทางนี้ผู้ที่สนใจต้องติดต่อผู้นำทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านหน้าทางเข้ากิ่วแม่ปาน ส่วนมากจะเป็นชาวบ้านบนดอย มีค่าใช้จ่าย 200 บาท ต่อหนึ่งกลุ่ม (ไม่เกิน 10 คน) ทางอุทยานฯ ห้ามเดินเองโดยที่ไม่มีคนนำทาง
จุดลงทะเบียน และติดต่อผู้นำทางเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน หลังจากได้ผู้นำทางแล้ว จะต้องจ่ายเงินค่านำทาง 200 บาท ผู้นำทางบางคนก็อธิบายเกี่ยวกับธรรมชาติบนกิ่วแม่ปานได้เป็นอย่างดี บางคนก็พูดน้อยเดินนำอย่างเดียว จากประสบการณ์จริงที่ไปมา ผู้นำทางที่มีอายุจะให้ข้อมูล และ อธิบายได้ดีกว่า
ต่อจากนี้ไปขอแทนคำว่า “ผู้นำทางเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน” ด้วยคำว่า “ไกด์”
ที่ด้านหน้าทางเข้าจะมีไม้ค้ำให้ยืมฟรี ช่วยให้เดินง่ายขึ้นเวลาขึ้น – ลง เขา ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย ช่วยกระจายน้ำหนัก ลดภาระน้ำหนักที่ลงไปที่เอว หัวเข่า และสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่า แนะนำซื้อติดตัวไว้เลยครับ อันละไม่ถึง 100 บาทก็มี อันนี้ลองหาให้คร่าวๆ ใน shopee การใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งไม้เดียว และ 2 ไม้ ไกด์อธิบายกับเราว่าให้ใช้ไม้เดียว จะได้มีอีกมือไว้ถ่ายรูป อันนี้มีเหตุผล
Link ไม้เท้าเดินป่าใน shopee. https://shp.ee/kca3di3
เตรียมตัวไปกิ่วแม่ปาน
ในหน้าหนาวกิ่วแม่ปานมีอากาศหนาวมาก อุณหภูมิในตอนเช้าต่ำถึง 0-9 องศา และอาจมีอุณหภูมิติดลบที่ยอดหญ้าจนเกิดเป็นน้ำค้างแข็ง (แม่คะนิ้ง) นักท่องเที่ยวที่มาช่วงฤดูหนาว รอบเช้า ให้เตรียมเสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวกใส่ไปด้วย ส่วนรอบบ่ายแดดค่อนข้างแรง ควรเน้นเสื้อผ้าที่กันแดด ไม่หนา และควรนำน้ำดื่มติดตัวไปด้วย แนะนำเป็นน้ำดื่มขวดเล็ก เช่นขนาด 330 มล. เป็นขนาดที่พกพาสะดวก ไม่เป็นภาระ
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคหัวใจ ไม่เป็นโรคเข่า
ดอยอินทนนท์ เป็นพื้นที่ภูเขาสูง อากาศเบาบางกว่าพื้นด้านล่าง จะทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ ควรเดินช้าๆ พักเป็นระยะ
เดินไม่ครบรอบได้ไหม?
สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ เมื่อรู้สึกว่าไปต่อไม่ไหวแล้ว สามารถบอกไกด์ให้พาเดินกลับได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเดินไปถึงกลางทางแล้ว การเดินกลับหรือไปต่อให้ครบรอบ ก็จะเหนื่อยเท่ากัน
| เส้นทางกิ่วแม่ปาน 21 จุด |
ดอกไม้ป่า ขึ้นจากดิน ไกด์ชี้ให้เราดู
1. เฟิร์นยุคโบราณ บริเวณรอบๆ เป็นป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น มีแสงแดดรำไรส่งลงมา เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของเฟิร์นใบบางที่สุดในโลก มีมาแต่โบราณประมาณ 230 ล้านปี ช่วงอากาศแล้งเฟิร์นจะพักตัว ใบเหี่ยวแต่ไม่ตาย และจะฟื้นเขียวอีกครั้งเมื่อได้ละอองหมอก
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 4 นาที
กล้วยไม้รองเท้านารี
2. ป่าเมฆ ป่าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกหลายเดือน อากาศหนาวชื้น ลมแรง ดินเป็นกรดสูง พันธุ์ไม้ที่ขึ้นได้บริเวณนี้ จะมีแต่กลุ่มไม้เมืองหนาว เช่น หว้า กุหลาบพันปี กุหลาบขาว กล้วยไม้ เฟิร์น มอส
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 5 นาที
3. ป่าต้นน้ำ กำเนิดสายธาร มีน้ำตกขนาดเล็ก ไหลมาเป็นลำห้วย ในยุคแรกน้ำตกไหลรุนแรง เกิดเป็นหลุมลึก และในยุคปัจจุบันสายน้ำเปลี่ยนทางไหล ปริมาณน้ำลดลง น้ำที่ไหลจากน้ำตกเป็นน้ำสะอาด มีธาตุอาหารสูง ปลายทางของน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 7 นาที
4. พรรณพืชไม้ป่าเมฆ ต้นก่อ (ต้นโอ๊ค) ต้นทะโล้ ต้นหว่าอ่างกา (พืชเฉพาะท้องถิ่น) ในป่านี้เป็นต้นไม้เมืองหนาว มีการปรับตัวให้อยู่ได้ในป่าหนาวและชุ่มชื้นสูง
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 13 นาที
รอยเท้าหมีตะปปบนต้นไม้ แต่ปัจจุบันคิดว่าบริเวณนี้ไม่มีหมีแล้ว
กล้วยไม้ป่าลำต้นเป็นปล้อง ไกด์นำทางเรียกตามรูปร่างว่ากล้วยไม้ไส้กรอก
5. ป่าซ่อมป่า ป่าเมฆที่มีลมพัดแรง มักมีไม้หักโค่น ต้นไม้ใหญ่ที่ล้มทำให้เกิดแสงส่องลงมายังพื้นดิน ต้นไม้รุ่นใหม่จึงงอกมาซ่อมแซม เป็นวงจรการพื้นฟูตนเองของป่า
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 19 นาที
6. เถาวัลย์ เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดจัด โตเร็ว เลื้อยพันต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว กระรอกและสัตว์หากินบนต้นไม้ใช้เป็นเส้นทางเดิน เถาวัลย์ที่มีจำนวนมากเกินไปจะรัดและปกคลุมป่าทำให้ต้นไม้ใหญ่ตาย
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 24 นาที
7. ทุ่งหญ้าเมืองหนาว ปกติที่ความสูง 4000 เมตร จากระดับน้ำทะเลในเขตหนาว จะมีเฉพาะไม้ล้มลุก เรียกว่า “ทุ่งหญ้าอัลไพน์” แต่ที่ดอยอินทนนท์ ดอยผ้าห่มปก และ ดอยเชียงดาว เป็นภูเขาสูง 2,000-2,500 เมตร มีปรากฏการณ์พิเศษ มีไม้ล้มลุกปะปนกับไม้พุ่มขนาดเล็ก เรียกพงไม้นี้ว่า “ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์”
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 30 นาที
8. กู๊ดเกี๊ยะ เฟิร์นทนไฟ ขึ้นบริเวณทุ่งหญ้าเมืองหนาว เฟิร์นชนิดนี้มีใบหนาแข็ง ลดการคายน้ำ ซ่อนลำต้นไว้ใต้ดิน เมื่อมีไฟป่าใบที่อยู่พ้นดินจะไหม้ และจะงอกขึ้นใหม่อีกครั้งจากลำต้นที่อยู่ได้ดิน
