รีวิวเชียงคาน กิน เที่ยวเชียงคาน ภูทอก แก่งคุดคู้
เคยอ่าน รีวิวเชียงคาน ของคนอื่นมาก็เยอะ ดูรูปมาก็ไม่น้อย แต่คราวนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วครับ ทริปเชียงคาน ทริปนี้ เราเดินทางด้วยรถตู้ ออกเดินทางตอน 3 ทุ่มกว่า ผ่านจังหวัดอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพยายามหลับให้ได้มากที่สุด เวลาตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่น รถตู้มาเช้าเอาที่ อ. ภูเรือ เราแวะมาสัมผัสความหนาวที่ยอดภูเรือ ยอดภูที่ได้ชื่อว่าหนาวสุดในประเทศไทย
ยอดภูเรือ จ.เลย
แ้ล้วก็ไม่ผิดหวังครับ หนาวมากๆ ลมแรงด้วย น่าจะประมาณ 10 องศา ขนาดว่าสิ้นเดือน มกราคมแล้ว
จากภูเรือเราก็แวะเที่ยวรายทางยาวไปที่ อ. เชียงคาน ด้านบนเป็นร้านกาแฟเก๋ๆ ชื่อร้าน LOVE เลย COFFEE แวะทานกาแฟตอนเช้าซักหน่อย กว่าจะถึงเชียงคานก็บ่ายพอดี
วันที่ 1 ถนนคนเดินเชียงคาน
สำหรับที่พักในทริปนี้เราพักกันที่ ไทเชียงคาน เป็นเกสเฮ้าส์ริมน้ำโขง อยู่ตรงถนนศรีเชียงคาน 19 มีห้องแอร์ ห้องนอน 2 คน ห้องนอนรวม แต่ทั้งหมดเป็นห้องน้ำรวมครับ ตอนแรกผมก็กังวลว่าเกสเฮ้าส์ จะไม่สะดวกสบาย ไม่เป็นส่วนตัว แล้วความคิดก็ต้องเปลี่ยน เพราะลุงกับป้าดูแลดี และเป็นกันเองมาก เหมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน ในห้องมีน้ำดื่ม ผ้าเช็ดตัวให้่ด้วย ชา กาแฟ ขนมปัง มีให้ฟรี ชงเอาเอง
มุมนั่งเล่น รับลม ชมวิวแม่น้ำโขงที่ ไทเชียงคาน เกสเฮาส์
ผมนอนห้องขนาด 2 คน พอเอาของเก็บเสร็จ จะขอกุญแจเค้า เพื่อจะได้ล๊อคห้อง ไปขอกับลุง ลุงก็ให้กุญแจห้องมา แต่ป้าแอบบ่นว่าที่นี่ไม่มีขโมย ไม่ต้องล๊อคห้องหรอก ลุงกับป้านะผมเชื่อว่าไม่ทำอะไรหรอก ที่กลัวก็เป็นนักท่องเที่ยวขาจร ที่พักในเกสเฮ้าส์เดียวกับเรา
กิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาเชียงคาน
– ปั่นจักรยาน เดินถ่ายรูป ที่ถนนคนเดินกับบ้านไม้เก่าๆ และชมวิวแม่น้ำโขง
– เข้าวัด ไห้วพระ เชียงคานมีวัดอยู่ 3 วัด ใกล้ๆ กับถนนคนเดิน ได้แก่วัดศรีคุณเมือง, วัดมหาธาตุ, วัดท่าคก
– ทานอาหารพื้นเมือง ปลาแม่น้ำโขง, ข้าวเปียกญวน, อาหารอีสาน
– ตักบาตรข้าวเหนียว เป็นวิถีชีวิตชาวเชียงคานที่มีมานานแล้ว
ทริปนี้ผมขออาสาเป็นไกด์พาเที่ยวรอบเชียงคาน เมืองโบราณ บ้านไม้ ริมน้ำโขง, ภูทอก, แก่งคุดคู้ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามกันมานะครับ
ถนนคนเดินเชียงคาน จะเป็นถนนเส้นคู่ขนานกับแม่น้ำโขง ตั้งแต่ซอย ศรีเชียงคาน 5 – ศรีเชียงคาน 22 โดยปกติแล้วจะไม่มีรถยนต์เข้ามา นอกจากว่ามาส่งของ หรือมารับ/ส่งนักท่องเที่ยว จึงสามารถเดินชม หรือปั่นจักรยานได้สะดวก
