เที่ยวโอไดบะ โตเกียว Odaiba Tokyo ใน 1 วัน

ญี่ปุ่น / โตเกียว / โอไดบะ Odaiba

วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้วสำหรับทริปญี่ปุ่น 5 วันที่ผ่านมาเราไปเที่ยว เดินกันมาเยอะมากตั้งแต่โตเกียว โอซาก้า เกียวโต นารา และวันนี้เราเดินทางจากโอซาก้ากลับมาที่โตเกียว วันนี้จึงขอเที่ยวแบบเบาๆ ในโตเกียว เมืองที่เราจะไปเป็นเมืองใหม่ของโตเกียว ชื่อว่า Odaiba (โอไดบะ)

Odaiba เป็นแหล่งชอปปิ้งและความบันเทิงของโตเกียว ถ้าดูจากแผนที่แล้ว Odaiba มีสภาพเป็นเกาะอยู่ที่อ่าวโตเกียว ในสมัยเอโดะ ค.ศ.1603-1868 เกาะ Odaiba ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ (คำว่า daiba แปลว่าป้อมปราการ) ป้องกันการรุกรานของข้าศึก

ต่อมาอีก 100 กว่าปี เกาะ Odaiba ได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และ ท่าเรือ การถมทะเลในตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการก่อสร้างมาก ในปี ค.ศ. 1990 มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่ Odaiba และเริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นตึก Fuji TV Building, Telecom Center และ Tokyo Big Sight ตอนนี้ Odaiba เป็นเมืองใหม่ของโตเกียว มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกๆ รถไม่เยอะเหมือนโตเกียว และไม่วุ่นวาย

การมาเที่ยวใน Odaiba ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เพียงพอแล้วครับ พื้นที่ของ Odaiba ไม่ใหญ่มาก

การเดินทางมายัง Odaiba

นั่งรถไฟมาลงที่ JR Shimbashi* แล้วเดินออกไปที่สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome

หมายเหตุ* JR Shimbashi ถ้าหาใน google map จะเจอแต่สถานี JR Shinbashi จริงๆ แล้วเป็นสถานีเดียวกัน แต่มีกฎของภาษาญี่ปุ่นว่า ตัวสะกด n เมื่อเจอกับ พยัญชนะ b จะออกเสียงเป็น m คำว่า “Shimbashi” เป็นคำที่ตรงกับคำอ่าน ส่วนคำว่า “Shinbashi” เป็นคำที่ตรงกับภาษาเขียน

รูปล่าง. สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome

การเดินทางใน Odaiba

มีรถไฟสาย Yurikamome วิ่งทั่ว Odaiba เป็นรถไฟของเอกชนไม่สามารถใช้ JR Pass ได้ ค่ารถไฟเริ่มต้นที่ 180 เยน สูงสุด 370 เยน สามารถซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ หรือชำระผ่านบัตร Suica หรือ Passmo ได้ นอกจากนั้นยังมี One day pass ของ รถไฟสาย Yurikamome จะขึ้น-ลงกี่เที่ยวก็ได้ใน 1 วัน ราคา 800 เยน

ขั้นตอนการซื้อ One day pass รถไฟสาย Yurikamome

1. กด English ที่มุมขวา – บน ของจอ

2. กดจำนวนคนที่ปุ่มด้านซ้าย

3. ใส่เงินลงไปตามจำนวนคน ผู้ใหญ่คนละ 800 เยน

4. กดปุ่มสีฟ้า ONE-DAY OPEN TICKET 800

5. รับบัตรพร้อมเงินทอน (ถ้ามี)

รูปล่าง. บัตร One day pass รถไฟสาย Yurikamome

การขึ้นรถไฟก็สอดบัตรที่ประตูทางเข้าสถานี และสอดอีกทีที่ประตูทางออกสถานี พร้อมกับเก็บบัตรคืน

รถไฟสาย Yurikamome เป็นรถไฟที่ไม่มีคนขับ เบาะที่นั่งจะเล็กนิดนึงเนื่องจากเป็นรถไฟระยะสั้น แนะนำว่าให้ขึ้นที่หัวขบวนแล้วยืนที่ด้านหน้าจะเห็นวิวสวย

สถานีแรกที่ลง Odaiba-kaihinkoen สถานีนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่นสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge), Odaiba Seaside Park, อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty), ห้าง Decks Tokyo beach, ห้าง Aqua City Odaiba ชายหาด Odaiba และยังสามารถเดินทะลุไปยังห้าง Diver City, Palette Town และ ห้าง Venus Fort

เรียกได้ว่า Odaiba-kaihinkoen สถานีเดียว เที่ยวได้ทั้ง Odaiba

ลงจากรถไฟเดินเลียบชายหาดเพื่อมาถ่ายรูปกับสะพานสายรุ้ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเกาะโอไดบะเลยก็ว่าได้ ถนนบนเกาะ Odaiba โล่งมากแทบไม่มีรถวิ่งเลย บรรยากาศในเมืองนี้แตกต่างกับโตเกียวลิบลับ อากาศดีเพราะอยู่ติดทะเล ถ้าใครต้องการหนีความวุ่นวายในโตเกียวแนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่เลยครับ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองเวลาออกเดทก็นิยมมาที่นี่กัน

ต้นไม้ริมถนนเป็นต้นซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว และกำลังร่วง คาดว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน คงจะออกดอกสวยงาม

สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) เหตุที่ชื่อสะพานสายรุ้งมาจากตอนกลางคืนวิวที่สะพานจะเห็นแสงสีมากมายจากฝั่งโตเกียวเปรียบเสมือนสีของรุ้งที่มีหลากสี นอกจากนั้นเรายังสามารถมองเห็น Tokyo Tower จากจุดนี้ได้

ถ้าเดินเลียบชายหาดไปยังทิศตะวันตกก็จะเจอกับท่าเรือ Water bus (Odaiba-kaihinkoen) ให้บริการโดยเรือหลังคากระจกลำนี้ หน้าตาทันสมัยมาก สำหรับผู้ที่ต้องการนั่งเรื่อเล่น เราสามารถนั่งเรือไปลงที่ Asakusa ได้ในราคา 1,520 เยน ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที

บริเวณนี้มีนกนางนวลหนีหนาวมาอาศัยอยู่ด้วย มีอาหารนกขาย แต่ปริมาณนกยังเยอะสู้บางปูบ้านเราไม่ได้ครับ

ท่าเรือ Water bus (Odaiba-kaihinkoen) บริเวณนี้มีห้องน้ำ ร้านอาหารและร้านขายของเล็กๆ