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 34 นาที
บ้านป่าบงเปียง แม่แจ่ม (รูปล่าง) ในฤดูหนาวค่อนข้างแล้ง พื้นที่ส่วนมากทำนา หลังฤดูเก็บเกี่ยวจึงไม่ค่อยเห็นต้นไม้เขียวๆ
9. จุดชมทิวทัศน์ เป็นพื้นที่โล่ง มีระเบียงยื่นออก บางวันจะมองเห็นทะเลหมอกได้ที่บริเวณนี้ และวันที่ฟ้าเปิดจะมองเห็น อ.แม่แจ่มที่อยู่เบื้องหน้าได้ชัดเจน จุดชมวิวตรงนี้เป็นประเด็นในโลกโซเชียลเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปยืน – นั่งที่รั้วกันตก อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เมื่อมาถึงที่จุดนี้ส่วนมากจะเริ่มเหนื่อยหายใจไม่ทัน แนะนำให้พักนานหน่อย ส่วนคนที่ไม่ไหวจริงๆ สามารถให้ไกด์พาเดินกลับได้
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 36 นาที
10. กวางผา ปลอดภัยในบ้านผาหิน กวางผาเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่รวมกันตามทุ่งหญ้าบนภูเขา และหน้าผาในเทือกเขาสูง ปัจจุบันกวางผาดอยอินทนนท์เป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว นักท่องเที่ยวมีโอกาสเจอได้ยาก
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 40 นาที
11. ผาแง่มน้อย เป็นแท่งหินแกรนิต เมื่อสองร้อยล้านปีที่ผ่านมาได้หลอมเหลว ดันตัวตัดผ่าหินไนส์ที่มีอายุกว่า 500 ล้านปี เมื่อเย็นตัวลงปรากฎรอยแตกตรงข้ามอีกครั้งเป็นการผุกร่อน กัดกร่อน ผลคือ หินแง่มน้อยมีเนื้อหินแข็งกว่า จึงคงทน เด่น เป็นสัญลักษณ์ของกิ่วแม่ปาน บริเวณนี้มีจุดให้ยืนชมวิว และมีกุหลาบพันปีออกดอกสีแดงให้ชม
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 40 นาที
ระหว่างเดินทาง เราถามไกด์ของเราว่าวันนี้พานักท่องเที่ยวมากี่รอบแล้ว ไกด์บอกว่ามาเป็นรอบที่ 2 แล้วก็พอแล้วสำหรับวันนี้ คิดว่าคนที่ทำเวลาน่าจะได้ถึง 3-4 รอบ/วัน ส่วนเงินค่านำทาง 200 บาท ที่ได้รับ จะต้องแบ่งให้อุทยานฯ 20 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมทางเดิน
เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตนำภาพมาลง เลยต้องเบลอหน้าไว้ก่อน
12. กิ่วแม่ปาน (ป่าสองมุมบนสันเขา) “กิ่ว” ภาษาเหนือแปลว่าแคบ “กิ่วแม่ปาน” เป็นพื้นที่บนสันเขาส่วนที่แคบที่สุด ลาดเขาสองด้านเป็นป่าต่างชนิดกัน ฝั่งด้านนอกโดนแดดส่อง และลมปะทะแรงจะมีแต่ต้นไม้ขนาดเล็ก ส่วนฝั่งด้านในเป็นป่าชุ่มชื้น
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 47 นาที
13. กุหลาบพันปี ปรับตัวเองให้อยู่ได้ในอากาศหนาวเย็น และลมแรง ใบเป็นแผ่น เหนียวหนา ลดการคายน้ำ กิ่งโปร่งลมผ่านสะดวก ดอกสีแดงเข้ม จะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 50 นาที
14. ป่าร้อน ป่าหนาว เชิงดอยอินทนนท์อากาศร้อนชื้น แต่ยอดดอยอากาศหนาว ลมพัดแรง และมีหมอกหนา ด้วยสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ป่าร้อนจะมีพันธุ์ไม้ใบกว้าง ชอบแดดจัด ทนแล้ง ส่วนป่าหนาวจะเป็นพันธุ์ไม้พุ่มเตี้ย ใบมัน
จุดนี้ต้องเดินเลียบเขา เดินเรียงหนึ่ง ทางแคบ ด้านขวาเป็นเหว
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 70 นาที