เรือนไม้ที่เห็นนั้น เป็นที่ตั้งของ โรงแรมพูลสวัสดิ์ โรงแรมเรือนไม้แห่งแรกของ อ. เชียงคาน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2493 ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วประมาณ 70 ปีได้ แต่สภาพยังดูดีอยู่มาก
มาเลยเด้ เป็นเกสเฮ้าส์ครับ สังเกตุว่าร้านค้าหรือที่พักส่วนใหญ่จะมีคำว่า “เลย” อยู่ด้วย
รักเลย ภายในร้านรักเลยจะมีโปสการ์ด magnet ติดตู้เย็น และของเก่าสะสมอยู่เยอะ ของบางชิ้นก็เริ่มหาดูได้ยากแล้ว มุมด้านขวาล่างรู้สึกจะมีโปสเตอร์ รูปภาพ ของท่านผู้นำเกาหลีเหนือเยอะเลย
เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ โบราณ
จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่รถ Mini couper 177 สีส้มคันนี้ ใครมาก็ชอบมาถ่ายรูปกัน
ร้าน เจอเลย ขายเสื้อผ้าและบริการห้องพัก
สุเนต์ตา โฮสเทล โฮสเทลริมน้ำโขง ผ่านมาทีไรต้องเห็นคนมาถ่ายรูปคู่กับป้ายและจักรยานคันนี้
ตู้ไปรษณีย์โบราณที่หน้าถนนศรีเชียงคาน ซอย 14 หน้าไปรษณีย์ชายโขง ดูเก่ามากครับ
บ้านชานเคียง ที่เชียงคาน เข้าใจเอาคำผวนตั้งชื่อร้านดีแฮะ
ร้านนิยมไทย เห็นกลางวันร้านเงียบๆ อย่างนี้ กลางคืนขายดีมากครับ ร้านนี้ขายผ้าห่ม ผ้านวม ราคาถูก ราคาผืนเล็กเริ่มต้นที่สองร้อยกว่าบาทเท่านั้น ราคาขายทางร้านจะชั่งเป็นกิโล ที่นี่เย็บเอง ทำเอง ขายเอง เงินทองไม่รั่วไหล เกสเฮ้าส์ ไทเชียงคานที่ผมไปพักก็ใช้ผ้าห่มจากร้านนี้เหมือนกัน
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับร้าน จำเลยรัก ในบรรดาร้านทั้งหมด ผมจะติดใจชื่อร้าน จำเลยรัก ที่สุดเป็นชื่อร้านที่ติดปากมาก อาจจะเป็นเพราะเคยดูละครจำเลยรักแล้วชอบ ร้านนี้ขายสินค้าที่ระลึก เสื้อยืด ถุงผ้า โปสการ์ด มีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ของว่าง ขายด้วย
ร้าน ไอเดีย ดีดี ก็เป็นร้านโปสการ์ด เก๋ๆ hand made รับรองว่าไม่ซ้ำที่ไหน มีทีนั่งพร้อมดินสอ ปากกา ให้เขียนข้อความลงโปสการ์ดแล้วส่งที่หน้าร้านได้เลย ร้านนี้เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์นะครับ
อดีตโรงเรียนจีน ข้างในเป็นอะไรก็ไม่รู้
ยานพาหนะรับจ้างที่เชียงคานจะเป็นสามล้อเครื่อง หรือที่เรียกกันว่าสกายแลป
โรงแรมสุขสมบูรณ์ เป็นโรงแรมติดแม่น้ำโขง ที่เดียวที่มีที่จอดรถ ปกติแล้วเกสเฮ้าส์อื่นจะไม่มีที่จอดรถ ต้องไปจอดในวัด
ร้านขายของที่ระลึกและสินค้า OTOP สองผัวเมีย (Husband & Wife) เป็นเกสเฮาส์ในตัวด้วย ชื่อให้ความหมายตรงๆ ซื่อๆ ดี
จำไว้เลย เชียงคาน เป็นอีกร้านนึงที่มีคนนิยมมาถ่ายรูปคู่กับป้าย จำหน่ายของที่ระลึก โปสการ์ด
คิดถึง ณ เชียงคาน ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ผ้าขาวม้า ของที่ระลึก นอกจากนั้นยังมี นวดแผนไทย ไทเลย ไว้บริการ คุณยายที่นั่งหน้าร้านน่าจะเป็นเจ้าของร้าน