มาถึงทะเลแล้วขอเดินชมทะเลญี่ปุ่นหน่อย ทะเลบ้านเค้าทรายไม่สวย เป็นทรายปนเลนสีดำ แต่มีดีที่สะอาด ดูน้ำทะเลเหมือนดำแต่จริงๆ แล้วไม่ดำนะครับ แต่ทรายเป็นสีดำ

ชายหาดสะอาดมากๆ ไม่มีขยะซักชิ้น คนเงียบๆ คนน้อยแบบนี้ ก็ยังมีคนมาเดินเก็บขยะที่ชายหาด

แม่พาลูกมาเล่นทราย

เล่นเรือใบ

ในรูปบนเป็นต้นซากุระใบกำลังจะร่วง ส่วนด้านหลังเป็นห้าง Aqua City Odaiba

ถ้าเดินขึ้น Sky walk มาเรื่อยๆ จะเจอกับอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty) ส่วนของจริงนั้นอยู่ที่นิวยอร์ค ประเทศอเมริกา

Statue of Liberty

วิวตรงนี้สวยสุดอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลองฉากหลังเป็นสะพานสายรุ้ง ช่วงเวลาที่สวยที่สุดจะเป็นช่วงเวลาเย็นเกือบมืดจะเห็นไฟที่สะพาน และบ้านเรือนฝั่งโตเกียวเป็นไฟระยิบระยับ

นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่นี่

ห้าง Aqua City Odaiba

จากตรงนี้จะมีทางเดิน Sky walk ไปยังห้าง Palette Town สถานี Aomi หรือถ้าขี้เกียจเดินก็นั่งรถไฟไป 4 สถานี แต่เดินไปก็ไม่ไกลนะครับ 5 นาทีได้ รถไฟมันวิ่งอ้อม

ผังเมือง Odaiba สุดยอดมาก สามารถเดินทะลุถึงกันได้หมด ทางเดินก็กว้างมาก

ห้าง Diver City Tokyo Plaza ห้างนี้มีสินค้า Brand name หลายยี่ห้อ เช่น Uniquo, H&M, Lacoste และร้านอาหารหลายร้าน ส่วนร้านที่ขึ้นชื่อก็มี Gundam Cafe เปิดมาเพื่อเอาใจคนรักกันดั้มโดยเฉพาะ ร้านนี้อยู่ด้านหลังหุ่นกันดั้ม

ที่หน้าห้างมีหุ่นกันดั้มขนาดเท่าของจริง สูง 18 เมตรตั้งอยู่ รายละเอียดสมจริงทุกสัดส่วน ใครที่ชอบสะสมโมเดลลองส่องดูได้ครับ ทำมาเนี๊ยบมาก หุ่นกันดั้มสามารถปล่อยควัน เปิดไฟที่ตัว หันหัวไปมาได้ แต่จะมีเวลาโชว์อยู่ ใครที่ต้องการไปดูกันดั้ม ต้องรีบไปดูนะครับ หุ่นตัวนี้ไม่ได้ตั้งถาวร ครบกำหนดแล้วก็จะไปโชว์ตัวที่อื่นต่อ

ทางเดินใน Odaiba กับแนวต้นแปะก๊วย ที่กำลังจะร่วง บางอารมณ์ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรปมากกว่าอยู่ในโตเกียว

ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel ในห้าง Palette Town

Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ความสูง 115 เมตร เคยเป็น 1 ในชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เมื่ออยู่ในส่วนที่สูงที่สุดจะมองเห็นอ่าวโตเกียว และ เมืองโอไดบะทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ค่าบริการคนละ 900 เยน ระยะเวลา 16 นาที

ห้าง Venus Fort เป็นห้างที่ตกแต่งออกแนวยุโรป คล้ายกับเวเนเชี่ยน มาเก๊า มีท้องฟ้าจำลองที่เพดาน ในห้างประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 100 ร้าน เน้นสินค้าแฟชั่น บูติค ร้านอาหาร

ในประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร การแต่งตัวจะดูดีมีเกียรติไม่แพ้อาชีพอื่น อย่างในรูปบนผู้หญิงชุดแดงใส่หมวก ถ้าเห็นเดินในสนามบินคงคิดว่าเธอเป็นลูกเรือ แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นพนักงานทำความสะอาด ยูนิฟอร์มดูดีมาก ไม่ได้เฉพาะห้างนี้ครับ พนักงานตามสถานีรถไฟก็ใส่สูทผูกไทค์กัน

ลานน้ำพุห้าง Venus Fort ทำแนวยุโรป

วันที่ไปมีการจัดแสดงรถ Ferrari & Lamborghini เลยได้เห็นรถสวยๆ หลายคัน

Lamborghini สีเหลือง

Ferrari รุ่นเก่า หายาก

Ferrari ขนมาโชว์ทั้งตระกูล

ร้าน Kiddy Land สาขา Venus Fort Odaiba ขายตุ๊กตา Sanrio, San-x, Line มีให้เลือกเยอะมาก ร้าน Kiddy Land นอกจากสาขานี้แล้วก็ยังมีสาขาที่ Harajuku

จุดประสงค์หลักที่เข้าห้าง Venus Fort เพราะว่าอยากชมรถที่ History Garage ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์รถคลาสสิคในช่วงปี ค.ศ. 1950 – 1970 พิพิธภัณฑ์รถ History Garage ดูแลโดย Toyota เข้าชมได้ฟรีครับ

History Garage จะอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 ของห้าง Venus Fort ชั้น 1 จะจัดแสดงรถคลาสสิคหลากหลายยี่ห้อ พร้อมบรรยากาศแบบจำลองในยุคนั้น

ทางเข้า History Garage

รถคลาสสิคหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่ละคันอยู่ในสภาพดีมาก เราสามารถเข้าไปดูได้อย่างใกล้ชิดแต่ห้ามจับ

มีใครเกิดทันเห็นรถพวกนี้วิ่งบนถนนบ้างครับ ของผมเคยเห็นบางคันนะ

นอกจากมีรถให้ชมแล้วยังมีหนังสือรถยี่ห้อต่างๆ ให้อ่านเหมือนเป็นห้องสมุดย่อมๆ เลย

หนังสือรถหลากหลายยี่ห้อ

บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุค 1980

ที่จอดในช่องแบบนี้จะเป็นรถหายากขึ้นมาหน่อย ที่ประเทศไทยถ้าอยากชมรถโบราณ คลาสสิคแบบนี้สามารถไปดูได้ที่ เจษฎา เทคนิค มิวเซียม พิพิธภัณฑ์รถโบราณ มีรถให้ดูเยอะกว่านี้อีกครับ เข้าฟรีด้วย