จุดชมวิวสองพระธาตุ อยู่ระหว่าง จุด 14 -15 ไม่ได้อยู่ในเส้นทางหลักต้องเดินเข้าไปประมาณ 3 นาที จุดนี้มองเห็นด้านหลัง พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ได้อย่างชัดเจน มาช่วงเช้าจุดนี้จะย้อนแสง มาช่วงบ่ายจะถ่ายรูปสวย แต่ถ้าวันไหนหมอกลงจัดก็อาจจะเห็นแค่ลางๆ
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 76 นาที
15. สายน้ำ ยอดเขาสูงสุดของไทย ห้วยสายเล็กๆ ปกคุลมด้วยป่าดิบเขาอุดมสมบูรณ์มีฝนตกชุก อากาศชื้นมาก ต้นไม้คายน้ำได้น้อย ใบไม้ย่อยสลายช้า มีสภาพเหมือนผ้าห่มพร้อมซับน้ำฝน
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 80 นาที
16. มอส ชอบน้ำแต่ทนแล้ง มอสมักขึ้นตามโคนไม้ และที่ชื้นฉ่ำ ช่วงแล้งก็พักตัวรอความชื้นก็ฟื้นกลับมา สามารถแพร่พันธุ์ด้วยสปอร์
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 83 นาที
17. ป่าสองรุ่น ในป่ามีไม้หลายชนิด มีอายุ และความสูงไม่เท่ากัน บ่งบอกได้ว่าป่านี้ในอดีตเคยโค่นล้มจากพายุ แล้วมีต้นไม้รุ่นใหม่เกิดพร้อมกัน
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 90 นาที
18. สูงใหญ่แต่ล้มง่าย ป่าเขาสูงชัน หน้าดินถูกน้ำฝนชะล้างจนมีความหนาเพียง 1-2 เมตร ส่วนด้านใต้เป็นชั้นหิน ต้นไม้สูงใหญ่มักไม่พบรากแก้ว เพราะไม่สามารถเจาะลงหินได้ เมื่อมีพายุใหญ่มาต้นไม้ก็ล้มได้ง่าย
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 102 นาที
19. กูดต้น เฟิร์นสัญลักษณ์ป่าบริสุทธิ์ กูดต้น เป็นเฟิร์นใบใหญ่เรียงเวียนรอบปลายต้น เรือนยอดกว้าง พบตามลุ่มน้ำริมห้วยชื้นแฉะ ใต้ร่มเงาแสงรำไรเท่านั้น การไม่พบกูดต้นในที่แดดจัด จึงสัญนิษฐานว่า กูดต้นเป็นพืชสัญลักษณ์ของป่าบริสุทธิ์
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 104 นาที
20. เสียงป่า ลองหยุดนิ่งแล้วหลับตา จะได้ยินเสียงใบไม้หล่น เสียงลมพัด เสียงสายน้ำ นกร้อง เปรียบเสมือนวงดนตรีวงใหญ่
ระยะเวลาเดินจากจุดลงทะเบียนมายังจุดนี้ : 106 นาที
21. สรุป ป่าเมฆแห่งนี้ คือของขวัญที่ธรรมชาติสร้างไว้ เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศ
| การเข้าชม |
| เวลาทำการ : | ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00-16.00 น. |
| ช่วงเวลาเที่ยว : | เดือนธันวาคม – มกราคม ในช่วงเดือนมิถุนายน – ตุลาคม เส้นทางปิดปรับปรุง งดให้บริการเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว |
ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ
|
| ที่ตั้ง – ติดต่ออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ |
| ที่อยู่ : |
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ป.ณ.2 ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160 |
| เบอร์โทรศัพท์ : | 053-286730, 053-286728 |
| เวบไซต์ : | dnp.go.th |
| ที่พัก |
| อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ : | มีทั้งบ้านพัก เต๊นท์สนาม และที่กางเต๊นท์ สำรองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 02-5620-760 หรือ www.dnp.go.th
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053-355-728, 053-311-608 www.doiinthanon.com |
| สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ : |
ปิดให้บริการที่พักสำหรับบุคคลภายนอกอย่างไม่มีกำหนด |
| โรมแรม – รีสอร์ท : | มีโรงแรมและรีสอร์ทที่อยู่ใกล้ดอยอินทนนท์หลายแห่ง คลิ๊ก ที่พักดอยอินทนนท์ |
| การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ |
| รถยนต์ : | เส้นทางที่ 1 (สะดวกที่สุด)
จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่ -ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอ หางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง – อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม เส้นทางที่ 2 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางตามเส้นทางถนนสานเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จากอำเภอฮอดเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ฮอด (ทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วเลี้ยวขวาต่อไปยังอำเภอแม่แจ่มโดยเส้นทางสายออบหลวง-แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1088) จากอำเภอแม่แจ่มใช้เส้นทางสายแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192) ขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ที่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 กิโลเมตรที่ 38-39) เส้นทางที่ 3 เป็นเส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่ค่อนข้างจะลำบาก โดยทางจากจังหวัดเชียงใหม่ตามเส้นทางถนนสาย เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จากอำเภอสันป่าตอง เลี้ยวขวา ตามถนน สายสันป่าตอง – บ้านกาด-แม่วิน (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1013) แล้วต่อด้วยเส้นทาง ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1284 หรือ เส้นทาง ร.พ.ช. ผ่านบ้านขุนวาง และขึ้นสู่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ที่กิโลเมตรที่ 31 ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ |
| รถโดยสาร : | ไม่มีรถประจำทางผ่าน ต้องเหมารถแดงจากตัวเมืองเชียงใหม่ ราคารวมค่าน้ำมันวันละ 2,500 บาท หรือ เหมาสองแถวเหลือง หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ราคารวมค่าน้ำมันวันละ 1,500 บาท |
| ที่พักใกล้ดอยอินทนนท์ |
 |
ทัชสตาร์ รีสอร์ท
รีสอร์ทอยู่ใกล้ๆทางขึ้นดอยอินทนนท์ ที่พักสวย บรรยากาศดี เงียบสงบ สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักมีให้ครบ พนักงานบริการดี มีน้ำแร่ธรรมชาติให้อาบ หรือจะแช่ตัวในบ่อส่วนกลางก็ได้ |
 |
ดอยอินทนนท์ วิว รีสอร์ท
ใกล้ทางขึ้นดอยอินทนนท์ บรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มีจักรยานให้ปั่นเล่นในรีสอร์ท เจ้าของบริการดีเป็นกันเอง |
 |
แม่กลางบานเย็นฮิลล์
ห้องกว้างขวาง สะอาด บรรยากาศดี มีสนามหญ้ากว้างเหมาะให้เด็กวิ่งเล่นได้ ด้านหน้าติดน้ำตกแม่กลาง ด้านหลังติดสวนลำไย ด้านข้างติดทุ่งนา ติดชมชุนไม่เปลี่ยว เงียบสงบ เหมาะสำหรับพักผ่อน |
 |
มณฑาทิพย์ รีสอร์ท
ที่พักอยู่ใกล้ทางขึ้นดอยอินทนนท์ บริการบ้านพักเป็นหลัง บรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว ห้องพักสะอาด มีที่จอดรถ |
ดูโรงแรมใน เชียงใหม่ ทั้งหมด คลิ๊ก
Post Views 57816