บ้านหลังนี้ ที่จักรยานพิงอยู่ เหมือนจะเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในเชียงคาน ได้ยินมาว่ามีอายุเป็นร้อยปี ตอนนี้ทางชุมชน กำลังจะอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้
เรือนแรมลูกไม้ เกสเฮ้าส์ เคยเป็นบ้านเจ้าสัวเก่ามาก่อน เป็นบ้านปูนสไตล์โบราณ
ภู่ เชียงคาน ราชาภาพยนต์
ร้านค้าชุมชน บ้านมั่นคงเชียงคาน ขายของทั่วไปเหมือนร้านโชว์ห่วย และมีเสื้อผ้า ผ้าพันคอ ของฝาก ของที่ระลึกขาย
ในเส้นถนนคนเดินเชียงคานจะมีวัดอยู่ 2 วัดด้วยครับ วัดแรกชื่อ วัดศรีคุณเมือง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2485 อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย 7 ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน
วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25
นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์ไม้แกะสลักลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม
วัดที่สอง วัดท่าคก ดูจากลวดลายการสร้างแล้ว คงจะเก่าแก่ไม้แพ้กัน
นอกจากถนนคนเดิน บ้านไม้เก่าๆ วัดวาอารามแล้ว เสน่ห์อีกอย่างของเชียงคานก็คือแม่น้ำโขง ที่เป็นพรมแดนกันประเทศไทยกับลาวไว้ เราสามารถเดินเล่นหรือปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขงได้เรื่อยๆ จะมีซอยที่ทะลุออกถนนคนเดินได้เป็นช่วงๆ
ตอนเย็นๆ เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่จะเดินชมวิว ดูวิถีชีวิต เรือสัญจรไปมา
รูปด้านบนเป็นประเทศลาว ยังมีต้นไม้อุดมสมบูรณ์อยู่มาก
ยิ่งหัวค่ำยิ่งคึกคัก คนเริ่มมาเดินเยอะขึ้น ร้านค้าบางร้านก็เพิ่งเปิดตอนเย็น ช่วงเย็นๆ ร้านโปสการ์ดกับของที่ระลึกจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
ร้านเด็กเมื่อวานซืน เชียงคาน
ร้านเร่มาเลย ทางขวาของร้านจะมี สุนัขชิชสุ เป็นแบบให้ถ่ายรูปด้วย ยืนนิ่งไม่ไปไหนเลย
พี่นักร้องเปิดหมวกคนนี้ ร้องเพลงหาเงินไปซื้ออุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนวิจิตร วิทยา
หลังจากเดินจนเมื่อยแล้ว เราก็กลับที่พัก ที่ไทเชียงคาน เจอคุณลุงกับคุณป้ากำลังทำความสะอาดที่พักอยู่ แกก็มาคุยด้วยว่าไปเที่ยวไหนมาบ้าง มีอะไรน่าสนใจตรงไหนบ้าง ยอมรับเลยว่าแกดูแลดีจริงๆ นี่แหล่ะครับที่เป็นเสน่ห์โฮมสเตย์ ถ้าใครไม่เคยไปเชียงคาน แนะนำให้พักที่ ไทเชียงคาน เกสเฮาส์ เลยครับ ไม่ได้เป็นหน้าม้านะครับ อันไหนดีจริงก็เล่าสู่กันฟัง
วันที่ 2 ภูทอก แก่งคุดคู้