บรรยากาศตึกเก่า

ชมที่ชั้น 2 เสร็จเดินลงไปที่ชั้น 1 ชั้นนี้มีชื่อว่า Grand Prix Garage

ชั้นนี้จะเน้นไปทางของแต่งรถ และโมเดลรถ

สำหรับคนชอบรถน่าจะชอบพิพิธภัณฑ์รถนี้นะครับ

ระหว่างชมห้างเจอแผ่นหิน Mouth of Truth จำลอง ส่วนแผ่นหินของจริงอยู่ที่กรุงโรม อิตาลี Mouth of Truth เป็นแผ่นหินที่มีหน้าคน ในสมัยก่อนใช้ในการพิสูจน์ว่าใครพูดโกหก พิสูจน์โดยเอามือใส่ในปากถ้ามือใครขาดแสดงว่าโกหก

ออกจาก Venus Fort ข้ามไปตึกข้างๆ Megaweb Toyota City Showcase ที่นี่เป็นโชว์รูม Toyota มีรถรุ่นใหม่ๆ นวัตกรรม ต้นแบบรถในอนาคตให้ได้ชมกัน เข้าชมได้ฟรีครับ มีอยู่ด้วยกัน 2 ชั้น ชั้น 2 จะเป็นรถที่ขายในปัจจุบัน ส่วนชั้นล่างเป็นพวกรถโชว์ รถในอนาคต รถแต่งลุย

Toyota Tacoma เป็นรถกระบะทรงใหญ่ ไม่มีขายที่บ้านเรา

Toyota Venza หน้าตาสวยดี ไม่มีขายที่บ้านเราเหมือนกัน เสียดายรถดีๆ หลายรุ่นที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดบ้านเรา

เครื่องเล่นนี้เป็นตัวจำลองการขับขี่ทดสอบการควบคุม พวงมาลัย เบรค คันเร่ง และระบบ Safety ในรถ เล่นได้ฟรีครับ

Toyota MarkX ทั้งสปอร์ตและหรูในคันเดียว

ลงไปที่ชั้นล่าง

รถ Mitsubishi รูปทรงคลาสสิค แต่สภาพดีมาก

รถยนต์จากค่าย Sim-drive รถยนต์ค่ายนี้จะเน้นไปที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ ส่วนมากจะเป็นรถไฟฟ้าครับ หน้าตาก็ดูล้ำดี โค้งมน ลดแรงเสียดทาน

รถต้นแบบ Sim – Drive

TOYOTA – FJ CRUISER พร้อมชุดแต่งรอบคัน

Ride One Station สำหรับคนที่ต้องการทดลองขับ

GoPro รูปร่างเหมือนรถสำรวจ

รถ Cocoa Mira จากบริษัท Daihatsu ยี่ห้อนี้เคยได้รับความนิยมมากในบ้านเรา แต่ปัจจุบันไม่ทำตลาดแล้ว เท่าที่สังเกตดูรถญี่ปุ่นในปัจจุบันออกแนวป้อมๆ เหลี่ยมๆ แบบนี้

รถการ์ตูน น่ารักมาก

426GT

รถสปอร์ตด้านล่างแปลงมาจาก Schuppan 962CR

ชมรถเสร็จ เดินเล่นต่อ ร้านนี้ชมพูคิตตี้ทั้งร้านเลย Hello Kitty Kawaii Paradise

เดินเล่นใน Odaiba ถึงเย็น ต้องกลับโตเกียวแล้วครับ เราจะนั่งรถไฟจากสถานี Aomi ไปยังสถานี Shimbashi

ถนนในเมือง Odaiba โล่งมาก

มาแล้วรถไฟ Yurikamome ไร้คนขับ

ภายในรถไฟ

ถึงสถานี Shimbashi แล้ว

ทริปเที่ยว Odaiba ใน 1 วันก็จบเพียงเท่านี้ครับ Odaiba เป็นเมืองใหม่ในโตเกียวที่เที่ยวง่าย แต่ควรมีเวลาในนี้อย่างน้อยซัก 4 ชั่วโมงถึงจะพอ

Download แผนที่เมือง Odaiba – เส้นทางรถไฟสาย Yurikamome

สถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจใน Odaiba

  • Oedo-Onsen-Monogatari (สถานี Telecom Center)

เป็นบ่อออนเซ็นสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมมากในโตเกียว ภายในทำบรรยากาศแบบย้อนยุคสมัยเอโดะ มีร้านอาหาร กิจกรรมคล้ายงานวัด สปา มีบ่อออนเซ็นแยกชาย-หญิง หลายแบบ บ่อเล็ก, บ่อใหญ่, บ่อรวม, บ่อกลางแจ้ง, บ่อแช่เท้า, บ่อน้ำนม, บ่อน้ำชา ฯลฯ ค่าบริการออนเซ็น 1,980 เยน และถ้าเข้าหลัง 18.00 น. ราคา 1,480 เยน

  • พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ด์ (สถานี Odaiba-kaihinkoen)

อยู่ในห้าง Decks Tokyo beach พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วทั้งโลก สาขานี้เป็นแห่งแรกที่ญี่ปุ่น

  • Tokyo Trick art museum

พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติคล้าย Art in Paradise ที่บ้านเรา ด้านในเป็นรูปวาดแนวญี่ปุ่นแบบโบราณ อยู่ในห้าง Decks Tokyo beach ค่าเข้าผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 600 เยน

  • Museum of Maritime Science (สถานี Fune no kagakukan)

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปตึกเหมือนเรือขนาดใหญ่ ภายในมีนิทรรศการการเดินเรือ ขนส่งทางเรือ

อ่านตอนต่อไป –> เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ นอนโตเกียว

วันที่ 1: เดินทางกรุงเทพฯ – โตเกียว A380 การบินไทย นอนโตเกียว
วันที่ 3: เที่ยวนารา เมืองแห่งกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี นอนโอซาก้า ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 4-5: เที่ยวเกียวโต ชมศาลเจ้า วัดเก่า ใบไม้เปลี่ยนสี
วันที่ 6: นั่ง Shinkansen กลับโตเกียว เที่ยวโอไดบะ โตเกียว
วันที่ 7: เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 8: เที่ยว Nikko เมืองแห่งมรดกโลก สุสานโชกุน นอนโตเกียว ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 9: เที่ยว Mitake ตามรอยละคร “ข้างหลังภาพ” ดูใบไม้แดง
วันที่ 11: ชิบูย่า รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ ซื้อของฝากในสนามบิน บินกลับไทย
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น 11 วัน ค่าเครื่องบิน โรงแรม อาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ

