รีวิวซองกันน้ำกล้อง DiCAPac WP-ONE
ปัจจุบันคนหันมาเล่นกล้องกันมากขึ้น เนื่องจากกล้องไม่ได้มีราคาแพงเหมือนแต่ก่อน กล้องที่ขายกันทั่วไปส่วนมากจะเป็นกล้องที่ไม่ได้กันน้ำ ส่วนกล้องกันน้ำจะมีราคาค่อนข้างแพง อีกทั้งยังให้คุณภาพไฟล์ที่ไม่ดีเท่ากล้องทั่วไป และกล้องกันน้ำจะมีปัญหาเรื่องยางเสื่อมหลังจาก 2 ปีไปแล้ว ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางค่อนข้างแพง ถ้าไม่เปลี่ยนยางก็มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้ากล้อง แล้วทำให้กล้องพัง
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากให้กล้องธรรมดาที่มี กลายเป็นกล้องถ่ายรูปได้น้ำได้ ก็คือการซื้อซองกันน้ำมาใส่ ซองกันน้ำเป็นสินค้าที่มีหลายแบบ และ หลายราคามาก ทั้งของจีนราคาถูกคุณภาพตามราคา ของเกาหลีงานดีแต่ราคาแพง ในรีวิวนี้เราจะมารีวิวซองกันน้ำยี่ห้อ DiCAPac รุ่น WP-ONE ของเกาหลี เป็นเจ้าตลาดเรื่องซองกันน้ำ คุณภาพดีที่สุด ได้รับมาตราฐานกันน้ำของญี่ปุ่น
แกะกล่อง DiCAPac WP-ONE
ซองกันน้ำที่เราใช้รีวิวจะเป็น รุ่นสำหรับกล้องคอมแพคตัวเล็ก DiCAPac WP-ONE ราคาขายปลีกทั่วไปในบ้านเราจะอยู่ที่ 1,390 บาท และราคาของ Emagtravel Shop จะอยู่ที่ 1,090 บาทเท่านั้น ซื้อกับ Emagtravel Shop ประหยัดไปได้ 300 บาทเลย ก่อนที่จะดูรีวิว เรามาดูข้อมูลทางเทคนิค และรายละเอียดสินค้ากันก่อนครับ
สินค้าที่ขายจะแพคอยู่ในซองพลาสติกแข็ง
ข้อมูลทางเทคนิค
- ใช้ได้กับกล้องคอมแพคขนาดทั่วไป หลายรุ่น หลายยี่ห้อ
- เหมาะสำหรับว่ายน้ำ, เซิร์ฟ, คายัค, ตกปลา, สน๊อกเกิ้ล, สกี และกิจกรรม Outdoor ต่างๆ
- ป้องกันละอองน้ำ, น้ำ, ผง, ฝุ่น, หิมะ, ทราย
- กันน้ำได้สูงสุด 33ft (10M) มาตราฐาน JIS IPX8
- มี UV coating polycarbonate ที่ตัวเลนส์ทำให้ภาพดูใส
- ควบคุมกล้องได้ตามปกติ
รายละเอียดสินค้า
- ขนาด W x H : 105 x 160mm
- สี : ดำ
- วัสดุ : Case – PVC, TPU / Lens – ABS, Polycarbonate, Silicone / Extension ring – ABS
- สินค้ารวม Extension Ring & Neck Strap
- ผลิตในประเทศเกาหลี
แพคเกจนี้จะประกอบไปด้วย ซองกันน้ำ แหวนปรับระยะเลนส์สำหรับกล้องที่ซูมได้ยาว สายคล้องคอ และคู่มือ อย่างละ 1 ชิ้น
ชิ้นงานดูเรียบร้อย แข็งแรงดี ด้านหน้าด้านหลังซองเป็นพลาสติกเนื้อใส สามารถมองเห็นจอ LCD กล้องได้ตามปกติ
ในส่วนของการกันน้ำจะเป็นซิปล๊อค 1 ซิป แล้วม้วนปากถุงติดกับตีนตุ๊กแก 1 รอบ แล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแกใหญ่อีก 1 ชั้น