เช้าวันรุ่งขึ้นเรามีโปรแกรมไปดูทะเลหมอกที่ ภูทอก และไปชม แก่งคุดคู้ สำหรับภูทอกนั้นถ้าต้องการดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ตื่นซัก 5.30 นัดรถให้มารับตอน 6.00 โดยปกติแล้วค่ารถประมาณคนละ 100 บาทครับ แต่ถ้าใครเอารถมา ก็สามารถขับไปได้ถึงด้านล่างของภูทอก
แต่ถ้าขี้เกียจตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก อยากตักบาตรข้าวเหนียว แล้วซัก 7-8 โมง ค่อยขึ้นไปดูทะเลหมอกที่ภูทอกเลยก็ได้ แต่ทะเลหมอกมีเป็นบางวันนะครับ ถ้าอยากรู้ว่าวันไหนมีทะเลหมอกเปล่า ให้สังเกตุได้จากหมอกที่แม่น้ำโขง คุณลุงที่เกสเฮ้าส์บอกเราว่า เมื่อความหนาวของอากาศ มาเจอความอุ่นของน้ำโขง ก็จะกลายเป็นหมอก
รถมารับเราตามนัดที่หน้าเกสเฮาส์ ตอน 6 โมง ใช้เวลาขับไปถึงตีนภูทอกประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็ต้องต่อรถของ อบต ขึ้นไปด้านบน ไม่สามารถเอารถขึ้นไปเองได้ เพราะไม่มีที่จอดรถ ค่าบริการ ไป-กลับภูทอก คนละ 30 บาท เป็นรถกระบะบ้าง ปิคอัพมีหลังคาบ้าง ภูทอกไม่สูงมากครับ ขับรถขึ้นไป 10 นาทีได้
เราขึ้นไปถึงด้านบนก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นพ้นภูเขา ฝั่งนึงจะเป็นวิวแม่น้ำโขง อีกฝั่งจะเป็นวิวหมู่บ้าน ที่ฝั่งหมู่บ้าน เห็นไฟระยิบระยับคล้ายกับดาว สวยไปอีกแบบครับ ที่จุดชมวิวมีคนมาจับจองที่ก่อนเราเยอะเลย
ที่ด้านบนของภูทอกเป็น สถานีคมนาคม เชียงคาน ไม่มีห้องน้ำนะครับ ถ้าปวดก็เลือกมุมเข้าป่า หรือพุ่มไม้เอาตามสบายครับ แต่อาจจะหามุมยากหน่อย เพราะคนเยอะเต็มไปหมด ทางที่ดีก็จัดการให้เรียบร้อยก่อนเลยจะดีกว่า
น่าเสียดายว่าวันที่เราไปไม่มีหมอก เนื่องจากว่าวันก่อนมีฝนตก ทำให้หมอกหายไป แต่ก็ยังมีวิวสวยๆ เห็นแม่น้ำโขงและฝั่งลาวให้ได้ชมกันครับ
จากรูปจะเห็นว่ามีหมอกจางๆ ที่โคนต้นไม้เท่านั้น
ลาจากภูทอกด้วยภาพนี้ครับ
จากนั้นเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่ แก่งคุดคู้ สำหรับคนที่ชอบขี่จักรยานสามารถขี่จักรยานมาแก่งคุดคู้ได้ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ด้านหน้าแก่งคุดคู้ มีร้านขายของฝาก ร้านอาหารหลายร้าน เมนูขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นปลาแม่น้ำโขง กุ้งตัวเล็กๆ ที่จับได้ในแม่น้ำโขง และน้ำเสาวรส
ร้านขายของฝาก กล้วยฉาบ, มะพร้าวแก้ว, มะขามคลุกน้ำตาล
ถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานว่าเรามาถึงแก่งคุดคู้แล้ว ถ้าเดินลงบันไดไปยังด้านล่างจะเป็นหาดแม่น้ำโขง
ระหว่างลงไปด้านล่างเจอพี่ผู้ชายถือกะลามังที่ใส่กุ้งฝอยที่จับได้ในแม่น้ำโขง เลยขอถ่ายรูปไว้ซะหน่อย คาดว่าคงเอาไปทอดหรือไปทำกุ้งเต้น
ลงไปถึงด้านล่างแล้วหันหลังมาถ่ายรูป ศาลาแหลมๆ นั่นเป็นจุดชมวิวครับ
ที่ริมน้ำมีก้อนหิน ก้อนกรวด มีทรายลาดลงไปในน้ำคล้ายกับหาด