Post Views 183801

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

40 thoughts on “เที่ยวโอไดบะ โตเกียว Odaiba Tokyo ใน 1 วัน

  • September 11, 2014 at 12:50 am
    Permalink

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะคะ เป็นรีวิวที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ แอบลอกการบ้านเอาไปจัดโปรแกรมทริปชมซากุระปีหน้าด้วย ^^

  • September 12, 2014 at 7:58 am
    Permalink

    ตอบคุณ NK

    ยินดีครับผม ^^

  • September 24, 2014 at 10:19 pm
    Permalink

    ให้ข้อมูลเยอะมากเลยคะ ชอบมาก และขอขอบคุณมากๆๆที่ทำรีวิวออกมา ทำให้คนที่จะไปเที่ยวไปได้ง่ายขึ้นมากเลยคะ

  • September 24, 2014 at 10:20 pm
    Permalink

    ลืมชมคะ ถ่ายภาพได้สวยมากด้วยคะ

  • September 25, 2014 at 11:17 am
    Permalink

    ตอบคุณ Pony

    ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและคำชมครับ 🙂

  • January 6, 2015 at 10:20 am
    Permalink

    ขอถามแอดมินหน่อยคะ คือตอนนี้กำลังเกี่ยวพาส Tokyo Free Kippu น่ะคะ เราสามารถใช้ shinkansen ได้ไหมคะ คือจะไปโอซาก้า 7 วันน่ะคะ

    2 วันแรกว่าจะเที่ยวอยู่ในโอซาก้า แล้วซื้อบัตร Osaka unimited 2days pass
    3-5 ไปโตเกียว นารา แล้วซื้อ KTP 3 days Pass (ร.ร ใกล้ subway ถึงไม่เลือก JR PASS น่ะคะ)
    6 ไปโกเบ ใช้ suica แบบเติมเงินเอา
    7 กลับโตเกียว คิดว่าจะซื้อ Tokyo Free Kippu น่ะคะเพราะว่าที่พักใกล้ subway คือไม่แน่ใจว่าบัตรนี้สามารถนั่ง shinkansen จากโอซาก้าเข้ามาโตเกียว ได้ไหมคะ เพราะเห็นบอกว่าในรอบเมืองโตเกียวร่ะคะ ดูจากตารางรถไฟแล้ว ถ้าซื้อตั๋วเป็นเที่ยวแพงมากเลยน่ะคะ

  • January 6, 2015 at 10:32 am
    Permalink

    ตอบคุณ Ari

    ขอถามแอดมินหน่อยคะ คือตอนนี้กำลังเกี่ยวพาส Tokyo Free Kippu น่ะคะ เราสามารถใช้ shinkansen ได้ไหมคะ คือจะไปโอซาก้า 7 วันน่ะคะ

    ใช้นั่ง Shinkansen ไม่ได้ครับ ถ้าจะใช้นั่ง Shinkansen จากโตเกียวไปโอซาก้า ต้อง JR Pass เท่านั้น หรือ ซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ

    7 กลับโตเกียว คิดว่าจะซื้อ Tokyo Free Kippu น่ะคะเพราะว่าที่พักใกล้ subway คือไม่แน่ใจว่าบัตรนี้สามารถนั่ง shinkansen จากโอซาก้าเข้ามาโตเกียว ได้ไหมคะ เพราะเห็นบอกว่าในรอบเมืองโตเกียวร่ะคะ ดูจากตารางรถไฟแล้ว ถ้าซื้อตั๋วเป็นเที่ยวแพงมากเลยน่ะคะ

    Tokyo Free Kippu ใช้สำหรับเดินทางในโตเกียวเท่านั้นครับ ไม่สามารถนั่ง Shinkansen ได้

    สำหรับการเดินทาง โตเกียว – โอซาก้า แนะนำ JR Pass 7 วันครับ เฉพาะค่าตั๋ว Shinkansen ไป-กลับ ก็พอๆ กับค่า JR Pass แล้ว ที่เหลือคือกำไร

  • January 6, 2015 at 10:47 am
    Permalink

    ช่วยแอดมินดูแพลนให้หน่อยได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ปวดหัวแล้วงงมากว่าจะใช้พาสไหนหรือะไรดีจะคุ้มกว่าน่ะคะ
    จะไป 15 วันน่ะคะ
    วันที่ 1 ไปถึงโตเกียวที่พักก็สองสามทุ่มแล้วคงอาจจะเดินแถวๆนั้นน่ะคะ ทีพักอยู่ใกล้ subway
    วันที่ 2 ไปฟูจิ เช้า เย็นกลับ ซื้อตั๋วแบบไหนดีคะ
    วันที่ 3-11 ไปโอซาก้าเที่ยวต่างเมืองด้วยแต่กลับมานอนที่โอซาก้าทุกคืน ที่พักใกล้ subway
    วันที่ 3-4 เที่ยวในโอซาก้า ว่าจะซื้อบัตร Osaka unimited 2days pass
    วันที่ 5-6 ไปเที่ยว เกียวโต แล้วซื้อ KTP 3 days Pass
    วันที่ 7 ไป นารา
    วันที่ 8 ไป โกเบ ใช้ suica แบบเติมเงินเอา เพราะดูจากตารางรถแล้ว ไปโกเบจะถูกกว่าไป นารา น่ะคะเลยคิดว่าซื้อตั๋วเป็นเที่ยวน่าจะดีกว่า
    วันที่ 9 กลับโตเกียว อันนี้ไม่รู้จะซื้อตั๋วแบบไหนดีน่ะคะ คิดว่าจะซื้อ Tokyo Free Kippu น่ะคะเพราะว่าที่พักใกล้ subway คือไม่แน่ใจว่าบัตรนี้สามารถนั่ง shinkansen จากโอซาก้าเข้ามาโตเกียว ได้ไหมคะ เพราะเห็นบอกว่าในรอบเมืองโตเกียวร่ะคะ ดูจากตารางรถไฟแล้ว ถ้าซื้อตั๋วเป็นเที่ยวแพงมากเลยน่ะคะ
    วันที่ 10-15 ไม่น่ามีปัญหาเพราะอยู่เที่ยวแต่ในโตเกียว พักที่โรงแรมเดิมใก้ล subway เลยว่าจะซื้อ Tokyo Metro subway 3 days pass มา 2 ใบมาใช้น่ะคะ ช่วยดูให้หน่อยน่ะคะ ขอบคุณมากคะ

