วัดน้ำใส คิโยมิสุเดระ เกียวโต Kiyomizudera Temple
ญี่ปุ่น / เกียวโต / วัดน้ำใส คิโยมิสุเดระ
วัดน้ำใส หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ วัดคิโยมิสุเดระ (Kiyomizudera Temple : 清水寺) เป็นชื่อในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “น้ำบริสุทธิ์” วัดนี้คนไทยนิยมไปเที่ยว เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเกียวโต และได้เป็นหนึ่งในมรดกโลก (UNESCO world heritage sites) ด้วย ที่ตั้งของวัดจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกียวโต สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดนี้อยู่ที่ศาลาไม้ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา Otowa และรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น เมื่อมองจากศาลาไม้ลงไปที่ด้านล่างจะเห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดงในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และเห็นซากุระในช่วงซากุระบาน
วัดคิโยมิซุ เป็นวัดพุทธนิกายหนึ่ง วัดแห่งนี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 798 ในยุคเฮอัน ในการก่อสร้างส่วนของห้องโถงของวัด โชกุน Sakanoue Tamuramaroได้มีคำสั่งให้ถอดชิ้นส่วนจากวังแล้วมาประกอบที่วัด ส่วนศาลาไม้ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นทีหลังในปี ค.ศ. 1633 ในการก่อสร้างนั้นไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวใช้วิธีการเข้าไม้แบบโบราณ ส่วนสาเหตที่คนไทยเรียกวัดนี้ว่าวัดน้ำใส เนื่องจากว่าวัดนี้มีน้ำที่ใสบริสุทธิ์อยู่ 3 สายไหลลงมาที่น้ำตกโอโตวะ ให้นักท่องเที่ยวได้ตักดื่ม หรือ ล้างหน้า
นิโอะมอน (Nio-mon) ซุ้มประตูทางเข้าหลักของวัดน้ำใส เคยถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามระหว่างประชาชน ในปี ค.ศ. 1467-1477 และมีการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในปี ค.ศ. 2003 ประตูถูกรื้อออก และตกแต่งใหม่
ซุ้มประตูมีโครงสร้าง 2 ชั้น ขนาด 5 x 10 เมตร และสูง 14 เมตร
ไซมอน (Sai-mon) เป็นประตูฝั่งทิศตะวันตก อยู่ถัดจากนิโอะมอน (Nio-mon) ไปไม่ไกล ซุ้มประตูที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1631 เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินของวัด
หอระฆังของวัด มุมถ่ายรูปสวยของวัดน้ำใส
ศาลาซุยกุโด (Zuigu-do hall) ในรูปด้านล่าง สร้างขึ้นในค.ศ. 1718 มีภาพที่สำคัญเป็นภาพพระโพธิสัตว์ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Daizuigu) ที่คอยรับฟังความปรารถนาและแรงบันดาลใจของแต่ละคนและทุกคน
ฮอนโดะ (Hondo) อาคารหลักของวัดคิโยมิสุเดระ (อาคารในรูปด้านล่าง) เป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ ตั้งอยู่บนไหล่เขาโอตาวะ (Mt. Otowa) ความสูง 13 เมตร โครงสร้างทำจากไม้ มีการสร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1633 มีการบูรณะในปี ค.ศ. 2013-2014 และบูรณะใหญ่ ใช้เวลาถึง 4 ปี (กุมภาพันธ์ 2017 – มีนาคม 2020) ด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันมือ สิบเอ็ดเศียร (Kannon Bodhisattva) เมื่ออยู่ในอาคารนี้จะมองเห็นเมืองเกียวโตได้รอบ ถ้ามองดีๆ จะเห็น Kyoto Tower สูงเด่นจากสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
ภายในฮอนโดะ
รอบๆ hondo สามารถมองเห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างชัดเจน ซึ่งมักจะเปลี่ยนสีในช่วงวันที่ 20-30 พฤศจิกายน ของทุกปี
กิจกรรมยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่มาวัด หรือ ศาลเจ้า ก็จะเป็นการเสี่ยงเซียมซี หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Omikuji คำทำนายจะเป็นใบกระดาษแบบสุ่มหยิบ ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ดีสามารถไม่รับได้ โดยการพันไว้ที่เสา ฝากไว้กับวัด
ป้ายขอพร (Ema) ให้เขียนสิ่งที่ปรารถนาลงไป ส่วนมากจะขอเรื่องสุขภาพ การงาน การเรียน และ ความรัก
การเข้าชมรอบๆ วัดไม่เสียค่าเข้าชม หากต้องการไปที่ศาลาไม้ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและบริเวณที่น้ำ 3 สาย ไหลลงมา ต้องเสียค่าเข้าชม 400 เยน
ศาลาไม้ สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัด
น้ำตกโอโตวะ (Otowa no taki ) อยู่ด้านล่างของของศาลาวัดน้ำใส โดยแต่ละสายจะมีประโยชน์ที่ต่างกัน ได้แก่อายุยืน, ประสบความสำเร็จในการเรียน และ ชีวิตคู่ ชาวญี่ปุ่นมักจะดื่มน้ำทั้ง 3 สาย
แถวรอขึ้นไปยังจุดรองน้ำสามสาย
ขั้นตอนในการดื่มน้ำ
- ต่อคิวตักน้ำบนศาลาเท่านั้น ห้ามลงไปตักที่ด้านล่าง
- รองน้ำด้วยกระบวยเท่านั้น นำกระบวยเข้าฆ่าเชื้อโรคในเครื่องฉายรังสี Ultraviolet Sterilizer
- หากต้องการนำน้ำกลับบ้าน หรือต้องการกระบวยส่วนตัว ให้ซื้อกระบวยของทางวัดราคาประมาณ 300 เยน
- เทลงฝ่ามือ และดื่มจากฝ่ามือ หรือดื่มผ่านกระบวยที่ซื้อมา
ชมวัดน้ำใสช่วงกลางคืน ในช่วงดอกซากุระบาน วัดน้ำใสจะมีการเปิดให้เข้าชมเวลากลางคืน มีการเปิดไฟ (illuminations) สวยงามไปอีกแบบ โดยจะจัดในช่วง ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน และช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเปิดให้เข้าชมกลางคืนในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน และ ช่วงเทศกาลโอบง (Obon) ประมาณกลางเดือนสิงหาคม
ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก อยู่ระหว่างทางเข้าวัด ที่ถนนมาซึบารา Matsubara ของที่ขายก็จะเป็นขนม ไอติม softcream ของกินท้องถิ่น ของที่ระลึก ในช่วงใบไม้แดง ใบไม้เปลี่ยนสีคนจะเยอะเป็นพิเศษ ต้องเดินแบบไหลตามกันไป ตามมารยาทของคนญี่ปุ่น หากซื้อของกินแบบที่ทานเลย จะยืนทาน หรือ หาที่ทาน แต่จะไม่เดินไปกินไป
บริเวณหน้าวัด
ถนนมาซึบารา Matsubara – dori นักท่องเที่ยวที่ชมวัดเสร็จแล้ว จะเดินกลับทางนี้
เคล็ดลับในการชมวัด, ศาลเจ้าในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ให้ไปได้หลายที่ ใช้การเดินทางหลายๆ แบบ เช่นรถไฟ รถบัส แท๊กซี่ และ เดิน เพื่อเลี่ยงรถติด และควรออกจากโรงแรมแต่เช้า ทานมื้อกลางวันอย่างง่ายๆ หรือจะซื้อ เบอร์เกอร์ หรือ แซนวิช เก็บไว้ในกระเป๋า ทานเป็นมื้อเที่ยงก็ได้
ในช่วงเทศกาลควรวางแผนเที่ยววัดน้ำใส Kiyomizudera เป็นที่แรก ถ้ามาก่อน 8.00 น. ได้ยิ่งดี คนจะยังไม่เยอะมาก และ วัดน้ำใสตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกียวโต สามารถจัดโปรแกรมมาได้ง่าย
การเดินทาง |
รถไฟ : | ไม่มีรถไฟไปถึง สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเป็นสถานี Kiyomizu-Gojo ต้องต่อรถบัส หรือเดินประมาณ 1.8 กิโลเมตร | |
รถประจำทาง : | ลงที่ป้าย Kiyomizu-michi เดินเข้าถนน Matsubara Dori อีกประมาณ 900 เมตร |
การเข้าชม |
เวลาเปิด – ปิด : | เวลาปกติ 6:00 – 18:00 น.
ช่วง 25 มีนาคม – 2 เมษายน 14 – 16 สิงหาคม 18 – 30 พฤศจิกายน วัดเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืน (เพิ่มจากรอบกลางวัน) 18:00 – 21:30 น. (เข้าวัดไม่เกิน 21:00 น.) |
|
วันปิด : | ไม่มี | |
ค่าเข้าชม : | เวลาปกติ 400 เยน, รอบกลางคืน 400 เยน (มีบางเดือน) |
Post Views 7753