ส่วนนี้่เป็นแก่งหิน วางขวางกลางแม่น้ำโขง อยู่ในช่วงโค้งของแม่น้ำ ทำให้มีกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ไม่ควรลงเล่นน้ำครับ ในหน้าน้ำจะมองไม่เห็นแก่งนี้
ถ้าใครอย่างล่องเรือชมแม่น้ำโขง ที่นี่มีบริการพาเที่ยวด้วยครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
วิถีชีวิตชาวประมงในแม่น้ำโขง ผมยืนดูเค้าจับปลาซักพัก ก็พอจะจับได้ปลาตัวเล็กๆ ครับ
ด้านล่างเป็นซุ้มขายอาหาร มีที่นั่งกิน ชมวิว อาหารส่วนมากจะเป็นอาหารอีสาน กุ้งเต้น และเมนูปลาแม่น้ำโขง
เห็นรถสกายแลปจอดอยู่เลยถ่ายรูปมาฝากกัน
สายๆ เราก็แวะกลับเชียงคาน กินอาหารพื้นเมือง ชามนี้เรียกว่าข้าวเปียกญวนครับ ใส่หมูยอหั่น หมูสับ มีเส้นเหนียวนุ่ม คล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ส่วนไข่นั้นเป็น Option เสริม
เชียงคานในตอนสายๆ มีผลไม้ราคาถูก วางขาย
เมืองเชียงคานนั้นถึงแม้ว่าจะมีบ้านไม้โบราณอยู่มาก แต่ก็มีอินเตอร์เนต และความเจริญเข้าถึงเหมือนเหมือนทั่วไป อย่างรูปด้านล่าง เด็กเล่นอินเตอร์เนตกับเครื่อง Mac
ทริปเชียงคานขอจบแต่เพียงเท่านี้ บ๊าย บายครับ
ข้อควรระวัง
เนื่องจาก อ.เชียงคาน อยู่ใกล้กับประเทศลาว ใครที่ตั้งให้โทรศัพท์ โรมมิ่ง อัตโนมัติ (Roaming) ควรเปลี่ยนให้เป็น Manual เพราะอาจจะมีการโรมมิ่ง อัตโนมัติให้เป็นเครือข่ายของลาว ทำให้ต้องเสียค่าโทรศัพท์ ค่าบริการอื่นๆ ในราคาแพงกว่าปกติ
การเดินทางมาเชียงคาน (จากกรุงเทพฯ)
– เส้นทางที่ 1 ระยะทาง 582 กม. ออกจากกรุงเทพฯ ทางวิภาวดี-รังสิต ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าไปทาง สระบุรี เมื่อถึงสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไปทาง ลพบุรี เพชรบูรณ์ เมื่อถึงแยกหล่มสัก ตรงขึ้นไป อ.ด่านซ้าย อ.ภูเรือ (ถนน 203) ก่อนจะถึงเมืองเลยให้เลี้ยวซ้ายไป อ.เชียงคาน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมง ครึ่ง
– เส้นทางที่ 2 ระยะทาง 613 กม. ออกจากกรุงเทพฯ ทางวิภาวดี-รังสิต ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าไปทาง สระบุรี เมื่อถึงสระบุรี ให้เลี้ยวขวาไปปากช่อง ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านเขื่อนลำตะคอง เลี้ยวซ้ายที่แยกมิตรภาพ ไปทางถนน 201 ด่านขุนทด – ชัยภูมิ เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย (ถนน 201) ไปทาง อ.แก่งคร้อ – อ.ภูเขียว – อ.ชุมแพ – ภูกระดึง – วังสะหุง – อ.เมืองเลย จำง่ายๆว่าตั้งแต่แยกมิตรภาพ ใช้ถนน 201 ยาวไปถึงเชียงคานเลย ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมง
การเดินทางโดยรถโดยสาร
บริษัทขนส่ง จำกัด
– รถปรับอากาศ ม.2 กรุงเทพฯ –> เชียงคาน เวลา 20.00 น.