  • January 6, 2015 at 10:59 am
    Permalink

    แล้วตอนที่แอดมินไปใช้ pocket wifi หรือ ชิมการด์ คะ หรือ ใช้ทั้งสองอย่างเลยดีกว่า
    แล้วถ้าใช้ pocket wifi 1 อัน มันสามารถใช้กับ 2 คนได้หรือปล่าวคะ หมายถึงว่าถ้ามี แท็บเล็ตหรือโทรศัพท์อีกอันของเพื่อนด้วยน่ะคะ แล้วแอดมินใช้หรือเอาไปจากที่นี้เลย หรือว่าไปหาเอาที่นู้นคะ

  • January 6, 2015 at 11:04 am
    Permalink

    ตอบคุณ Ari

    ตอนผมไปไม่ได้ใช้ pocket wifi หรือ ชิมการ์ดเลยครับ วางแผนไว้จากที่บ้านแล้วทั้งแผนหลักแผนสำรอง เวลาไปจริงก็เที่ยวตามแผนเป๊ะๆ เลย คือค่อนข้างเสียดายค่าเช่า pocket wifi นะครับ แต่ถ้ามีความจำเป็นก็เช่าเลยครับ

    ถ้าต้องการใช้มากกว่า 1 เครื่องแนะนำ pocket wifi ดีกว่าครับ จะเช่าที่ไทยหรือที่โน่นก็ได้ (จองก่อน) ตามสะดวกเลยครับ

    เรื่อง pass เดี๋ยวช่วยดูให้นะครับ

  • January 6, 2015 at 11:28 am
    Permalink

    ขอบคุณมากเลยน่ะคะ อ่านรีวิวของแอดมินเป็นประโยน์มากเลยคะ แล้วก็หาอ่านของคนอื่นๆด้วย แต่แค่ปวดหัวกับเรื่องพาสต่างๆนี้แหละคะ เพราะเยอะมาก จนไม่ค่อยแน่ใจว่าอันไหนมันจะเหมาะหรือคุ้มกับแพลนของเรามากกว่า เพราะเท่าที่ดูแล้ว ที่พักที่จะพักใกล้กับ subway มากกว่า อีกอย่างอ่านดูรีวิวหรือข้อมูลต่างๆ ถ้าซื้อแบบ KTP PASS น่าจะสะดวกกว่าเพราะดูจากตารางรถแล้ว น่าจะใช้ subway มากกว่า แล้วมันก็เยอะกว่า jr ด้วย แต่ติดตรงที่มันนั่ง shinkansen ไม่ได้ ? แล้วเราก็จะฟูจิ กับ โอซาก้า ถ้าจ่ายเป็นเที่ยวก็แพงอยู่เหมือนกันน่ะคะ อยู่ในโตเกียวก็เหมือนกันที่พักใกล้ subway ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะซื้อ JR pass น่ะคะ

  • January 6, 2015 at 11:39 am
    Permalink

    ตอบคุณ Ari

    ประเด็นหลักคือคุณ Ari ต้องเดินทาง ไป-กลับ โตเกียว – โอซาก้า ถ้านั่ง Shinkansen มันก็ต้องซื้อ JR Pass หรือถ้าอยากประหยัดก็มี Night bus แต่ความสะดวกสบายมันก็สู้ Shinkansen ไม่ได้

    ต้องสรุปตรงนี้ก่อนครับ ถึงจะสามารถสรุป Pass ที่เหลือได้

  • January 6, 2015 at 11:52 am
    Permalink

    ถ้าไม่มีทางเลือกก็คงต้องนั่ง night bus ล่ะคะ

  • January 6, 2015 at 4:02 pm
    Permalink

    Total:¥ 15,190(TicketFare:¥ 9,290 Seat Fee:¥ 5,900) Commuting ticket(1mon:¥ 20,530 3mon:¥ 58,520 6mon:¥ 110,880)
    Commuting ticket
    Time Route Fare Seat Fee UsefulLink
    18:36
    begin NINGYOCHO
    Station timetable | Add to favorite

    Map
    Hotel

    Rent-a-car

    [13 Min]
    through

    Toei Subway Asakusa Line

    Train timetable | Interval timetable
    ¥220

    18:49
    18:50
    through SENGAKUJI
    Station timetable | Add to favorite

    Map
    Hotel

    Rent-a-car

    [2 Min]
    through

    Keikyu Main/Airport Line Rapid Ltd. Exp.

    Train timetable | Interval timetable
    ¥140

    18:52
    19:07
    transfer SHINAGAWA
    Station timetable | Add to favorite

    Map
    Hotel

    Rent-a-car

    [146 Min]
    through

    SHINKANSEN NOZOMI 253

    Train timetable | Interval timetable
    ¥8,750

    21:33
    21:52
    transfer SHIN-OSAKA
    [ Arrival track No.24 ]
    Station timetable | Add to favorite

    Map
    Hotel

    Rent-a-car

    [2 Min]
    through

    Osaka City Subway Midosuji Line

    Train timetable | Interval timetable
    ¥180

    21:54
    end NISHINAKAJIMAMINAMIGATA
    Add to favorite

  • January 6, 2015 at 4:09 pm
    Permalink

    รบกวนแอดมินอีกทีนะคะ คือไม่ค่อยแน่ใจน่ะคะ ว่าอันไหนเป็นราคาของตั๋ว shinkansen น่ะคะ ตกลงมันแค่ 8,750 เยน หรือว่าดูตรง total หรือ ticket fare กันแน่คะ สมมุตว่าเราจะใชบัตร suica จากที่พัก แล้วลงที่ Shinagawa แล้วซื้อตั๋วรถไฟ shinkansen ในราคา 8,750 เยน ใช่ไหมคะ ขอบคุณคะ

  • January 6, 2015 at 4:34 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Ari

    ราคารวมดูที่ Total:¥ 15,190 ครับ

    สมมุตว่าเราจะใชบัตร suica จากที่พัก แล้วลงที่ Shinagawa แล้วซื้อตั๋วรถไฟ shinkansen ในราคา 8,750 เยน ใช่ไหมคะ ขอบคุณคะ

    ที่ถูกคือ ใช้ Suica จากที่พัก แล้วซื้อตั๋วรถไฟ shinkansen ¥ 15,190 ครับ

  • January 6, 2015 at 5:43 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากน่ะคะ ที่ช่วยดูแล้วตอบกลับมา ยังต้องคิดแพลนอะไรอีกเยอะเลยคะ

  • January 6, 2015 at 8:38 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Ari