ตัวซิปล๊อคจะมีหน้าตาคล้ายกับพวกซองยา หรือถุงสูญญากาศ แต่มีขนาดใหญ่ และ แน่นกว่า
ปิดตีนตุ๊กแกชั้นแรก
ปิดตีนตุ๊กแกชั้นที่สอง
ซองด้านหลัง มองเห็นจอ LCD ชัดเจน
การใช้งานที่ถูกต้อง หลังจากปิดปากซองแล้ว ต้องไล่ลมในซองออก เพราะลมในซองเวลาอยู่ใต้น้ำจะไปดันซิปล๊อค อาจทำให้ซิปล๊อคอ้าได้ การไล่ลมของซองรุ่น WP-ONE ทำได้ง่ายมาก เพียงคลายวงแหวนปิดหน้าเลนส์ออก แล้วบีบซองไล่ลม แล้วหมุนวงแหวนกลับให้แน่น
สำหรับกล้องที่มีเลนส์ซูมยาวก็มีแหวนเสริมเพิ่มอีกชั้น ใส่แล้วก็จะมีหน้าตาเหมือนรูปด้านล่าง แต่ถ้าเลนส์ไม่ได้ยาวไม่ต้องใส่แหวนเสริมอันนี้นะครับ ไม่งั้นเวลาถ่ายรูปจะติดขอบดำ
ในคู่มือบอกว่าก่อนใช้งานทุกครั้งให้ทดสอบก่อน การทดสอบทำได้โดยการเอากระดาษทิชชู่ยัดเข้าไปด้านในซอง แล้วจับกดน้ำให้ท่วม ทิ้งไว้ซัก 1 ชั่วโมง ถ้ากระดาษทิชชู่ไม่เปียกก็เป็นอันว่ากันน้ำได้ ซองไม่รั่ว
ทดสอบการใช้งานจริงที่เกาะตาชัย พังงา
การทดสอบนี้ใช้กล้องคอมแพคราคาถูกรุ่นเก่า Fuji JX200 ถ่ายใต้น้ำในโหมด Auto
การทดสอบแรกจับกดน้ำ ให้คลื่นพัดไปพัดมา ให้น้ำท่วมซอง ทำอยู่หลายนาที ผลสรุปออกมา ไม่มีน้ำหรือทรายเข้าไปในซอง กันน้ำได้ 100%
ผ่านการทดสอบแรกเสร็จ จับล้างทรายออก มาผึ่งที่ริมหาด
การทดสอบที่สองถ่ายรูปใต้น้ำ ปรับกล้องเป็นโหมด Auto กดถ่ายอย่างเดียว พบว่าถ่ายรูปใต้น้ำเป็นงานที่ยากมาก โดยเฉพาะกล้องรุ่นเก่าๆ ที่ความไวชัตเตอร์ค่อนข้างต่ำ มีคลื่นซัดเข้ามานิดเดียว ภาพก็สั่นแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของซอง แนะนำให้ถ่ายรูปเผื่อคัดมาเยอะๆ ถ่ายทิ้งถ่ายขว้างไว้ก่อน แล้วค่อยมาคัดเอาทีหลัง
การกดชัตเตอร์ใต้น้ำสามารถทำได้เหมือนปกติ แต่สำหรับปุ่มหมุนแบบวงแหวน (Jog dial) ที่ตัวกล้องไม่สามารถหมุนผ่านซองจากผ่านนอกได้ ควรตั้งโหมดใช้งานให้เรียบร้อยก่อนนำกล้องไปใส่ในซอง หรือจะใช้งานโหมดวีดีโอก็สะดวกดีเหมือนกัน
รูปด้านบนเป็นผลงานของ DiCAPac WP-ONE + Fuji JX200 ดำน้ำสน๊อกเกิ้ล เกาะตาชัย
สรุปโดยรวมซองกันน้ำ DiCAPac WP-ONE
เป็นซองกันน้ำที่กันน้ำได้ 100% คุณภาพงานค่อนข้างดี สินค้ามีชื่อเสียง เหมาะสำหรับคนที่มีกล้องธรรมดาแต่อยากเอาไปถ่ายใต้น้ำ ซองกันน้ำของ DiCAPac มีรุ่นเยอะมาก ทั้งของกล้องคอมแพค, Mirrorless, DSLR และ Smartphone ถ้าไม่ติดเรื่องราคาที่สูงกว่าซองกันน้ำจีน ก็ถือว่าเป็นซองกันน้ำที่น่าใช้มาก คนที่ไปดำน้ำบ่อยๆ ควรมีไว้ใช้
Post Views 1761