– รถปรับอากาศ ม.2 เชียงคาน –> กรุงเทพฯ เวลา 18.40 น.
– รถปรับอากาศ VIP กรุงเทพฯ –> เชียงคาน เวลา 22.00 น.
– รถปรับอากาศ VIP เชียงคาน –> กรุงเทพฯ เวลา 19.30 น.
บริษัทแอร์เมืองเลย
– รถปรับอากาศ ม.1 กรุงเทพฯ –> เชียงคาน เวลา 7.30 น. และ 19.30
– รถปรับอากาศ ม.1 เชียงคาน –> กรุงเทพฯ?? เวลา 8.00 น. และ 18.30
บริษัทภูกระดึงทัวร์
– รถปรับอากาศ ม.2 กรุงเทพฯ –> เชียงคาน เวลา 19.30 น.
– รถปรับอากาศ ม.2 เชียงคาน –> กรุงเทพฯ?? เวลา 19.00 น.
ที่พักแนะนำ
- สุเนต์ตา โฮสเทล ตกแต่งสวย บรรยากาศดี ติดแม่น้ำโขง มี wifi ให้ใช้ฟรี
- ดิโอลเชียงคาน บูติคโฮเต็ล โรงแรมไม้แบบโบราณ อยู่ติดแม่น้ำโขงและถนนคนเดิน มี wifi และที่จอดรถ
- มาเลยเด้ เกสเฮ้าส์ บ้านไม้ บรรยากาศแบบโฮมสเตย์แท้ๆ กันเองเหมือนอยู่บ้าน
- โรงแรมบ้านเฮา เป็นกันเอง สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านญาติ มีจักรยานให้ใช้ฟรี
- สองผัวเมีย เกสเฮ้าส์ เกสเฮ้าท์เล็กๆ ที่น่ารัก เจ้าของอัธยาศัยดี เป็นกันเอง ห้องนอนสะอาด หลังบ้านมีสวนเล็กๆ บรรยากาศดี หน้าร้านขายของที่ระลึกด้วย
- เถ้าแก่ลาว ห้องสะอาด บริการดี มีของเก่าให้ชม
- โรงแรมสุขสมบูรณ์ กว้างขวางสะอาดสะอ้านมีสองฝั่ง ฝั่งริมถนนเป็นของเก่า คืนละ 400 บาท ใช้ห้องน้ำรวมมีสุขา 2 ห้อง และห้องอาบน้ำมีน้ำอุ่นด้วย 2 ห้อง มีที่จอดรถ ส่วนฟากริมแม่น้ำโขงเป็นห้องใหม่ที่มีห้องน้ำในตัว
- เรือนแรมลูกไม้เกสท์เฮ้าส์ ที่ นี่เคยเป็นบ้านเจ้าสัวเก่าของเมืองเชียงคาน ค่อนข้างใหญ่โตและโอ๋อ่ามากสำหรับสมัยก่อน ปัจจุบัน ทำเป็นเกสท์เฮ้าส์ พร้อมกับเป็นแกลลอรี่ ห้องพักมีทั้งหมด 5 ห้อง ราคาประมาณ 300-400 บาท
- เชียงคานเกสท์เฮ้าส์ ที่ พักราคาค่อนข้างถูกมากแถมเจ้าของก็ใจดี อารมณ์บ้านไม้สองชั้นห้องน้ำแยก เตียงไม้มีมุ้ง แต่ก็สะอาดดี คืนละไม่เกิน200 บาท ต่อคน ที่นี่มีระเบียงริมโขงให้นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ หรือชมวิว
Link
– โปรแกรมเที่ยวเชียงคาน 2 วัน 1 คืน
Post Views 194807
เขียนบทความได้น่าสนใจมากค่ะติดตามรายละเอียด มีการลงรายละเอียดอธิบายทุกหัวข้อเก่งมากค่ะ รบกวนช่วยติดต่อกลับได้มั้ยค่ะพอดีอยากให้มาเขียนบทความแนะนำให้กับโรงแรมหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