    แก้ไขเรื่องราคาด้านบนครับ ซื้อตั๋วรถไฟ shinkansen จาก ¥ 15,190 เป็น ¥ 14,650
    เพราะราคาของ shinkansen จะเป็นการเดินทางระหว่าง Shinagawa – Shin-Osaka เท่านั้น

  • January 15, 2015 at 3:43 pm
    Permalink

    รบกวนสอบถามนิงนึงครับ จะเดินทางไปประมาณ พ.ค. 58 ประมาณ 10 วัน หลักๆก็เที่ยวในโดเตียวเเละรอบๆเมืองที่จะไป มี Kawaguchigo,Odaiba,Nikko,Kamakura ควรซื้อ JR Pass ไหมครับ เริ่มลังเลเเต่กลัวไม่คุ้ม

    ขอบคุณครับ

  • January 15, 2015 at 5:04 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Atikom yooyong

    ถ้าเที่ยวตามที่ว่ามา ไม่แนะนำให้ซื้อ JR Pass ครับ แนะนำให้อ่านข้อมูลการซื้อ JR Pass ที่ link ด้านล่างครับ

    https://www.emagtravel.com/archive/before-buy-jr-pass.html

  • January 20, 2015 at 2:42 pm
    Permalink

    รบกวน Admin หน่อยครับ

    พอดีผมจะไปเที่ยวและนอนที่ โอซาก้า แต่ผมจะเที่ยวโตเกียวเน้นไปที่ห้าง Diver City Tokyo Plaza คนเดียว อย่างเดียวเลย และกลับไป โอซาก้าในวันเดียวเลยครับ

    เลยอยากถาม ว่าผมต้องซื้อ ตั๋วรถไฟแบบไหนบ้างครับ ราคาตั๋วทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ พอดีเป็นมือใหม่กำลังหาข้อมูลเพราะลุยคนเดียวเลย ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่ครับ

    ขอคุณครับ

  • January 20, 2015 at 2:50 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Sorrasak Chantarasak

    ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาโตเกียว ไป-กลับ โดย Shinkansen ประมาณ 14,650 x 2 เยนครับ หรือประมาณ 8,500 บาท

  • January 20, 2015 at 5:23 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากเลยครับ Admin

    จากสถานี Shinkansen ไปห้าง Diver City Tokyo Plaza ที่ Admin โพสไว้นี่ต้องซื้อตั๋วรถไฟอื่นเพิ่มไหมครับ หรือเดินไปได้ครับ

    ขอบคุณครับ

  • January 20, 2015 at 5:28 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Sorrasak Chantarasak

    จากสถานี Shinkansen (Tokyo) ต้องนั่งรถไฟไปอีกครับ ตรวจสอบเส้นทางรถไฟที่นี่ http://www.hyperdia.com/

  • June 16, 2015 at 10:59 am
    Permalink

    เข้ามาอ่านโปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่นของadmin ได้ความรู้มากเลยค่ะ
    เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วเมื่อ ต.ค.57ไปกับทัวร์ ยังไม่สะใจ ครังนี้กะว่าจะไปเที่ยวเอง พ่อแม่ลูก 4 คนค่ะ
    สอบถามadmin นะคะว่าวางโปรแกรมแบบนี้ OK หรือป่าว
    วันที่ 1 กรุงเทพ-โตเกียว (ถึงโตเกียวสายๆ ช่วงบ่ายเที่ยวโตเกียว วัดอาซากุสะ ชิบุย่า) นอนโตเกียว
    วันที่ 2 โตเกียว – ฟูจิ – ฮาจุกุ นอนโตเกียว
    วันที่ 3 โอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า – ชินไชบาชิ นอนโอซาก้า
    วันที่ 4 โอซาก้า – เกียวโต วัดจิ้งจอก วัดน้ำใส นอนโอซาก้า
    วันที่ 5 ป่าไผ่ – สะพานโทเง็ตสิเคียว – วัดทอง – ชินไชบาชิ นอนโอซาก้า
    วันที่ 6 โอซาก้า – โตเกียว – โอไดบะ – ห้างกันดั้ม – ห้าง venus Fort นอนโตเกียว
    วันที่ 7 โตเกียว – กรุงเทพฯ
    โปรแกรมแบบนี้OK มั้ย (เน้น shopping ของเล่นกับกันดั้มค่ะ มีแต่ลูกชาย
    คิดว่าค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่(รวม ตั้งเครื่องบิน ที่พัก ตั๋วรถไฟ ค่าอาหาร) จองกับ agent จะถูกกว่าจองเองมั้ย
    ขอบคุณมากๆ ค่ะ
    ถ้าตอบจะเป็นพระคุณมากๆ เลยค่ะ

  • June 16, 2015 at 8:09 pm
    Permalink

    ตอบคุณ kae

    วันที่ 2 โตเกียว – ฟูจิ – ฮาจุกุ นอนโตเกียว

    ไปฟูจิออกแต่เช้า กลับมาก็มืดแล้วนะครับ อาจจะเที่ยวตอนกลางคืนได้อีกนิดนึง (ถ้าไหว)

    โปรแกรมแบบนี้OK มั้ย (เน้น shopping ของเล่นกับกันดั้มค่ะ มีแต่ลูกชาย
    คิดว่าค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่(รวม ตั้งเครื่องบิน ที่พัก ตั๋วรถไฟ ค่าอาหาร) จองกับ agent จะถูกกว่าจองเองมั้ย

    โปรแกรม OK แล้วครับเหมาะสมกับเวลา ค่าใช้จ่ายขึ้นกับช่วงเวลาที่ไปและสายการบินครับ ถ้าบิน Low cost นอน 3 ดาว รวมทุกอย่างแล้วตกคนละ 38,000-45,000 บาท ถ้าบินการบินไทย ตกคนละ 45,000-50,000 บาท

    เรื่องการจองแนะนำดังนี้ครับ

    สายการบิน : จองตรงกับสายการบิน หรือ เอเจนซี่เจ้าดังเท่านั้น ปัจจุบันมีเอเจนซี่เถื่อนโกงค่าตั๋วเครื่องบินเยอะมากครับ
    ที่พัก : agoda, booking, expedia
    JR Pass : HIS, TV air booking

  • July 2, 2015 at 10:41 am
    Permalink

    ขอบคุณมากค่ะ

  • October 28, 2015 at 5:42 pm
    Permalink

    จะไปเที่ยวญี่ปุ่น(ครั้งแรก) ช่วงสงกรานต์วันที่ 10-16 เมษาปีหน้าค่ะ

    เดินทางถึงเช้าวันที่ 11 เมษา
    วันที่ 11 -> ไป Diver city เพื่อถ่ายรูปกับกันดั้ม แล้วหาที่พักแถวตลาดปลาซึซึกิ

    วันที่ 12 -> เช้าหาของกินที่ตลาดปลาซึซึกิ
    บ่ายไปหาดูซากุระแถวUneo และไปต่อที่วัดอาซากุสะ แล้วกลับมาพักที่เดิม

    วันที่ 13 -> เช้าไปพิพิธภัณฑ์โดเรมอนที่ เมืองคาวาซากิ
    บ่ายเดินทางไปฟูจิคิว และพักแถวทะเลสาบคาวากุจิ

    วันที่ 14 -> ยังอยู่ที่ทะเลสาบคาวากุจิและพักอีกคืน

    วันที่ 15 -> กลับมาแวะช้อปที่ชิบูย่า พอบ่ายก็นั่งรถไปที่พักแถวสนามบินนาริตะ

    1. ถ้าเที่ยวแบบนี้จะแน่นและเหนื่อยไปไหมคะ
    2. จัดเส้นทางแบบนี้ควรใช้รถบัส รถเมล์หรือรถไฟจะคุ้มกว่าคะ
    3. ใจจริงก็อยากไปเที่ยวแบบไม่ต้องหิ้วกระเป๋า สามารถพักที่เดียวแล้วเสียเวลานั่งรถไปกลับเอา จะคุ้มกว่าไหมคะ
    4. จริงๆมีแผนสำรองถ้าทริปดูแน่นไปคือตัดกันดั้มกับโดเรมอนออกไป จะเหมาะกว่าไหมคะ

  • October 28, 2015 at 6:56 pm
    Permalink

    ตอบคุณ NN

    จะไปเที่ยวญี่ปุ่น(ครั้งแรก) ช่วงสงกรานต์วันที่ 10-16 เมษาปีหน้าค่ะ

    เดินทางถึงเช้าวันที่ 11 เมษา
    วันที่ 11 -> ไป Diver city เพื่อถ่ายรูปกับกันดั้ม แล้วหาที่พักแถวตลาดปลาซึซึกิ

    วันที่ 12 -> เช้าหาของกินที่ตลาดปลาซึซึกิ
    บ่ายไปหาดูซากุระแถวUneo และไปต่อที่วัดอาซากุสะ แล้วกลับมาพักที่เดิม

    วันที่ 13 -> เช้าไปพิพิธภัณฑ์โดเรมอนที่ เมืองคาวาซากิ
    บ่ายเดินทางไปฟูจิคิว และพักแถวทะเลสาบคาวากุจิ

    วันที่ 14 -> ยังอยู่ที่ทะเลสาบคาวากุจิและพักอีกคืน

    วันที่ 15 -> กลับมาแวะช้อปที่ชิบูย่า พอบ่ายก็นั่งรถไปที่พักแถวสนามบินนาริตะ

    1. ถ้าเที่ยวแบบนี้จะแน่นและเหนื่อยไปไหมคะ

    ไม่แน่น ไม่เหนื่อยครับ จัดว่าเป็นโปรแกรมสบายๆ เลยละครับ

    2. จัดเส้นทางแบบนี้ควรใช้รถบัส รถเมล์หรือรถไฟจะคุ้มกว่าคะ

    เน้นรถไฟเป็นหลักครับ ยกเว้น Kawaguchiko นังรถบัส สะดวกและประหยัดกว่ารถไฟครับ

    3. ใจจริงก็อยากไปเที่ยวแบบไม่ต้องหิ้วกระเป๋า สามารถพักที่เดียวแล้วเสียเวลานั่งรถไปกลับเอา จะคุ้มกว่าไหมคะ

    แนะนำพักในโตเกียว 5 คืนและ Kawaguchiko 1 คืนครับ ลองหาโรงแรมในโตเกียวที่สามารถฝากกระเป๋าได้

    4. จริงๆมีแผนสำรองถ้าทริปดูแน่นไปคือตัดกันดั้มกับโดเรมอนออกไป จะเหมาะกว่าไหมคะ

    ไม่แน่นเลยครับ

    ป.ล. ช่วงนั้นซากุระคงเหลือไม่เยอะเท่าไหร่นะครับ ต้องทำใจนิดนึง

  • October 30, 2015 at 1:05 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

  • December 2, 2015 at 10:17 am
    Permalink

    สอบถามแอดมินค่าว่ามีตั๋วอะไรบ้างที่ต้องซื้อจากเมืองไทย เห็นเค้าเขียนว่า exchange order คือจะไปแค่โตเกียว ดิสนี่แลนด์ และฟูจิ เท่านั้นค่ะ ลูกยังเล็กอ่ะ

  • December 2, 2015 at 11:05 am
    Permalink

    ตอบคุณ dolly

    ซื้อที่ญี่ปุ่นได้หมดเลยครับ มี Tokyo disneyland ที่สามารถซื้อผ่านตัวแทนในไทย หรือทางเวบได้ (และซื้อที่ญี่ปุ่นก็ได้)

  • January 10, 2016 at 1:47 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ
    กำลังแพบนไปเที่ยว โตเกียวและรอบๆ ช่วง 26/2-3/3 2016 นี้ค่ะ ไปเองกับครอบครัว ไม่เคยไปญี่ปุ่น และไม่มีความรู้การจัดทริปเองมาก่อนค่ะ

    หลังจากที่อ่านรึวิวตามกระทู้ต่างๆ พอจะวานแผนคร่าวๆ ตามนี้ค่ะ
    DAY 1ถึง NRT ว่าจะนั่ง Nex ไป yokohama เดินเล่นในโยโก และนอนโยโก 1 คืน ค่ะ
    DAY 2 จากโยโกฮาม่า จะไป kawaguchiko ค่ะ และพัก 1 คืนที่นั้น
    DAY 3 เที่ยวแถว kawaguchiko นิดหน่อยแล้ว กลับมาโตเกียวนอนโตเกียวค่ะ
    DAY 4 ไปนิกโก และกลับมานอนโตเกียว ที่เดิมค่ะ
    DAY 5 -6 เที่ยว ใน โตเกียว
    DAY 7 -ขึ้นเครื่องบินกลับค่ะ

    แพลนว่า จะซื้ nex tokyo round trip ticket 4000 เยน ไว้ใช้ ขาไป-กลับ จากสนามบิน
    แล้วซื้ jr kanto ใช้ day 2-4 ค่ะ
    ส่วนวันอื่นที่อยู่ในโตเกียว ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อ tikyo metro แบบ one day รึป่าวค่ะ

    ยังไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด นะคะ รบกวนช่วยดูแพลนให้ทีค่ะ ว่าแบบนี้พอโอเคไหม หรือว่าควรเปลี่ยนยังไงบ้างคะ ขอบคุนมากเลยนะคะ

  • January 11, 2016 at 1:14 pm
    Permalink

    ตอบคุณ หยกค่ะ

    Plan คุณโอเคแล้วครับ เลือกพาสได้ดีด้วย วันที่อยู่ในโตเกียวถ้าคุณเที่ยวไม่เกินวันละ 4 ที่ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อพาสครับ

    ป.ล. JR Kanto ไม่มีแล้วนะครับ เปลี่ยนชื่อเป็น Tokyo wide pass พร้อมกับปรับราคาใหม่

  • January 29, 2016 at 2:15 pm
    Permalink

    สวัสดีคะ

    รบกวนเรียนถาม Admin คะ พอดีมี plan จะไป Tokyo ช่วง 14-18 เมษา โดยวางแพลนคร่าวๆดังนี้คะ

    14 Apr ถึง Haneda นั่งรถเข้าเมือง พักแถว Shinjuku
    15 Apr เที่ยวใน Tokyo และ Odaiba
    16 Apr ไป Nikko โดยใช้ Tokyo wide pass ไปกลับ
    17 Apr ไป GALA YUZAWA หรือ Kawaguchiko โดยใช้ Tokyo wide pass ไปกลับ
    18 Apr ใช้ Nex ไป Narita ขึ้นเครื่องกลับ

    กะว่าจะใช้ Tokyo wide pass 3 วันสุดท้าย แต่มีข้อสงสัยรบกวน admin แนะนำค่ะ วันที่เที่ยวใน Tokyo และ Odaiba ควรซื้อ pass อะไรดีคะ และช่วงวันที่ 17 เมษา ควรไป GALA YUZAWA หรือไม่คะ ยังมีหิมะอยู่มั้ยคะ

    ขอบคุณค่ะ

  • January 30, 2016 at 3:35 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Aey

    กะว่าจะใช้ Tokyo wide pass 3 วันสุดท้าย แต่มีข้อสงสัยรบกวน admin แนะนำค่ะ วันที่เที่ยวใน Tokyo และ Odaiba ควรซื้อ pass อะไรดีคะ

    ในโตเกียววันที่เดินทางเยอะๆ ลองพิจารณา Tokunai Pass ดูครับ หรือจะใช้ Suica ก็สะดวกดีนะครับ ไม่ต้องยึดติดกับรถไฟบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ถ้าคุณไม่ใช่คนที่เที่ยวตั้งแต่เช้ามืดถึง 4-5 ทุ่ม พาสในโตเกียวไม่ได้ช่วยให้ประหยัดซักเท่าไหร่ครับ

    วันที่ไป Odaiba คุณต้องคำนวณดูครับว่า One day pass รถไฟสาย Yurikamome คุ้มหรือไม่

    ละช่วงวันที่ 17 เมษา ควรไป GALA YUZAWA หรือไม่คะ ยังมีหิมะอยู่มั้ยคะ

    ปีนี้อากาศแปรปรวนมากครับ หนาวช้า แล้วก็หนาวแบบกระทันหัน ไว้ใกล้ๆ วันไปค่อยดูสถานการณ์อีกทีนึงครับ แต่ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ ก็ยังมีหิมะอยู่ครับ

  • December 27, 2016 at 2:10 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ
    ขอบคุณสำหรับ ข้อมูล เป็นประโยชน์มากๆค่ะ
    รบกวน Admin ช่วยดู โปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่นให้หน่อยได้ไม๊คะ
    ไปครั้งแรก แล้วไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกครั้งเมื่อไหร่ เลยอยากไปทั้ง 2 เมืองค่ะ ^^

    ​Day 1 : Friday 12 May’17
    00:30 สุวรรณภูมิ
    08:40 Narita ผ่านตม ออกจาก Narita ประมาณ 10:30 เดินทางเข้าเมืองโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
    12:00 Arrive Tokyo เที่ยววัดอาซากุสะ (กินข้าวเที่ยงแถววัด) เสร็จแล้วเดินทางกลับ ชินจูกุ
    17:00 Check in โรงแรม เตรียมตัวออกกินขาปูที่ หรือ เดินเที่ยวแถวชินจูกุ
    21:00 กลับโรงแรมนอน โรงแรม J-Residence ชินจูกุ

    Day 2 : Sat 13 May’17
    07:00 เที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ หรือที่อื่นๆบริเวณ โตเกียว
    21:00 กลับโรงแรมนอน โรงแรม J-Residence ชินจูกุ

    Day 3 : Sun 14 May’17
    07:00 ออกเดินทางไป kawaguchiko จ้าา ขึ้นรถบัสที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้ ที่ชินจูกุ // นั่งรถประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
    10:00 ถึง kawaguchiko
    เทศกาล ชิบะซากุระ http://www.shibazakura.jp/
    20:00 นั่งรถ Night Bus ไป โอซาก้า

    Day 4 : Mon 15 May’17
    8:30 ถึงโอซาก้า มุ่งหน้า Universal
    17:00 เดินเล่นแถว โดตอมโบริ
    21:00 นอนโรงแรมที่โอซาก้า

    Day 5 : Tue 16 May’17
    8:00 เที่ยวโอซาก้า ( ปราสาท , วัด )
    13:00 เดินทางกลับโตเกียว (ชินกังเซ็น)? ประมาณ 3 ชั่วโมง
    18:00 เดินทางไปสนามบินฮาเนดะ

    Day 6 : Wed 17 May’17
    00:30 ออกเดินทางจาก Hanada
    05:00 ถึงสุวรรณภูมิ

    ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

  • December 27, 2016 at 2:12 pm
    Permalink

    ลืมคำถามค่ะ 55
    1.แพลนแบบนี้ พอจะเป็นไปได้ไม๊คะ
    2.จำเป็นต้อซื้อ J Pass หรือ Pass ใดๆไม๊คะ
    ขอบคุณค่ะ

  • December 28, 2016 at 7:40 am
    Permalink

    ตอบคุณ JJ

    อยากให้ตัด Osaka, Universal ออกจากโปรแกรมครับ เวลาน้อยเกินไป ไม่คุ้มค่าเดินทาง คุณต้องเสียค่าเดินทางเพื่อไป Osaka 6,700 + 14,650 เยน เพื่อไปเที่ยวเพียงวันครึ่ง
    ส่วนการเดินทาง คงต้องเน้นซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ ไปครับ JR Pass ไม่คุ้มครับ

  • January 12, 2017 at 5:02 pm
    Permalink

    ขอบคุณค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *